ทริปตะลุยหิมะขาวจากโตเกียวด้วย Tokyo Wide Pass ตอน 4 : คาวากุจิโกะ (Kawaguchiko)

ตะลุยหนาวกันแบบใกล้ๆ เดินทางง่ายจากโตเกียว ทริปนี้จะเป็นการเที่ยวด้วยรถไฟ โดยใช้ JR TOKYO Wide Area Pass ตั้งต้นจากสนามบินฮาเนดะ และเดินทางไปยัง 3 จังหวัดคือ Niigata, Gunma, Yamanashi

ดูรายละเอียดพาส >>  TOKYO WIDE PASS

ที่ตั้งของภูเขาไฟฟูจิและทะเลสาบคาวากุจิโกะนั้นอยู่ไม่ไกลมากจากกรุงโตเกียว การเดินทางมาที่นี่นั้นแสนจะง่ายดาย สำหรับผู้มีบัตรโดยสาร JR TOKYO Wide pass สามารถใช้เดินทางได้เลย โดยการเดินทางเริ่มต้นที่กรุงโตเกียว สามารถเริ่มต้นที่สถานี Shinjuku นั่งรถไฟสาย JR Chuo มาลงที่สถานี Otsuki และต่อรถไฟสาย Fujikyu Railway มาลงที่สถานี Kawaguchiko หรือ Mt.Fuji แบบไม่ต้องจ่ายส่วนต่างระหว่างสถานี Otsuki – Kawaguchiko / Mt.Fuji เพิ่ม

จากตอนที่แล้ว พาข้ามมาจังหวัดยะมะนะชิ ขึ้นรถไฟ Fujisan View Express และเที่ยวเล่นในเมืองฟูจิโยชิดะกันไปแล้ว เช้าวันถัดมา เริ่มต้นวันใหม่ด้วยวิวที่รอคอย เปิดม่านหน้าต่างห้องพักที่ Highland Resort Hotel & Spa ตั้งอยู่ติดกับสวนสนุก Fuji-Q Highland รับแสงยามเช้า พร้อมชมวิวฟุจิซังได้แบบเต็มตา สนนราคาเริ่มต้นที่ 9,000 เยนสำหรับห้องเดี่ยว และ 18,000 เยน สำหรับห้องคู่ >> จองที่นี่

อ่านรีวิวตอนที่แล้วได้ที่นี่ >> ทริปตะลุยหิมะขาวจากโตเกียวด้วย Tokyo Wide Pass ตอน 3 : ฟูจิโยชิดะ (Fujiyoshida)

บริเวณภูเขาไฟฟูจิและทะเลสาบคาวากุจิโกะนั้นมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายรวมถึงกิจกรรมต่างๆที่พร้อมให้บริการกับนักท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นการชมวิว ปีนเขา เข้าชมพิพิธภัณฑ์ต่างๆเป็นต้น ถ้าต้องการจะเที่ยวให้คุ้มค่าควรมีเวลาอย่างน้อยประมาณสองวัน

โดยใช้ตั๋ว 2 Day-Pass ของรถบัสนำเที่ยว Lake Kawaguchi Excursion Retro Bus (ราคาสำหรับผู้ใหญ่ 1,200 เยน และเด็กอายุต่ำกว่าชั้นมัธยมปลาย ราคา 600 เยน) ซึ่งรถนำเที่ยวนี้เองที่จะพานักท่องเที่ยวไปตามสถานที่ไฮไลท์รอบทะเลสาบคาวากุจิโกะ ดูตารางรถบัสที่นี่ >> Retro Bus/Omni Bus

โปรแกรมแรกของวันนี้คือ เดินทางมาหาความรู้กันที่ Fujisan World Heritage Center (South Hall) เป็นที่ตั้งเดียวกับ Fuji Visitor Center (North Hall) สร้างขึ้นเนื่องในโอกาสที่ภูเขาฟุจิได้รับการจดทะเบียนเป็นมรดกโลก จัดแสดงประวัติความเป็นมาของภูเขาฟุจิ และให้ข้อมูลเกี่ยวกับการท่องเที่ยว รวมไปถึงการปีนเขาฟุจิที่เพรียบพร้อมที่สุด

