เที่ยวญี่ปุ่นดอทคอมได้รับเกียรติจากการท่องเที่ยวจังหวัดคุมะโมโตะให้เดินทางมาร่วมทริปค่ำคืนของการฉายหนังและคอนเสิร์ตโอเปร่า ในวันที่ 8-10 ตุลาคม 2559 เพื่อระดมทุนช่วยฟื้นฟูปราสาทคุมะโมโตะให้กลับมาสวยงามและยิ่งใหญ่เหมือนเดิม

เริ่มต้นการเดินทางจากสถานีฮากะตะ (Hakata) ในจังหวัดฟุกุโอกะ โดยสารรถไฟชินคังเซ็นขบวน Tsubame มาลงที่ สถานีคุมะโมโตะ (Kumamoto)ใช้เวลาประมาณ 50 นาที

kumamoto-01

เดินทางมาถึงเมืองคุมาโมโตะเป็นที่เรียบร้อย เดินทางไปกันที่ใจกลางเมือง Shimotori Shotengai หรือ Sunroad Shopping Arcade แหล่งช้อปปิ้งใจกลางเมืองที่เต็มไปด้วยร้านรวงต่างๆ ร้านอาหารมากมาย วันนี้ที่เราเดินทางมาเป็นช่วงของเทศกาล Ginnan Matsuri หรือเทศกาลใบแปะก๊วย เนื่องจากในปราสาทคุมะโมโตะเต็มไปด้วยต้นแปะก๊วยมากมาย จึงถูกนำมาตั้งเป็นชื่อเทศกาลนี้ โดยจะมีการปิดถนน ขายอาหาร มีการแสดงต่างๆจากนักเรียน และแข่งขันกีฬาอีกด้วย

kumamoto-18

โดยไฮไลท์ของวันนี้คืออาหารเย็นสุดพิเศษ ซาซิมิเนื้อม้าดิบชื่อดังของจังหวัดคุมะโมโตะ หรือ บะซะชิ (Basashi) โดยทานคู่กับขิงสไลด์ กระเทียม และจิ้มกับซอสถั่วเหลืองโชยุ สำหรับรสชาดนั้นละลายในปากเลยครับ

kumamoto-08

วันที่สองของการเดินทาง เช้าวันนี้เราเดินทางไปเยี่ยมชมถ้ำ Reigando สถานที่อันซีนอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดคุมาโมโตะ สถานที่ที่เต็มไปด้วยแรงศรัทธาของท่านซามูไรมิยาโมโตะ มุซะชิ หนึ่งในมือดาบที่มีชื่อเสียงท่านหนึ่งของประเทศญี่ปุ่น

ท่านมุซะชิได้รับคำเชิญจากเจ้าเมืองคุมาโมโตะ Hosokawa Tadatoshi ในขณะนั้น ให้เดินทางมายังเมืองคุมาโมโตะเพื่อเป็นองค์รักษ์ให้กับท่าน โดยทุกๆวันในช่วงเย็นหลังจากพระอาทิตย์ตกท่านจะใช้เวลาในถ้ำเพื่อฝึกสมาธิ ศึกษาเกี่ยวกับวิถีเซนและเขียนหนังสือ โดยบทประพันธ์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังจนได้รับการนำไปแปลเป็นหนังสืออีกหลายภาษาของท่านมีชื่อว่า “Gorin-no-sho” หรือ The Book of Five Rings

kumamoto-03

นอกจากถ้ำของท่านมุซะชิแล้ว ภายในยังเป็นที่ตั้งของวัด Unganzenji ที่สร้างขึ้นโดยพระสงฆ์ชาวจีน ระหว่างทางเดินไปยังถ้ำของท่านมุซะชิยังเป็นที่ตั้งของรูปปั้นหินของพระใน อิริยาบทต่างๆกว่า 500 องค์เรียงรายอยู่ตามเนินเขา ความมหัศจรรย์คือเมื่อสังเกตดูดีๆ รูปปั้นของพระแต่ละรูปจะมีหน้าตาที่ไม่เหมือนกันเลย โดยหลายๆรูปปั้นนั้นได้รับความเสียหายเนื่องมาจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวหลายๆครั้งที่ผ่านมา

kumamoto-04

จากนั้นระหว่างทางกลับไปยังปราสาทคุมาโมโตะ เราแวะเยี่ยมชมบ้านของท่าน Natsume Soseki บุคคลผู้ทรงอิทธิพลแห่งวงการวรรณกรรมญี่ปุ่น โดยหลายคนอาจจะไม่คุ้นชื่อของท่านหากแต่หยิบธนบัตร 1000 เยนขึ้นมาดูจะร้องอ๋ออย่างแน่นอน ท่านเป็นนักเขียนผู้ทรงอิทธิพลอย่างมากต่อวงการวรรณกรรมญี่ปุ่นรุ่นต่อๆมานับแต่สมัยเมจิ ท่านได้ไปศึกษาที่เมืองนอกแล้วจึงกลับมาญีปุ่น เขียนหนังสือ ทีมีทั้งกลิ่นอายของญี่ปุ่นเก่าและใหม่ผสมผสานกัน โดยผลงานที่มีชื่อเสียงของท่านคือ หนังสือชื่อ – โคะโคะโระ (Kokoro)

