Aiim: หนีไปเป็นชาวเกาะสวรรค์ที่ “โอกินาว่า” ตอน 4 (Churaumi Aquarium)

Story & Photo by Aiim

สวัสดีครับ ในที่สุดก็ต้องเดินทางมาถึงรีวิวสุดท้ายของตอน “หนีไปเป็นชาวเกาะสวรรค์ที่โอกินาว่า” สำหรับตอนสุดท้ายนี้ขอพาเพื่อนๆไปเที่ยวที่ที่เป็นไฮไลท์สำคัญอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดโอกินาว่าซึ่งไม่ควรจะพลาดด้วยประการทั้งปวงนั่นก็คือ พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำทางทะเล ชูราอูมิ (Okinawa Ocean Expo Park & Churaumi Aquarium) ที่ตั้งอยู่ในเมือง โมโตบุ (Motobu City) คุณจะได้ตื่นตากับฉลามวาฬยักษ์ที่สามารถมองผ่านกระจกใสในแทงก์น้ำขนาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก “Kuroshio” มีขนาดความจุน้ำ 7,500 ลูกบาศก์เมตร และลึกเหมือนท้องทะเล 22.5 เมตร พร้อมด้วยบ่อสัมผัสที่ให้คุณได้ทดลองสัมผัส สัตว์ทะเลจริง ๆ ด้วยมือของคุณเอง อาทิเช่น ปลาดาว และเม่นทะเล เปิดทุกวัน 08.30-18.30 น. ข้อมูลเพิ่มเติม http://oki-churaumi.jp/en/

สำหรับการเดินทางไปในครั้งนี้พวกเราตั้งใจว่าจะซื้อ one day trip เนื่องจากเราไม่ได้เช่ารถยนต์ขับและพิพิธภัณฑ์แห่งนี้อยู่ทางตอนเหนือของเกาะซึ่งไกลพอสมควรพวกเราจึงตัดสินใจเลือกซื้อทัวร์ซึ่งในทัวร์นี้จะพาเราไปยังสถานที่ใกล้เคียงที่น่าสนใจระหว่างทาง อาทิเช่น ผามันซาโมะ หมู่บ้านวัฒนธรรมริวกิว สวนผีเสื้อ และ สวนสัปปะรดผลไม้ชื่อดังของเกาะแห่งนี้ แต่ทว่าเป็นโชคไม่ดีของพวกเราวันนั้นดันฝนตกตั้งแต่เช้าทางทัวร์จึงขอแคนเซิล….

ทีนี้พวกเราก็มองหน้ากันว่าทำยังไงดีล่ะ วันพรุ่งนี้ก็ต้องกลับบ้านแล้วนะอันนี้เป็นไฮไลท์สำคัญของทริปเสียด้วยจึงไปหยิบโบรชัวร์บริษัทนำเที่ยวมาดูอีกครั้ง โชคช่วย!!! พวกเราได้ทัวร์ครึ่งวันที่พาไปเที่ยวชูราอูมิอย่างเดียวโดยเฉพาะในราคา 3700 เยน สำหรับราคานี้รวมค่ารถบัส ไกด์ทัวร์แสนน่ารักที่เอาใจใส่ลูกทัวร์ทุกคนดีมากประหนึ่งเราเป็นลูกของนาง แต่เป็นทัวร์ที่ไกด์จะพูดเฉพาะภาษาญี่ปุ่นเท่านั้น !!! แต่ว่าทางบริษัทมีเครื่องแปลภาษาให้เช่าสามารถแปลได้หลายภาษาทั้งภาษาอังกฤษ เกาหลี จีน แต่พวกเราขอไม่ใช้เพราะของีบดีกว่า 55555 ……

เริ่มต้นด้วยพวกเราให้ทางฟร้อนท์โรงแรมโทรไปจองทัวร์ให้หลังจากนั้นทางบริษัททัวร์ก็นัดลูกทัวร์ทั้งหมดให้ไปเจอกันที่สนามบินนาฮาทางฝั่งผู้โดยสารในประเทศเวลาบ่ายโมงครึ่งหลังจากรวบรวมสมาชิกทัวร์ทั้งหมดครบแล้วประมาณ 12 ชีวิตรถบัสคันเล็กของเราก็เริ่มเดินทางออกจากสนามบินนาฮาไปทางตอนเหนือของเกาะมุ่งสู่พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำชูราอูมิ

หลังจากรถออกสตาร์ท คุณไกด์สุดน่ารักของเราก็เล่าประวัติต่างๆของเมืองว่ามีความเป็นมาอย่างไรบ้างรวมถึงสถานที่สำคัญที่รถบัสของเราแล่นผ่าน…. แต่พวกเราก็หลับไปเนื่องจากฟังไม่รู้เรื่อง….พอตื่นมาอีกทีก็ใกล้จะถึงที่หมายแล้วระหว่างทางเป็นวิวริมทะเลที่สวยงามมาก น้ำทะเลสีเทอควอยซ์สลับกับก้อนหินน้อยใหญ่แต่เสียใจอย่างเดียวถ้าวันนี้ฝนไม่ตกเสียก่อนบรรยากาศข้างทางคงจะสวยงามมากๆ และแล้วพวกเราก็เดินทางมาถึงใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงกับอีก 40 นาที ลงจากรถเสร็จทางคุณไกด์ก็ให้เราเดินตามและนัดแนะให้พวกเรามาเจอกันอีกทีเวลา 6 โมงเย็นที่รถแล้วพวกเราก็แยกย้ายกันเดิน ระหว่างทางเราได้พบกับการจัดแสดงพรรณไม้ดอกไม้เป็นรูปสัตว์ทะเลนานาชนิด