เวลาทำการ: 8.30-17.00 น.
ค่าเข้าชม: ผู้ใหญ่ 420 เยน เด็ก 210 เยน
การเดินทาง: จากสถานี Kawaguchiko เดินทางด้วย Retro Bus ลงที่ป้าย Fujisan World Heritage Center ใช้เวลา 7 นาที
เว็บไซต์: Fujisan World Heritage Center

ใบประกาศนียบัตร รับรองให้ ภูเขาฟุจิ (Fujisan) ขึ้นทะเบียนเป็น มรดกโลก เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2013

เมื่อเข้ามาด้านใน เริ่มจากการเดินขึ้นชั้นบน เพื่อชม FUGAKU 360 ชมฟุจิซังแบบ 360 องศา

ไฟจะเปลี่ยนไปเรื่อย โดยอ้างอิงตามแต่ละช่วงเวลา และ ฤดูกาล

ตลอดทางเดินจะได้ศึกษาความเป็นมาของภูเขาลูกนี้ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 10,000 ปี จัดแสดงเอาไว้ได้อย่างละเอียดและน่าสนใจ

และสำหรับผู้ที่สนใจจะพิชิตยอดภูเขาฟูจิ จะมีจอมอนิเตอร์ที่เป้นภาพบันทึกระหว่างทางเดินขึ้นเขามาให้ได้ลองชมกันด้วยว่า จะได้พบเจอกับอะไรบ้าง

มุมภาพที่มองลงมาจากบนท้องฟ้าเห็นยอดของฟุจิซัง ที่ต้องมาถ่ายไว้เป็นที่ระลึก

มีสินค้าน่ารักๆจำหน่ายด้วย อย่างชิ้นนี้เป็น ที่คั่นหนังสือลายฟุจิซัง

กิจกรรมทั้งวันนี้จะตระเวนเที่ยวและกินรอบทะเลสาบกัน เริ่มต้นที่ ล่องเรือสำราญ Kawaguchiko En Soleil ที่ทะเลสาบคาวากุจิโกะ และขึ้นกระเช้า Kachi Kachi Ropeway ไปชมวิวฟุจิซังมุมสูง สำหรับเรือสำราญ จะมีรอบออกทุกครึ่งชั่วโมงใช้เวลาบนเรือ 20 นาที จุดขึ้นเรืออยู่ไม่ไกลจากจุดขึ้นกระเช้า

ค่าขึ้นเรือสำราญ ราคาคนละ 930 เยน ซึ่งถ้าใครจะไปขึ้นกระเช้าคะจิคะจิด้วย ซื้อตั๋วคอมโบ ในราคา 1,300 เยน (เด็กครึ่งราคา) ไปเลยก็ได้ครับ

สามารถซื้อตั๋วได้จากตู้กดอัตโนมัติ

ล่องเรือสำราญ Kawaguchiko En Soleil ชมความงามรอบทะเลสาบคาวากุจิโกะ มีฉากหลังเป็นภูเขาไฟฟูจิที่สวยงาม ตัวเรือแบ่งเป็น 3 ชั้น โดยในชั้นที่ 1 จะมีโซฟาและโต้ะไว้สำหรับนักท่องเที่ยวเพื่อชมวิวขณะที่เรือแล่นไปเรื่อยๆ ในวันที่ฟ้าสดใส ขอแนะนำชั้นที่ 2 ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถที่จะมองเห็นวิว 360 องศาของทั้งทะเลสาบและภูเขาไฟฟูจิอีกด้วย

