Tokyo: มองโตเกียวมุมสูงจาก Tokyo Skytree

อัพเดทล่าสุดเมื่อ พ.ค. 2015

เมื่อปี 2012 ทั้งคนญี่ปุ่น คนไทย และนักท่องเที่ยวจากทุกมุมโลก แห่กันไป คิวแน่นยาวจนล้นออกมาข้างนอก ต้องยืนรอกันเป็น 2-3 ชั่วโมง ด้วยระดับความฮอตแรงฉุดไม่อยู่ ทำให้ทาวเวอร์ที่ว่ากันว่าเป็นสัญลักษณ์ของโตเกียวยุคใหม่แห่งนี้ กลายเป็นจุดท่องเที่ยวขึ้นแท่นอยู่แถวหน้าของกรุงโตเกียว จนมาถึงทุกวันนี้ ที่ใครๆก็ไปขึ้น Tokyo Skytree 東京スカイツリー

สามารถซื้อตั๋วเข้าชมที่ Tokyo Skytree ณ วันที่เข้าชมได้เลย แนะนำว่าให้ไปแต่เช้า (ประมาณ 9 โมงเช้าในวันธรรมดา และเร็วขึ้น 1 ชั่วโมงในวันหยุด) เปิดให้ขึ้นชมตั้งแต่ 8.00 ถึง 22.00

หรือถ้าใครไม่อยากรอคิวนาน สามารถเลือกซื้อ Fast Skytree Ticket ได้

ดาวโหลด Floor Guide ไปอ่านกันได้ที่นี่


วิธีการเดินทาง

สถานี TOKYO SKYTREE

  • สาย TOBU SKYTREE
  • * จากสถานี Asakusa ใช้เวลา 2 นาทีรถไฟ หรือ 15 นาทีเดิน
  • * จากสถานี Ueno (นั่งรถใต้ดิน Tokyo Metro สาย Ginza) เปลี่ยนเป็นสาย TOBU SKYTREE ที่สถานี Asakusaใช้เวลา 14 นาที

สถานี Oshiage (SKYTREE)

  • สาย TOBU SKYTREE
  • รถใต้ดิน Tokyo Metro สาย Hanzomon
  • Narita SKY ACCESS Keisei
  • สาย Toei Asakusa
  • * จากสถานี Tokyo นั่ง JR สาย Sobu Rapid และเปลี่ยนรถไฟที่ Kinshicho ขึ้นรถใต้ดิน Tokyo Metro สาย Hanzomon ใช้เวลา 16 นาที
  • * จากสถานี Shinagawa นั่ง Keikyu Line หรือ Toei Asakusa Line ใช้เวลา 25 นาที
  • * จากสนามบิน Haneda นั่ง Keikyu Line หรือ Toei Asakusa Line ใช้เวลา 42 นาที
  • * จากสนามบิน Narita นั่ง Keisei Narita Airport Line หรือ Narita SKY ACCESS Keisei Line ใช้เวลา 49 นาที

สถานี Asakusa

  • รถใต้ดิน Tokyo Metro สาย Ginza
  • ใช้เวลา 5 นาที จากสถานี Ueno หรือใช้เวลา 15 นาทีเดิน

สถานี Kinshicho

  • JR สาย Sobu
  • รถใต้ดิน Tokyo Metro สาย Hanzomon
  • ใช้เวลา 9 นาที จากสถานี Tokyo หรือใช้เวลา 30 นาทีเดิน

แผนที่บริเวณรอบๆ


มาชมรีวิวกันเลยครับ


Tokyo Skytree Town จะมี Solamachi อยู่ด้านล่างเป็นร้านค้าให้เดินผ่านขึ้นไปก่อนถึงทางเข้า Tokyo Skytree

ถึงแล้ว โตเกียวสกายทรี แบบใกล้ชิด

ก่อนอื่นซื้อตั๋วขึ้นไปชม Tokyo Skytree Tembo Deck ที่ระดับ 350 เมตรก่อน

มาตอนเช้าวันธรรมดาก็ดีแบบนี้ คนบางตามากๆ

ได้ตั๋วมาแล้ว อย่าลืมขอโบรชัวร์กันมาด้วย

หลังจากนั้นต้องเข้าคิวรอขึ้นลิฟท์กันต่อ จะมีเจ้าหน้าที่คอยนับจำนวนคน แบ่งกลุ่ม
(ถ้ามาด้วยกันบอกเจ้าหน้าที่ด้วยนะ ไม่งั้นเดี๋ยวจะโดนจับแยก)

ลิฟท์ไวมากๆ พุ่งขึ้นเปลี่ยนระดับอย่างรวดเร็ว จนกล้องจับไม่ทัน

นี่แค่ตอนเช้า คนยังหนาตาขนาดนี้ ต้องรีบจับจองที่บ้างซะแล้ว

มาเดินเที่ยวรอบโตเกียวแบบ 360 องศาที่ชั้น Tembo Deck กันก่อน

อันนี้น่าเล่นมาก แต่ทำได้เจ๋งเทพมากๆ แค่เอามือวางลงไป ภาพก็จะขยายขึ้น ให้เห็นรายละเอียดที่ชัดเจน

แถมเลือกดูแบบกลางวัน หรือ กลางคืนก็ได้ ถ้าเลื่อนผ่านสถานที่สำคัญๆ
ก็จะมีข้อมูลของแต่ละแห่งให้ได้อ่านกันอย่างเพลิดเพลินอีกด้วย

จนท.สองคนนี้ แอบเม้าท์กันใหญ่เลย ^^

ถ้าอยู่ที่ชั้น 350 สามารถลงไปที่ Tokyo Skytree shop กับร้านอาหารได้ที่ชั้น 345


มองเห็น วัด Sensoji ที่ Asakusa กันมั้ย ~

และถ้าเดินลงมาที่ชั้น 340 ก็จะได้ยืนอยู่บนพื้นกระจกแบบนี้
สำหรับคนกลัวความสูง นี่คือโอกาสดีที่คุณจะได้เผชิญกับความโหดแบบเบาๆ
ถ้าใครไม่จุใจ สามารถขึ้นลิฟท์ต่อไปได้ที่ชั้น Tembo Galleria
และต้องเสียเงินเพิ่ม 1000 เยน มีจุดจำหน่ายตั๋วอยู่หน้าลิฟท์เลย

เหมือนกับเดินอยู่บนฟ้ายังไงยังงั้น ให้ความรู้สึกที่ต่างจากชั้นเมื่อกี้พอสมควร

ทางเดินจะเป็นทางวนขึ้นวนไปรอบๆ ต้องเดินไปให้ถึงจุดที่สูงที่สุด

ถึงแล้ว สูงเหยียดฟ้ามากๆ

Sorakara Point คือจุดที่สูง 451.2 เมตร จากความสูง 634 เมตร

ชมวิวกันเสร็จแล้วก็ลงมาช้อปกันต่อที่ชั้นล่าง~

สาวกริลัคคุมะห้ามพลาดร้านนี้

เดินทางกลับไปหาอะไรทานกันที่ Asakusa ดีกว่า
ปิดท้ายด้วยภาพมุมสวย ระหว่างเดินข้ามถนนใน Asakusa
JapanSkytreeTokyoญี่ปุ่นสกายทรีเที่ยวญี่ปุ่นเที่ยวโตเกียวโตเกียว