หลังจากนั้นก็เดินมาเรื่อยๆจนถึงทางเข้าจะพบกับรูปปั้นของเจ้าบ้านพี่ฉลามวาฬตัวใหญ่มากกกกก

ก่อนที่เราจะเข้าชมตัวอะควาเรียมก็ได้ยินประกาศบอกว่ากำลังจะมีการแสดงโชว์ปลาโลมาแสนรู้ซึ่งน่ารักและฉลาดมากๆ

อันนี้เป็นโชว์ตลกโดยที่เจ้าหน้าที่โยนปลาทูให้เจ้าโลมาทานทีละตัวแต่เจ้าโลมาก็คายออกมาเหมือนว่าน้อยไปนะชั้นไม่กินหรอก เจ้าหน้าที่ก็โยนเรื่อยๆเพิ่มขึ้น 2 3 4 5 9 ตัว เจ้าโลมาก็ไม่ยอมกินคายออกมาหมด ตอนท้ายเจ้าหน้าที่โยนเข้าไปหมดปลาทูเข้าไปทั้งถังเจ้าโลมาจึงกลืนไปหมดเลยโชว์นี้เรียกเสียงปรบมือจากผู้ชมได้อย่างแน่นฮอล์ลแสดงทีเดียว

หลังจากนั้นพวกเราก็เดินไปดูกันต่อที่ศูนย์อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล

ที่บ่อใกล้ๆกันก็มีเจ้าพะยูนตัวใหญ่ แหวกว่ายไปมาพร้อมกับกินผักกาดขาวอย่างสบายใจ

หลังจากนั้นก็เดินไปดูกันที่พิพิธภัณฑ์ที่เก็บรักษาซากสัตว์น้ำและโครงกระดูกของปลาฉลามวาฬและสัตว์น้ำต่างๆ

เมื่อเดินชื่นชมจากจุดนี้จบพวกเราก็พร้อมแล้วที่จะไปชมเจ้าบ้านซึ่งเป็นไฮไลท์ของทริปนี้และนี่คือรูปของตัวอาคารด้านบนซึ่งเป็นที่ตั้งในส่วนของอะควาเรียมทั้งหมด

เดินขึ้นบันไดเลื่อนมาเรื่อยๆจนถึงประตูทางเข้าด้านหน้าของอะควาเรียม

สำหรับใครที่ยังไม่มีตั๋วเข้าชมสามารถมาซื้อหากันได้ตรงจุดประตูทางเข้าราคาของผู้ใหญ่ปกติ 1800 เยน ส่วนตั๋วเข้าชมที่ทางคุณไกด์แจกให้เราเป็นตั๋วที่สามารถจะใช้ได้หลัง 4 โมงเย็นเป็นต้นไปสนนราคาก็จะลดลงเหลือ 1260 เยน

เมื่อเดินเข้ามาด้านในส่วนแรกจะเป็นส่วนของการให้นักท่องเที่ยวเข้ามาสัมผัสกับสัตว์น้ำตัวเป็นๆโดยสามารถจับขึ้นมาได้แต่ห้ามเกินบริเวณของผิวน้ำ

จับกันพอหอมปากหอมคอก็เข้าสู่ส่วนของการแสดงสัตว์น้ำหลากหลายชนิดไม่ว่าจะเป็นปะการัง ปลานานาชนิดแต่เราชอบตัวนี้มากที่สุดเพราะนางนอนนิ่งมาก….คงจะว่ายจนเหนื่อย

และก็มาถึงกุ้งมังกรตัวใหญ่มากเห็นแล้วหิวทีเดียว!!

แล้วอันนี้ก็ตัวอะไรไม่รู้น่าตาตลกมากๆ อาจจะเป็นไส้เดือนทะเลก็เป็นได้

และแล้วเราก็เดินกันมาจนถึงจุดสุดท้ายที่เป็นไฮไลท์ของอะควาเรียมแห่งนี้ คือส่วนของแท้งค์ที่สามารถมองผ่านกระจกใสในแท็งก์น้ำขนาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก “Kuroshio” มีขนาดความจุน้ำ 7,500 ลูกบาศก์เมตร และลึกเหมือนท้องทะเล 22.5 เมตรเป็นที่อยู่ของพระเอกสามตัวซึ่งเป็นเจ้าบ้านนั่นก็คือเจ้าฉลามวาฬและบรรดาลูกสมุนปลากระเบนยักษ์และปลาอีกน้อยใหญ่นับร้อยๆชนิด

แล้วสุดท้ายตามธรรมเนียมเราก็จะเดินออกมาเจอกับจุดขายของที่ระลึก

ลากันไปด้วยภาพของตัวสัตว์สัญลักษณ์ของจังหวัดโอกินาว่าซึ่งคนพื้นเมืองเรียกว่า ตัวซิซะ…..
แล้วพบกันใหม่คราวหน้าจะพาไปเที่ยวที่ไหนต้องติดตามกันนะครับ 🙂

aquariumChuraumiFriend's StoryNahaOkinawaชูราอุมินาฮาพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำอควาเรี่ยมเพื่อนพาเที่ยวโอกินาวา