ยามากาตะ (Yamagata) ตั้งอยู่ในภูมิภาคโทโฮคุ สามารถเดินทางมาได้สะดวกจากโตเกียวด้วยรถไฟชินคันเซ็นเพียง 2 ชั่วโมง 45 นาที เป็นจังหวัดที่มีที่เที่ยวดังๆเยอะมาก ใครๆก็รู้จักกินซันออนเซ็น ปีศาจหิมะที่ซะโอ แล้วก็ยังมีอีกที่คือ ยามาเดระ ที่ต้องเดินขึ้นเขา 1,200 ขั้นไปด้านบนวัดริชชาคุจิ ที่เราแนะนำกันไปแล้วในตอนแรก

อ่านรีวิวตอนแรก : Yamagata: เที่ยวยามากาตะฤดูหนาว ตอน 1 : ยามากาตะ และรอบๆ
อ่านรีวิวตอนสาม: Yamagata: เที่ยวยามากาตะฤดูหนาว ตอน 3 : Tsuruoka & Gassan Shizu Onsen

สำหรับตอนนี้ เราเดินทางไปเก็บพื้นที่ใหม่กันบ้าง โดยจะเป็นการขับรถแคมปิ้งคาร์เที่ยวในช่วงฤดูหนาวท่ามกลางหิมะ ให้สมกับที่ได้มาเยือนอาณาจักรแห่งหิมะกัน ได้ลองประสบการณ์เที่ยวญี่ปุ่นด้วยรถคันใหญ่แบบนี้เป็นครั้งแรกด้วย ความสนุกอยู่ที่ตรงนี้แหละ

รถแคมปิ้งคาร์ของ VANTECH เป็นรถที่ทำขึ้นในญี่ปุ่น มั่นใจได้ในเรื่องของความปลอดภัย และการใช้งานที่แบบคิดมาแล้วอย่างดีทุกฟังก์ชั่น! ด้านในรถโอ่โถงมากๆ เป็นเหมือนห้องนั่งเล่น มีมุมโต๊ะทำงาน นั่งกินข้าวได้ ติดฮีตเตอร์ แถมยังมีตู้เย็น ไมโครเวฟ ที่ล้างจาน และตู้เก็บของอีกมากมาย

ถ้าใครอยากจะนอนในรถก็ทำได้นะ บรรดาเบาะต่างๆที่เราใช้นั่งก็สามารถเอามาถอดประกอบกลายเป็นเตียง นอนได้แบบสบายๆ สูงสุด 5 คน เอาจริงๆคือถ้ามีคนขับเป็น แอดว่าเดินทางด้วยรถแบบนี้ก็ถือว่าแปลกใหม่ดี สนุกกว่านั่งรถคันเล็กๆทั่วไป ถ้าไปกันเป็นครอบครัวหรือกลุ่มเพื่อนสนิทๆแนะนำเลย!! ใครสนใจ มีให้เช่าทั้งที่ นาริตะ และ ยามากาตะ ราคาเริ่มต้น 19,800 เยน ต่อวัน ดูรายละเอียดที่นี่ VANTECH

ด้านในกว้างขวาง สามารถปรับพื้นที่ไว้สำหรับนอนบนรถได้ด้วย

จะนั่งเล่น นอนเล่น นั่งทำงาน ก็สะดวกมากๆ

วิวระหว่างทางจากหน้าต่างในรถสวยเหมือนกรอบภาพวาด

Mogamigawa Senbon Dango

ลืมภาพของดังโงะที่คุณเคยรู้จัก เพราะที่นี่คือร้านดังโกะหน้าล้นที่อยากให้มาลอง แป้งดังโกะทำมาจากข้าวคุณภาพดีของท้องถิ่น เมืองโออิชิดะ และมีหน้าให้เลือกมากมาย แต่รสคลาสสิกจะมี 5 รสคือ ซุนดะ (ส่วนตัวเราชอบมากกกก) โชยุ, งาดำ, ถั่วแดง, วอลนัต และมีเมนูตามฤดูกาล ที่ตกแต่งไว้น่ากินมากๆ ถ้าดูจากรูปแล้วจะเห็นเลยว่า ร้านนี้ตักเครื่องให้แบบไม่มีกั้ก และรสชาติดี ไม่หวานเลี่ยนเกินไป ทำให้ลองกินได้หลายรส แนะนำว่าให้เผื่อเวลาสักหน่อย เพราะร้านนี้จะคิวยาวมาก ขายดีจนต้องเอามาตั้งเป็นชื่อร้าน ว่าขายได้วันละเป็นพันๆไม้

  • เวลาทำการ: 8.30-17.30 น.
  • การเดินทาง: จากสถานี Oishida เดิน 15 นาที (ถ้าขับรถมา ด้านหลังร้านมีที่จอดรถ)
  • เว็บไซต์