kumamoto-05

ช่วงบ่ายเราเดินทางไปยังปราสาทคุมาโมโตะเพื่อร่วมงานสมทบทุนบูรณะตัวปราสาท ที่ได้รับความเสียหายอย่างหนักในช่วงของเหตุการณ์พิบัติภัยแผ่นดินไหวเมื่อ วันที่ 16 เมษายนที่ผ่านมา โดยในงานจะเป็นการแสดงคอนเสิร์ตโอเปร่ากลางแจ้งและมีการฉายหนังกลางแปลงหลังจากฉายหนังจบจะเป็นช่วงของงาน Mizuakari Festival เทศกาลจุดโคมไฟลอยน้ำประจำปี

ซึ่งโคมไฟกว่า 54,000 ดวงนี้จะเป็นการนำภาพวาดของนักเรียนในเมืองนี้มาทำเป็นโคมไฟ นอกจากโคมไฟที่ทำจากกระดาษด้วยฝีมือของนักเรียนแล้ว ยังมีโคมไฟที่ทำจากปล้องไม้ไผ่แกะสลักเป็นลวดลายของชนเผ่าอะบอริจินอีกด้วย แต่เนื่องจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว เทศกาลโคมไฟในปีนี้จึงถูกจัดขึ้นบริเวณรอบๆ ตัวปราสาท

kumamoto-09-copy

โคมไฟที่ร่วมแรงร่วมใจกันจากบรรดานักเรียนในจังหวัดคุมาโมโตะ

kumamoto-10


อย่างที่ทราบกันดีว่าเมื่อวันที่ 16 เมษายนที่ผ่านมาจังหวัดคุมะโมโตะได้รับผลกระทบอย่างหนักจากเหตุการณ์พิบัติภัยแผ่นดินไหว ทำให้เมืองนี้ได้รับความเสียหายอย่างหนัก โดยเฉพาะปราสาทคุมะโมโตะได้รับความเสียหายอย่างมาก ทำให้ต้องปิดตัวปราสาทเพื่อบูรณะฟื้นฟู แต่บริเวณโดยรอบยังสามารถเข้าไปได้

kumamoto-07

สำหรับผู้ที่สนใจอยากจะมาเที่ยวที่ปราสาทคุมาโมโตะ ขอประชาสัมพันธ์ว่ายังไม่สามารถเข้าไปในตัวปราสาทชั้นในได้ แต่สามารถเดินชมได้จากบริเวณรอบนอกคูน้ำภายในสวนสาธารณะรอบๆปราสาทและภายในศาลเจ้า Kato ซึ่งสามารถมองเห็นตัวปราสาทได้อย่างชัดเจนที่สุด หลายพื้นที่รอบๆตัวปราสาทยังคงมีการปิดเพื่อรอการบูรณะโดยนี่เป็นภาพบางส่วนของความเสียหายที่เกิดขึ้นเหตุการณ์แผ่นดินไหวเมื่อต้นปีที่ผ่านมา

kumamoto-06

ในการเดินทางนั้น สิ่งจำเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับชีวิตผู้คนในยุคปัจจุบันก็คือ สมาร์ทโฟนที่ต้องใช้ในการติดต่องาน อัพเดทข่าวสารข้อมูลการเดินทาง อีกทั้งยังใช้งานการอัพเดทโซเชียลเนตเวิร์คต่างๆ พ็อคเกตไวไฟจึงเป็นตัวเลือกที่สะดวกอย่างมาก พ็อคเกตไวไฟของ “Wi-Ho” ได้รับความนิยมอย่างมาก ด้วยความที่เป็นแบรนด์ญี่ปุ่นที่ไว้วางใจได้ นำเสนอโดย Telecom Square บริษัทญี่ปุ่นผู้บุกเบิกในด้าน “Mobile x Global” มามากกว่า 20 ปี มั่นใจได้การบริการการสื่อสารคุณภาพสูงสุดซึ่งใช้สายเชื่อมต่อท้องถิ่นด้วย