เวลาทำการ: เปิดทำการทุกวันไม่มีเว้นวันหยุด 9:00 ถึง 16.30 น.
(ช่วงหน้าร้อนกลาางก.ค.-ปลายส.ค. ปิด 17.30 น. ช่วงหน้าหนาว กลางพ.ย.-กลางมี.ค. ปิด 16.00 น.)
ราคา: ผู้ใหญ่ 930 เยน (ใช้เวลาในการล่องเรือประมาณ 20 นาที)
การเดินทาง: จากสถานี Kawaguchiko เดินทางด้วย Retro Bus ลงที่ป้าย Pleasure Cruiser/Ropeway Ent. ใช้เวลา 16 นาที
เว็บไซต์ : Fujikyuko

เมื่อคืนก่อนหน้ามีหิมะตกหนัก เลยทำให้วันนี้ฟุจิซังขาวผ่องเป็นพิเศษ แถมฟ้าก็ยังเปิดกว้าง ไม่มีเมฆมากวนใจเลยสักนิด ช่วงหนาวๆแบบนี้ถือเป็นช่วงที่เหมาะกับการเดินทางมาชมฟุจิซังมากๆ

แค่ไปนั่งมองเฉยๆ ก็มีความสุขแล้ว เป็นวิวที่มองกี่ทีก็ไม่มีเบื่อ และเชื่อว่าหลายๆคนก็คงรู้สึกแบบเดียวกัน

https://www.facebook.com/tiewyeepoon/videos/1368574609882185/

หลังจากล่องเรือกันเสร็จแล้ว เดินข้ามมาอีกฝั่ง ไปทางขึ้น กระเช้าคะจิคะจิยะมะ (Kachikachiyama Ropeway) กัน

จากสถานี Kohan ถึงสถานี Fujimidai ใช้เวลาประมาณ 3 นาที และมีกระเช้าวิ่งทำการทุก 5-10 นาที

กระเช้าลอยฟ้า Kachikachiyama Ropeway จะพาไปพบกับวิวอันสวยงามของ Crackling Mountain บนความสูงกว่า 1,075 เมตรจากระดับน้ำทะเลบนจุดชมวิว ประทับใจกับภาพมุมสูงของภูเขาไฟฟูจิและทะเลสาบคาวากุจิโก

เวลาทำการ : เปิดทำการทุกวันไม่มีเว้นวันหยุด
09.00 ถึง 17.10 น. ตั้งแต่วันที่ 1-31 มีนาคม , วันที่ 1-15 เมษายน , วันที่ 16 ตุลาคม – 30 พฤศจิกายน
09.00 ถึง 17.20 น. ตั้งแต่วันที่ 16 เมษายน ถึง 15 ตุลาคม
09.00 ถึง 16.40 น. ตั้งแต่วันที่ 1ธันวาคม ถึง 28 กุมภาพันธ์
ราคา : สำหรับผู้ใหญ่ 800 เยน (ไป-กลับ) , 450 เยน (เที่ยวเดียว)
ลิงค์เว็บไซต์ : Fujikyuko

