Tokushima: เจาะลึกจังหวัดโทคุชิมะ EP.2 – Awa, Mima, Miyoshi

ทริปนี้เป็นการเดินทางเจาะลึกใน จังหวัดโทคุชิมะ (Tokushima) ใช้เวลาทั้งหมด 5 วันเต็ม เก็บเมืองใหญ่และเมืองย่อย ตามเส้นทางอาทิ นารุโตะ, มิมะ, อาวะ, อะนัน, มิโยชิ, อิตาโนะ, โทคุชิมะ ซึ่งการเดินทางด้วยการเช่ารถขับจะสะดวกที่สุด แต่ถ้าไม่เช่ารถก็ยังสามารถเดินทางด้วยรถสาธารณะได้

อ่านรีวิวตอน 1 => Tokushima: เจาะลึกจังหวัดโทคุชิมะ EP.1 – Naruto ประตูตะวันออกสู่ชิโกะคุ

อ่านรีวิวตอน 3 => Tokushima: เจาะลึกจังหวัดโทคุชิมะ EP.3 – Anan, Itano, Tokushima

สำหรับรีวิวในตอนนี้จะพาไปเก้บเมืองใหญ่ทางตอนกลางของโทคุชิมะ คือ อาวะ, ​มิมะ และ มิโยชิ ที่มีสถานที่ที่ควรแก่การไปเช็คอินอยู่หลายแห่ง อาทิ เมืองโบราณอุดัตสึ, ล่องเรือหุบเขาโอโบเคะ, สะพานแขวนเถาวัลย์แห่งหุบเขาอิยะ และยังมีร้านอาหารที่ห้ามพลาดทั้ง ทะไรอุด้ง และ อิยะโซบะ

  • Wakimachi – Udatsu Townscape 
  • Kanegin Sakano
  • Oboke Gorge Sightseeing Boat
  • Iya Kazura Bridge 
  • Biwa Waterfall
  • Iyasoba Momiji-tei
  • ต้นการบูรแห่งคาโมะ
  • โรงแรม Awanosho

Mima 美馬市

Wakimachi – Udatsu Townscape
脇町・うだつの町並み

วาคิมาจิ (Wakimachi) แห่งเมืองมิมะ (Mima) เป็นอดีตเมืองพ่อค้าย้อมครามที่เจริญรุ่งเรืองในสมัยเอโดะ ใกล้กับแม่น้ำโยชิโนะ ที่นำความอุดมสมบูรณ์มาพื้นที่นี้ทำให้ปลูกต้นไอหรือต้นครามได้ดี ถนนสายโบราณอุดัตสึ (Udatsu) ทอดยาว 430 เมตร (เท่าขบวนรถไฟ Tokaido Shinkansen) ที่ยังหลงเหลือสิ่งที่เป็นสัญลักษณ์ของความมั่งคั่งในวันวาน อาคารเก่าแก่ที่สุดที่ยังคงอยู่ ถูกสร้างขึ้นในปีค.ศ. 1707 ถูกกำหนดให้เป็น เขตอนุรักษ์กลุ่มอาคารสถาปัตยกรรมและสิ่งปลูกสร้างทรงคุณค่าของญี่ปุ่น ไม่มีสิทธิ์ซ่อมแซมต่อเติมโดยไม่ได้ขออนุญาต เพราะถือเป็นสมบัติของชาติ 

ถ้ามาที่นี่จะได้พบกับอุดัตสึ (Udatsu) ที่มีสถาปัตยกรรมอันเป็นเอกลักษณ์ มีหน้าที่ช่วยป้องกันไฟลุกลามเมื่อเกิดเพลิงไหม้ ทิศทางลมทำให้ไฟลามได้ง่ายจึงต้องมีการสร้างกั้นอุดะสึไว้ เพื่อไม่ให้ไฟลุกลามไปอีกหลัง ในอดีต อุดัตสึมีราคาสูงมาก จึงเป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ที่แสดงถึงความร่ำรวยของเจ้าของและพ่อค้า ที่ใช้ประดับตกแต่งอวดศักดากันในสมัยก่อน และถือเป็นพาวเวอร์สปอตเพื่อมารับพลังความมั่งคั่งอีกด้วย