ทำการจองได้ที่ >> WI-HO THAILAND เพียงใส่โค้ด “tiewyeepoon” ลดพิเศษเหลือเพียงวันละ 200 บาท (จากปกติ 280 บาท) ก็สามารถใช้สัญญาณอินเตอร์เนตได้แบบไม่จำกัดแล้ว

kumamoto-15


วันสุดท้ายของทริปนี้ ช่วงเช้าเดินทางไปชมสวน Suizenji เป็นสวนสวยสไตล์ญี่ปุ่น ที่มีขนาดใหญ่และมีชื่อเสียงอย่างมากของจังหวัดคุมาโมโตะ ถูกสร้างขึ้นในสมัยเอโดะ ประมาณช่วงศตวรรษที่ 17 โดยฮิโกะ โฮโซกาว่า และฮัตสึโยะ ทาดาโยชิ ผู้ก่อตั้งสวนแห่งนี้ขึ้น เพื่อใช้เป็นที่พักผ่อน เปิดให้ประชาชนเข้าชมได้ในช่วงยุคสมัยเมจิ

kumamoto-12

ภูเขาไฟฟูจิจำลองในสวน Suizenji

kumamoto-14

ศาลเจ้าชินโตภายในสวน Suizenji

kumamoto-11

โดยในสวนจะมีถนนให้เดินเป็นวงกลมรอบๆ ด้านในยังออกแบบให้มีสถานที่ต่างๆที่มีชื่อเสียงในประเทศญี่ปุ่น เช่น ภูเขาไฟฟูจิ ทะเลสาบบิวะ นอกจากนี้ยังมีต้นซากุระมากกว่า 150 ต้นตามทางเดิน โดยเฉพาะช่วงเวลาใบไม้ผลิ ผู้คนมากมายต่างหลั่งไหลกันมาชมดอกซากุระบานในช่วงเวลานั้น และในวันที่อากาศดี นักท่องเที่ยวสามารถทดลองเข้าร่วมพิธีชงชาในแบบญี่ปุ่นโบราณได้

kumamoto-13

ช่วงบ่ายเดินทางไปชม พิพิธภัณฑ์ศิลปะร่วมสมัยของเมืองคุมาโมโตะ (Contemporary Art Museum) ตั้งอยู่บนชั้นที่ 3 ของตึก Bipuresu Kumanichi Kaikan ตรงข้ามกับห้าง Parco นักท่องเที่ยวจะได้ชมนิทรรศการต่างๆ ในพิพิธภัณฑ์จัดแสดงเกี่ยวกับศิลปะวัฒนธรรมร่วมสมัยที่มีความเกี่ยวข้องกับ ประเพณีและวัฒนธรรมของเมืองคุมาโมโตะโดยแบ่งเป็นนิทรรศการแบบถาวร และนิทรรศการแบบที่หมุนเวียนมาจัดแสดง โดยในเดือนนี้จะเป็นนิทรรศการชั่วคราวของสตูดิโอจิบลิ (Studio Ghibli) มาจัดแสดงให้เหล่าบรรดาสาวกได้ชมอีกด้วย

kumamoto-17

โดยงานระดมทุนในครั้งนี้จะเป็นการแสดงคอนเสิร์ตโอเปร่ากลางแจ้งและมีการฉายหนังกลางแปลง ในวันที่ 10 ตุลาคม จะเป็นคิวของทีมงานประเทศไทยที่จะนำภาพยนต์ เรื่อง “ Hand in the Glove” ที่ได้ถ่ายทำในเมืองคุมาโมโตะไปฉายอีกครั้ง

โดยภาพยนตร์เรื่อง “ Hand in the Glove” เป็นหนังร่วมทุนสร้างระหว่างประเทศไทย – ญี่ปุ่น เพื่อเผยความงดงามของทัศนียภาพเมืองคุมาโมโตะ ผลงานกำกับโดย ยูสึเกะ อินาบะ ผู้กำกับหนุ่มไฟแรงชาวญี่ปุ่นพร้อมทีมนักแสดงชาวไทยอย่าง ชานนท์ ริกุลสุรกาน (นนท์ วงออกัส) และ เซลีน่า วีสมันน์ ร่วมด้วย เอมิโกะ อิซาวะ (นักแสดงสาวชาวญี่ปุ่น) พร้อมด้วยแขกรับเชิญสุดพิเศษ!! Kumamon มาสค้อตสุดน่ารักประจำจังหวัดคุมาโมโตะ

b5dcdc4cb94bdfa796538304fced9ba5

ภาพบรรยากาศการสัมภาษณ์นักแสดงนำของภาพยนต์เรื่อง Hand in the Glove โดยแต่ละท่านได้พูดถึงความประทับใจที่มีเมืองคุมาโมโตะ ก่อนมีการฉายหนังกลางแปลง

kumamoto-16

ลากันไปด้วยภาพของเจ้ามาสคอตน่ารักประจำจังหวัดคุมาโมโตะ “คุมะมง”
แล้วกลับมาเที่ยวคุมาโมโตะกันอีกนะครับ

kumamoto-02