ด้วยความที่อยากกินทุกอย่าง เราเลยจัดกันมาครบทุกรส ^ ^

Cruising the Mogamigawa

แม่น้ำโมกามิ (Mogamigawa) มีชื่อเสียงในญี่ปุ่นจากการปรากฏในบทกวีของปรมาจารย์ไฮกุ Basho Matsuo ที่แต่งบทกวีนี้ระหว่างล่องเรือไปตามกระแสน้ำเชี่ยวกราก โดยบรรยายถึงการไหลอย่างรวดเร็วของแม่น้ำโมกามิหลังฝนตกตามฤดูกาลเป็นเวลานาน แม่น้ำโมกามิเป็นหนึ่งในแม่น้ำที่ไหลเร็วที่สุดของญี่ปุ่น และที่นี่เองมีกิจกรรมล่องเรือไปตามกระเเสน้ำของแม่น้ำโมกามิ พร้อมกับชมวิวของทั้งสี่ฤดูกาลตลอดทั้งปี 

ในฤดูหนาวตั้งแต่ช่วงปลายเดือนธันวาคมถึงกุมภาพันธ์เราจะได้ดื่มด่ำกับทิวทัศน์ที่ปกคลุมไปด้วยหิมะ สร้างความสวยงามแบบคลาสสิคชวนให้นึกถึงภาพวาดพู่กันหมึกญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม และจะมีให้บริการทัวร์ล่องเรือโคทัตสึแบบพิเศษที่อบอุ่นร่างกายในโคทัตสึบนเรือ และเพลิดเพลินไปพร้อมกับสาเกร้อนสักถ้วย นอกจากนี้คนขับเรือจะมีการร้องเพลงพื้นเมืองและการพูดคุยอย่างเป็นกันเองในภาษาท้องถิ่นที่ช่วยเพิ่มเสน่ห์อันเป็นเอกลักษณ์ด้วย

ระหว่างล่องเรือจะมีกิจกรรมที่ปัดเป่าสิ่งไม่ดีออกจากตัว คือจะมีกระดาษรูปคนใส่มาในซองจม. ที่ผ่านการทำพิธีกรรมมาแล้ว โดยให้เรานำกระดาษนำออกมาตบที่จุดที่เราเจ็บปวด เป่า 3 ครั้ง เปิดหน้าต่างเรือ แล้วปล่อยกระดาษลงในแม่น้ำ

  • เวลาทำการ: 9.00-16.30 น. (ฤดูหนาว ธ.ค.-มี.ค.) ดูรอบเรือได้ทางเว็บไซต์
  • ค่าใช้จ่าย: เที่ยวเดียว 2,500 เยน ไป-กลับ 3,900 เยน
  • การเดินทาง: จากสถานี Furukuchi เดิน 10 นาที
  • เว็บไซต์

กระดาษรูปคนใส่มาในซองจม. ให้โยนลงแม่น้ำ ปัดเป่าสิ่งไม่ดีออกจากตัว

ถึงวันนี้คนขับเรือจะบอกว่าสภาพอากาศไม่ดี เราเลยไปได้ไม่ไกลมาก แต่ก็ได้เห็นบรรยากาศสวยๆ ท่ามกลางหิมะโปรยปรายแบบนี้

Sakata Beika Mogamigawa Factory

ถ้าถามถึงโซลฟู๊ดของโทโฮคุกับคนท้องถิ่นที่นี่ ไม่ว่าใครก็ต้องรู้จัก ขนมขบเคี้ยวเซมเบ้ของแบรนด์ Sakae Beika ที่มีประวัติศาสตร์มานานกว่า 70 ปี ปัจจุบันมีสินค้าในเครือมากมายหลายสิบยี่ห้อ โดยยังคงเสน่ห์ของขนมอบกรอบแบบดั้งเดิมที่ใช้ข้าวเป็นวัตถุดิบสำคัญ Oranda senbei เป็นเซมเบ้ดั้งเดิมแบบบาง ซึ่งทำโดยการอบข้าวของโชไน จังหวัดยามากาตะ ให้บางเฉียบเพียง 3 มม. นับตั้งแต่เปิดตัวในปี 1962 เป็นผลิตภัณฑ์อันดับหนึ่งที่ผลิตได้ 200 ล้านชิ้นต่อปี นักท่องเที่ยวสามารถเข้าชมโรงงาน ที่มีความลึกถึง 545 เมตร และร่วมกิจกรรมย่างเซมเบ้และปรุงรสในแบบของตัวเองได้ด้วย

  • เวลาทำการ: 9.30-16.00 น. (เข้าได้ถึง 15.40 น.) ร้านค้าเปิด 9.00-17.00 น.
  • ค่าเข้าชม: ฟรี / กิจกรรมย่างเซมเบ้ 600 เยน (30 นาที) กิจกรรมปรุงรสเซมเบ้ 400 เยน (10 นาที)
  • การเดินทาง: จากสถานี Sakata โดยสารรถบัส B Loop Line ลงป้าย Ryoucho ใช้เวลา 14 นาที และเดินต่อ 5 นาที
  • เว็บไซต์