ในอดีตบ้านยุคเอโดะชั้นสองไม่ได้ไว้ให้คนอยู่ เอาไว้เก็บของ เช่น ฟาง ม่อนไหม เนื่องจากมีพื้นที่แคบ ต่อมาบ้านสร้างในยุคเมจิ สามารถขึ้นไปอยู่บนชั้นสองได้ เรียงตามรูป ไทโช เมจิ เอโดะ ด้านบนมียักษ์คอบปกป้องชื่อว่า โอนิกาวาระ (Onigawara)

อาคารข้อมูลการท่องเที่ยว ในอดีตเดิมเป็นสรรพากร เก็บส่วยจากการค้าขาย ด้านในมีจัดแสดงการทำร่มญี่ปุ่นดั้งเดิม เรียกว่า มิมะวะกะสะ (Mima-wagasa 美馬和傘) ในเกาะชิโกะคุ มีเพียงแค่ที่นี่เท่านั้น (ทั้งประเทศญี่ปุ่น เหลือประมาณ 30 ที่) 

อาคารที่อยู่ตรงด้านหน้าทางเข้ามีให้เช่ายูกาตะ ชื่อร้าน Kokokashiko (อยู่ชั้น2) เจ้าของร้านน่ารักมากๆ ไม่ต้องจองล่วงหน้า สามารถวอล์คอินได้ ใช้เวลาแต่งตัวไม่นาน ใส่ออกไปเดินถ่ายรูปได้ตามใจชอบ ถ้าเป็นกิโมโนใช้เวลา 20 นาที ส่วนยูกาตะ 10 นาที มีชุดทั้งชายหญิง ค่าเช่ายูกาตะ 3,500 เยน ชุดกิโมโน 5,500 เยน (เวลาทำการ: 9.00-16.30 หยุดวันอังคาร)

หลังจากเดินเล่นถ่ายรูปกันเสร็จแล้ว ให้มาที่คาเฟ่ที่ด้านหน้าทางเข้า แวะชิม Fukkaru Kola คราฟต์โคล่าออริจินอลของเมืองมิมะ ที่ใช้วัตถุดิบ พริกซันโชว เครื่องเทศของโทคุชิมะ รวมถึงซึดาจิ รสชาติจะมีกลิ่นหอม ไม่หวานเกินไป มีเป็นขวดจำหน่าย ซื้อกลับไปผสมโซดากินเองได้ สัดส่วน โซดา 3 : โคล่า 1 (ร้านนี้เป็นร้านของเจ้าหน้าที่การท่องเที่ยวที่เมืองนี้)


Awa 阿波市

Kanegin Sakano
御所名物たらいうどん・かねぎん坂野

ร้านอาหารท้องถิ่นของเมืองอาวะ เปิดให้บริการตั้งแต่ปีค.ศ.1971 โดยมีเมนูหลักเป็น ทะไรอุด้ง (Tarai Udon) ที่เสิร์ฟมาในอ่างไม้ขนาดใหญ่สำหรับแบ่งกันทาน มีให้เลือกหลายขนาด เส้นผ่านศูนย์กลาง 19-36 ซม. ขนาด 19 ซม. สำหรับ 1 คน แต่แนะนำว่าต่อให้มากันหลายคน เลือกขนาดเล็กสุดก็ยังทานกันอิ่ม เพราะว่าปริมาณเส้นเยอะจริงๆ วิธีการทานคือ ให้ใช้ตะเกีบใหญ่คืบเส้นจากอ่าง เลาะไปตามขอบเพื่อสะเด็ดน้ำร้อน ก่อนนำไปจุ่มลงในน้ำซุปดะชิ แล้วดูดเส้นเข้าปาก ให้ได้รสชาติที่เข้มข้นของน้ำซุปแบบไม่เจือจาง นอกจากนี้ทางร้านยังมีเมนูอื่นๆ อย่างปลาอายูย่าง, ไก่เสียบไม้ซอสมิโซะ, ​ปูจิ๋ว (ซาวะกะนิ) ทอด