เมืองทั้งเมืองถูกปกคลุมไปด้วยหิมะขาว

มาถึงด้านบนจะพบกับกระเช้าอีกลาย

แผนที่เดินเที่ยวรอบภูเขาคะจิคะจิ

วิวด้านบน มองเห็นฟุจิซัง สวยชัดเจนมาก

ถ่ายคู่กับฟุจิซังเป็นที่ระลึกซักหน่อย

ตำนานแค้นรักหักเหลี่ยมโหด ของเจ้าทานูกิและกระต่าย จากนิทานพื้นบ้านเรื่อง Kachi Kachi Yama เมื่อขึ้นไปถึงยอดจะได้พบกับรูปปั้นของกระต่ายและทานูกิ อยู่เต็มไปหมด บ้างก็ว่าทั้งคู่เล่นกันน่ารักดี บ้างก็ว่าทั้งสองเป็นเพื่อนรักกัน บ้างก็ว่าเจ้ากระต่ายใจร้ายชอบแกล้งทานูกิ แต่หารู้ไม่ว่า จริงๆแล้วต้นตอของเรื่องนี้ มาจากความสยองที่ไม่น่าเชื่อว่าจะเอามาเล่าเป็นนิทานได้ เรื่องราวจะเป็นยังไง ตามมาอ่านกันเลยครับ
  • มีคุณตาคุณยายคู่หนึ่งอยู่ร่วมกัน และทำไร่นาประทังชีวิต แต่ไร่นาโดนทำลายเสียหาย พืชผักโดนขโมยอยู่ตลอด
  • วันหนึ่งคุณตาจับหัวขโมยได้ในที่สุด ซึ่งก็คือ เจ้าทานูกิตัวร้าย จึงจับมัดแล้วเอาไปให้คุณยาย เตรียมทำซุปทานูกิให้กินเป็นมื้อเย็น
  • เจ้าทานูกิเจ้าเล่ห์ อ้อนวอนขอชีวิตจากคุณยายให้ปล่อยตัว และสัญญาว่าถ้าปล่อยไปมันจะกลับไม่มารบกวนอีก คุณยายจึงสงสารและปล่อยตัวไป
  • แทนที่เจ้าทานูกิจะสำนึกบุญคุณ กลับใช้ที่ตำข้าวตีหัวคุณยายจนเสียชีวิต และจับคุณยายไปทำเป็นอาหารแทน หลังจากนั้นก็แปลงร่างเป็นคุณยาย รอคุณตากลับมากิน แล้วมันก็หนีไป
  • พอคุณตารู้ตัวว่าโดนเจ้าทานูกิหลอกเข้าอย่างจัง ก็เสียใจเป็นอย่างมาก และทันใดนั้นก็มีสหายที่เป็นกระต่ายเข้ามาได้ยินเรื่องราว และอาสาจะแก้แค้นให้
  • เจ้ากระต่ายไปทำตีสนิทกับเจ้าทานูกิ ขอร้องให้ทานูกิช่วยแบกฟืนฟางข้ามภูเขา เพื่อแลกกับเมล็ดถั่ว และพอสบโอกาสก็แอบใช้หินจุดไฟ (เป็นเสียง คะชิคะชิ จนเป็นที่มาของชื่อนิทาน) เผาหลังของเจ้าทานูกิซะเลย
  • เจ้าทานูกิทรมานมาก เจ้ากระต่ายเลยทำทีเป็นขอโทษแล้วบอกให้ใช้พริกเกลือทาที่หลังจะช่วยให้แผลหายไวขึ้น จนทำให้เจ้าทานูกิปวดแสบปวดร้อนยิ่งกว่าเดิมจนน้ำตาไหลนอง
  • เมื่อแผลเจ้าทานูกิหายดี เจ้ากระต่ายก็เอ่ยปากชวนให้ไปพายเรือแข่งกัน โดยกระต่ายสร้างเรือด้วยไม้ และให้ทานูกิสร้างเรือด้วยดินเหนียว
  • เมื่อเริ่มออกจากฝั่ง เรือของทานูกิก็เริ่มอ่อนตัวและค่อยๆจมลง เจ้าทานูกิตะโกนขอความช่วยเหลือ แต่เจ้ากระต่ายไม่ยอมช่วย
  • สุดท้ายเจ้ากระต่ายได้บอกกับเจ้าทานูกิว่า นี่คือผลกรรมที่แกได้ทำเอาไว้กับคุณตาและคุณยาย เป็นสิ่งที่แกสมควรได้รับ พร้อมกับมองทานูกิจมน้ำตายไปต่อหน้าต่อตา
เป็นยังไงกันบ้างครับ พอได้รู้เรื่องราวจริงๆแล้ว ก็รู้เลยว่า ถึงแม้เรื่องราวจะมีความสยองบ้าง แต่ก็สอนใจได้ดีทีเดียว และยิ่งเวลาที่คนญี่ปุ่นสร้างอะไรต้องมีที่มาที่ไปเสมอ ทำให้สถานที่นั้นๆ มีความน่าสนใจมากขึ้นมาเลย