ด้านในมีมุม Trick Art ให้ถ่ายรูปเล่นด้วย

กิจกรรมย่างเซมเบ้ กับ กิจกรรมปรุงรสเซมเบ้

มีมุมขายของฝากเป็นเซมเบ้หลากหลายแบบ น่าอร่อยทั้งนั้นเลย

Sanno club

ซันโนะคลับ ตั้งอยู่เมืองท่าซาคาตะ ในอดีตเป็นเรียวเท (Ryotei) หรือร้านอาหารดั้งเดิมที่ใช้รับรองแขกที่มีความสำคัญทางการเมือง ทางเศรษฐกิจ และได้รับการแนะนำมาเท่านั้น โดยจะมีห้องรับรองที่สามารถชมความบันเทิงจากการแสดงของเกอิชาอันทรงเกียรติไปพร้อมกัน ที่ซันโนะคลับมีการออกแบบห้องที่หลากหลาย ตกแต่งอย่างประณีต ที่จะได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของเมืองซาคาตะ 

ปัจจุบัน Sanno club ได้ถูกปรับปรุงและเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์จัดแสดงเกี่ยวกับเรือ Kitamaebune และที่ชั้น 2 มีนิทรรศการถาวรของ “Sakata Kasafuku” ซึ่งเป็นหนึ่งในสามเครื่องประดับแขวนที่สำคัญของญี่ปุ่น โดยเป็นการนำของใช้ในชีวิตประจำวันมาเป็นต้นแบบและเย็บออกมาเป็นตุ๊กตาร้อยเรียงประดับเป็นเรื่องราว เและยังมีเวิร์กช็อปให้ได้ลองทำเองอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีห้องสำหรับพิธีชงชาแบบดั้งเดิม

  • เวลาทำการ: 9.00-17.00 น. (เข้าได้ถึง 16.30 น.) ช่วงมี.ค.-พ.ย. เปิดทุกวัน ช่วงธ.ค.-ก.พ. หยุดทุกวันอังคาร
  • ค่าเข้าชม: 410 เยน
  • การเดินทาง: จากสถานี Sakata เดิน 20 นาที
  • เว็บไซต์

ตุ๊กตาแต่ละชิ้นมีความหมายกำกับอธิบายไว้ด้วย

อาจารย์ท่านนี้ แสดงผลงานทำมือทีละชิ้นที่ละเอียดอ่อนให้เราชมอย่างใกล้ชิด และได้ของที่ระลึกกลับบ้านด้วย

Wakaba Ryokan

ค่ำคืนนี้เราเข้าพักกันที่วาคาบะเรียวกังในเมืองซาคาตะ ที่เรียวกังแห่งนี้มีความพิเศษคือมีจัดแสดงตุ๊กตา “ซากาตะโคเคชิ” ที่มีชื่อเสียงมายาวนาน ไว้มากกว่า 700 ตัว ที่ทางเรียวกังได้รวบรวมของเก่าที่บรรพบุรุษของเขาเป็นคนรวบรวมไว้ รวมถึงสนับสนุนผลงานของคุณ Yoshikatsu Homma ซึ่งปัจจุบันเป็นช่างฝีมือโคเคชิเพียงคนเดียวในซาคาตะ ห้องพักสไตล์ญี่ปุ่นที่เรียบง่าย มีออนเซ็นให้แช่พักผ่อนได้ 24 ชั่วโมง และ ห้องอาหารที่ให้บริการทั้ง 3 มื้อ ใช้วัตถดิบท้องถิ่นของโชไน ไม่ว่าจะเป็น น้ำแร่จากภูเขาโชไน ข้าวโชไน และสาเกท้องถิ่นที่ปลูกในที่ราบโชไน อาหารทะเลที่จับได้ในทะเลญี่ปุ่น ที่เราบอกได้เลยว่าอาหารของที่นี่อร่อยถูกปากจริงๆ

  • ค่าห้องพัก: เริ่มต้น 4,950 เยนต่อคน ไม่รวมอาหาร / 11,000 เยนต่อคน รวมอาหาร 2 มื้อ
  • การเดินทาง: จากสถานี Sakata เดิน 20 นาที
  • เว็บไซต์

แนะนำเลยว่าให้จองแบบรวมอาหารมื้อค่ำไว้ด้วย บรรยากาศดีมากๆ

อาหารเสิร์ฟแบบไคเซกิ ทานง่าย ถูกปาก อร่อยทุกอย่างจริงๆ

เมนูอาหารเช้า เรียบง่าย แต่อร่อยมากๆ เติมพลังสำหรับเดินทางวันถัดไป