ทะไรอุด้ง (Tarai Udon) อาหารท้องถิ่นประจำจังหวัดโทคุชิมะ มีประวัติศาสตร์ยาวนานตั้งแต่ปลายสมัยเอโดะ ว่ากันว่ามีต้นกำเนิดจากกลุ่มคนตัดไม้ในท้องถิ่นช่วยกันทำเส้นอุด้งด้วยมือระหว่างพักจากการทำงานที่ลำธารบนภูเขา และรับประทานเส้นอุด้งในชามอ่างขนาดใหญ่ร่วมกับกลุ่มเพื่อน จึงเป็นที่มาของชื่อ “ทะไรอุด้ง” ซึ่งคำว่า “ทะไร” แปลว่า “อ่าง” นั่นเอง นับแต่นั้นมาได้กลายเป็นอาหารท้องถิ่นยอดนิยมในกลุ่มเพื่อน ครอบครัว ไว้ต้อนรับแขก เรียกได้ว่า เป็นอาหารแห่งความอบอุ่น

  • เวลาทำการ: 10.00-16.00 น. (L.O. 15.00 น.) เสาร์อาทิตย์วันหยุด 10.00-19.30 น. (L.O. 18.30 น.) หยุดทุกวันพฤหัส
  • การเดินทาง: จากสถานี Kamojima ขับรถหรือขึ้นแท๊กซี่ ใช้เวลา 18 นาที
  • เว็บไซต์
  • พิกัด


Miyoshi 三好市

Oboke Gorge Sightseeing Boat
大歩危峡観光遊覧船

เพลิดเพลินกับการล่องเรือในแม่น้ำโยชิโนะ ที่มีความอุดมสมบูรณ์และไหลเชี่ยว ผ่านหุบเขาโอโบเคะ ที่ถูกกำหนดให้เป็นอนุสรณ์สถานทางธรรมชาติ ชมการก่อตัวของแนวกำแพงหินที่เริ่มจากใต้ทะเลราว 200 ล้านปีก่อน กลายเป็นผลงานแสนงดงามที่ธรรมชาติสรรสร้างทั้งสองริมฝั่ง ทิวทัศน์อันงดงามของรอยแยกที่ตกผลึกระหว่างช่องเขาคล้ายกับประติมากรรมหินอ่อน ที่สวยงามในทุกฤดู เป็นช่วงเวลาเวลา 30 นาทีที่ได้สูดอากาศบริสุทธิ์ ลมพัดเย็นสบาย พร้อมวิวงามๆ

  • เวลาทำการ: 9.00-17.00 น. (รอบสุดท้าย 16.30 น.)
  • ค่าโดยสาร: ผู้ใหญ่ 1,500 เยน เด็ก 750 เยน
  • การเดินทาง: จากสถานี Oboke ขึ้นแท๊กซี่ 5 นาที หรือเดิน 25 นาที
  • เว็บไซต์
  • พิกัด


Iya Kazura Bridge
祖谷かずら橋

สะพานแขวนเถาวัลย์เก่าแก่แห่งหุบเขาอิยะ (Iya Valley) เป็นสะพานที่ใหญ่ที่สุดและได้รับความนิยมมากที่สุด มีระยะทาง 45 เมตร กว้าง 2 เมตร สูงจากผิวน้ำ 14 เมตร (น้ำหนักประมาณ 6 ตัน) ข้ามแม่น้ำอิยะ โดยเชือกสะพานมีการซ่อนเส้นเหล็กไว้ด้านในเพื่อเสริมความแข็งแรงให้เถาวัลย์ สามารถเดินข้ามไปได้อย่างปลอดภัย และสะพานจะมีการสร้างขึ้นใหม่ทุกๆ สามปี 

  • การเดินทาง จากสถานี Oboke ขึ้นรถบัส Shikoku Kotsu ปลายทาง Kazurabashi ลงสุดสายเดินต่อ 5 นาที
  • เว็บไซต์
  • พิกัด

ไม่ไกลกันมากจะมีคาเฟ่ Mori no kumasan ที่สามารถนั่งชมวิวสะพานคาซึระ และให้อาหารนกภูเขาได้ด้วยนะ (เวลาทำการ 9.00-17.00 หยุดทุกวันอังคาร)


Biwa Waterfall
琵琶の滝

ชื่อของน้ำตกบิวะ มีที่มาจาก เรื่องเล่าที่ว่ามีผู้ลี้ภัยที่เป็นผู้รอดชีวิตจากฝ่ายเฮเกะที่พ่ายแพ้สงครามเก็มเป ได้มาหลบซ่อนตัวและเล่นน้ำที่น้ำตกแห่งนี้เพื่อปลอบโยนกันและกัน น้ำตกมีความสูง 40 เมตร ถ้าวันไหนอากาศเป็นใจ ราว 4 โมงเย็นจะมองเห็นสายรุ้งจากละอองน้ำที่กระเซ็น และถ้าเดินต่อไปอีก 100 เมตรจะมีทางเดินหินให้ลงไปเล่นน้ำในแม่น้ำได้