ด้านบนยังเป็นที่ตั้งของศาลเจ้ากระต่าย และมีเซียมซีกระต่ายด้วยนะ

เครื่องรางให้ความโชคดีลายฟูจิซัง

ใครมองหาขนมจากร้านอร่อย ขอแนะนำ Cheese Cake Garden และ Fujiyama Cookie

มื้อเที่ยงทานอาหารกันที่ร้าน Wa Nagomi Shiki no aji โดยเจ้าของร้าน เคยเป็นเชฟฝีมือดีจากโรงแรมดัง ที่มีประสบการ์ณกว่า 20 ปี โดยชุดอาหารกลางวันเริ่มต้นที่ 1,600 เยน

เวลาทำการ: มื้อกลางวัน 11.30-14.30 น. มื้อเย็น 17.30-22.00 น. (หยุดทุกวันพุธ)
การเดินทาง: ป้ายรถบัสที่ใกล้ที่สุด Kawaguchiko Sarumawashi Gekijo-mae
เว็บไซต์ : Shiki no Aji

จากนั้นเราเดินทางมาที่หมู่บ้านโบราณ Saiko Iyashi no sato Nenba หมู่บ้านจำลองย้อนยุคไปในสมัยอดีต เยี่ยมชมบ้านที่สร้างตามแบบฉบับเดิมกว่า 20 หลัง ความพิเศษของที่นี่คือ นักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปฝึกทำเครื่องฝีมือพื้นเมือง รวมถึงเข้าชมและเลือกซื้อผลงานของชาวบ้านท้องถิ่น รวมถึงลิ้มรองรสชาดของร้านอาหารและร้านกาแฟได้อีกด้วย

เวลาทำการ : เปิดทำการทุกวันไม่มีวันหยุด (ยกเว้นในเดือนธันวาคมถึงเดือนกุมภาพันธ์จะปิดทุกวันพุธ)
09.00 ถึง 17.00 น. – ในช่วงเดือนมีนาคมถึงเดือนพฤศจิกายน
09.00 ถึง 16.30 น. – ในช่วงเดือนธันวาคมถึงเดือนกุมภาพันธ์
ค่าเข้าชม : 350 เยน สำหรับผู้ใหญ่
วิธีการเดินทาง :จากสถานี Kawaguchiko เดินทางด้วย Retro Bus ลงที่ป้าย Saiko Iyashi no sato Nenba ใช้เวลา 40 นาที
เว็บไซต์ : Saiko Iyashino-Sato Nenba

มีกิจกรรมให้สามารถลองเข้าไปทำได้ด้วย เช่น พวงกุญแจลายดอกไม้ มีคุณป้าเจ้าของร้านแสนใจดีดูแลอย่างอบอุ่น

มุมถ่ายรูปยอดนิยมจากด้านบนของหมู่บ้าน

ฝาท่อประจำเมือง

และมาปิดท้ายทานขนมหวานที่บ้านสไตล์ทรงยุโรปริมทะเลสาบ Cafe Mimi

เวลาทำการ: 10.00-18.00 น. (หยุดทุกวันพุธ)
วิธีการเดินทาง: จากสถานี Kawaguchiko เดินทางด้วย Retro Bus ลงที่ป้าย Kawaguchiko Konohana Art Museum ใช้เวลา 10 นาที
เว็บไซต์ : Cafe Mimi

เมนูที่ลองในวันนี้คือ Midnight Kawaguchiko ราคา 1,500 เยน อัดแน่นได้วยผลไม้สด 11 ชนิด ไอศครีม และ บราวนี่ เข้ากันได้อย่างดี

นั่งทานพร้อมกับชมวิวที่หาแบบนี้ที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว ฟินสุดๆไปเลย

หลังจากนั้นเราเดินทางเข้าที่พักที่ Lakeland Hotel Mizunosato ราคาห้องพักสำหรับ 2 คน สไตล์ญี่ปุ่น ฝั่ง Lake Kawaguchiko เริ่มต้น 27,200 เยน ฝั่งภูเขาฟูจิ เริ่มต้น 37,800 เยน >> จองที่นี่

การเดินทาง: จากสถานีคาวากูจิโกะ(Kawaguchiko) มีรถรับส่งของทางที่พักให้บริการใช้เวลาประมาณ 5-6นาที จำเป็นต้องโทรแจ้งล่วงหน้าก่อนถึงสถานี

เช้าวันต่อมา เราแวะที่ Kawaguchiko Natural Living Center ที่สวนโอะอิชิ (Oishi Park)

Kawaguchiko Natural Living Center หรือที่มักจะเรียกว่า หอนาฬิกาบลูเบอร์รี่ ที่นี่สามารถชมบรรยากาศของภูเขาไฟฟูจิได้อย่างสุดลูกหูลูกตา รวมทั้งวิวของไร่บลูเบอร์รี่และดอกลาเวนเดอร์เบื้องล่างของภูเขาไฟฟูจิ อีกทั้งยังมีการเวิร์คช้อปผลิตสินค้าจากบลูเบอร์รี่ เช่นแยมบลูเบอร์รี่ นอกจากนี้ประมาณช่วงต้นเดือนกรกฎาคมจนถึงช่วงกลางเดือนสิงหาคม นักท่องเที่ยวสามารถร่วมเก็บบลูเบอร์รี่สดๆจากไร่ได้อีกด้วย

เวลาทำการ : ปิดทำการทุกวันศุกร์ (ยกเว้นช่วงเดือนมิ.ย.-ส.ค.) รวมถึงวันหยุดสิ้นปี
ร้านค้า เปิด 09.00 ถึง 18.00 น. (ปิดทำการเวลา 17.30 น.ในช่วงเดือนพ.ย.-มี.ค.)
คลาสทำแยมบลูเบอร์รี่ วันละ 7 รอบ รอบละ 40 นาที รอบสุดท้ายเวลา 16.00 น.
ลานสำหรับนั่งดื่มชา ปิดเวลา 17.00 น. (ปิดทำการเวลา 16.30 น.ในช่วงเดือนพ.ย.-มี.ค.)
ค่าเข้าชม: ไม่เสียค่าเข้าชม ยกเว้นค่าเวิร์คช้อป
วิธีการเดินทาง: จากสถานี Kawaguchiko เดินทางด้วย Retro Bus ลงที่ป้าย Kawaguchiko Natural Living Center ใช้เวลา 10 นาที
เว็บไซต์: Kawaguchiko Natural Living Center

เมนูที่พลาดไม่ได้เมื่อมาที่นี่คือ Blueburry Softcream

และกิจกรรมในช่วงสาย เราจะมาทำลูกแก้วสีสวยกันที่ Glass Beads Factory ที่ตั้งอยู่ด้านใน Kawaguchiko Experience Studio Craft หรือ Kawaguchiko Craft Park

การเดินทาง: ป้านรถบัสที่ใกล้ที่สุด UKAI Orgel no Mori
เว็บไซต์: Kawaguchiko Craft Park

นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมอื่นๆที่ทำจากแก้วให้ได้ลองประดิษฐ์กันอีกมากมาย

และเดินทางกลับเข้าโตเกียวกันด้วยรถไฟจากสถานี Kawaguchiko

สถานีคาวากุจิโกะเช้าใส ฟ้าใสสวยงาม แทบไม่อยากจะจากไปไหน

เราจะเดินทางกลับบ้านกันด้วยรถไฟคลาสสิค Fujisan Express ขบวนนี้

ลาไปด้วยคลิปบรรยากาศจากห้องคนขับรถไฟครับ

https://www.facebook.com/tiewyeepoon/videos/1378230578916588/

FujiFujikyuFujikyukoFujisan ExpressKachikachiyama RopewayKawaguchikoKawaguchiko Natural Living CentersnowWinterคาวากุจิโกะฟูจิฟูจิซังรถไฟญี่ปุ่นฤดูหนาวเที่ยวญี่ปุ่น​เที่ยวภูเขาฟูจิ