Iyasoba Momiji-tei
祖谷そば もみじ亭

ร้านอาหารท้องถิ่นในอาคารบ้านโบราณอายุ 200 ปี  เปิดให้บริการมา 20ปี แล้ว เมนูขึ้นชื่อของพื้นที่อิยะ นั่นก็คือ อิยะโซบะ เป็นอาหารท้องถิ่นที่ทำขึ้นโดยตระกูลเฮเกะ โดยโซบะของที่นี่จะมีรสสัมผัสที่ต่างจากโซบะทั่วไปไม่มีส่วนผสมของแป้งสาลี ทำให้มีความร่วนมาก และมีรสหวานตามธรรมชาติของเมล็ดโซบะ ซึ่งมีเมนูแนะนำเป็น Hiyashi Yamakake Bukkake Soba และ Sudachi Soba ที่ใช้ผลส้มซึดาจิมาปรุงรสนั่นเอง ขอบอกว่าหอมอร่อยมากๆ เสิร์ฟมาคู่กับเทมปุระ

  • เวลาทำการ: 11.00-17.00 น. หยุดทุกวันพุธ
  • การเดินทาง: จากสถานี Koboke ขึ้นรถประจำทาง Miyoshi-shiei Bus สาย Taira ลงป้าย Shimanokawara 5 นาที หรือเดิน 30 นาที
  • เว็บไซต์
  • พิกัด


ต้นการบูรแห่งคาโมะ
加茂の大クス

ต้นการบูรอายุประมาณ 1,000 ปี สูง 26 ม. เส้นรอบวงลำต้น 16.72 ม. กิ่งก้านแผ่กระจายออกไปเกือบเท่าๆ กันในทุกทิศทาง (จากตะวันออก-ตะวันตก 52 ม. จากเหนือ-ใต้ 42 ม.) ทำให้มีรูปร่างสมบูรณ์แบบ ว่ากันว่าเป็นต้นที่ดีที่สุดในญี่ปุ่นในแง่ของความยิ่งใหญ่และสวยงาม ทางเมืองเปิดให้คนทั่วไปเข้ามาสัมผัสความงามของธรรมชาติท่ามกลางหมู่บ้านเล็กๆ ที่ชาวบ้านช่วยกันดูแล โดยมีกิจกรรมให้จิบชา กินขนม และฟังเสียงขลุ่ยญี่ปุ่นโบราณที่มีตำนาน 1,200 ปี (Dragon flute りゅうてき笛) ที่มีเสียงไพเราะเข้ากับบรรยากาศไปด้วยได้ (ต้องจองล่วงหน้า) ใต้ต้นจะมีศาลเจ้าเล็กๆที่มีเทพเจ้างูคอยปกป้องไร่นา สามารถเข้าไปสั่นกระดิ่งเพื่อขอพรหรือแสดงความเคารพ


โรงแรม Awanosho
大歩危祖谷阿波温泉 あわの抄

โรงแรมที่ตั้งอยู่ตรงทางเข้าหุบเขาโอโบเคะ เหมาะสำหรับคนที่จะเดินทางมาสำรวจเส้นทางนี้ มีน้ำแร่ออนเซ็นธรรมชาติที่แช่แล้วผิวลื่น มีประสิทธิภาพสูง 

  • ราคาห้องพัก: ห้องพักเดี่ยว 8,850 เยน ห้องพักคู่ เริ่มต้น 13,700 เยน
  • การเดินทาง: จากสถานี Minawa ขึ้นรถบัสสาย Shitsukawa ลงป้าย Hakuchi Joshi ใช้เวลา 5 นาที และเดิน ต่อ 5 นาที
  • เว็บไซต์
  • พิกัด

AwaIyaMimaMiyoshiObokeShigokutiewyeepoonTokushimaUdatsuชิโกะคุญี่ปุ่นมิมะมิโยชิอาวะเที่ยวจากโอซาก้าเที่ยวญี่ปุ่นเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเองเที่ยวญี่ปุ่นดอทคอมโทคุชิมะโอโบเคะ