ล่าสุดเที่ยวญี่ปุ่นดอทคอม ได้มีโอกาสเดินทางไปเยือนภูมิภาคคิวชู กับ การบินไทย ด้วยเที่ยวบินตรง กรุงเทพ – ฟุกุโอกะ พร้อมกับได้ลิ้มลองเมนูพิเศษจากเชฟชื่อดังแห่งเมืองฟุกุโอกะ ที่เสิร์ฟบนเครื่อง ในเที่ยวบินขากลับด้วย วันนี้เลยนำรีวิวมาให้ชมกันครับ
โดยครั้งนี้เป็นการเดินทางไปภายหลังจากเกิดภัยพิบัติที่จังหวัดคุมะโมะโตะ ประมาณ 1 เดือน เพื่อเรียกความมั่นใจของนักท่องเที่ยวชาวไทยกลับมาอีกครั้ง ซึ่งตลอดระยะเวลาที่เราติดตามข่าวสารมา เราจะทราบกันดีว่า ทุกอย่างฟื้นตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นเส้นทางเดินรถไฟที่ได้รับความเสียหาย แต่ใช้เวลาไม่นาน ทุกอย่างเริ่มกลับคืนสู่สภาพปกติ พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวอีกครั้ง มีเพียงบางส่วนที่ยังคงต้องใช้เวลาบำรุงรักษา แต่ด้วยพลังของชาวคิวชู และกำลังใจจากทุกคนทั่วทั้งโลก โดยเฉพาะกำลังใจจากคนไทยที่ส่งไปให้ จะช่วยให้ คุมะโมะโตะกลับมาแข็งแกร่งกว่าเดิม อย่างแน่นอน
การบินไทยเปิดเส้นทางบินตรง กรุงเทพฯ – ฟุกุโอกะ ประเทศญี่ปุ่นตั้งแต่ พ.ศ.2535 และปีนี้นับเป็น ปีที่ 24 ที่การบินไทยทำการบินในเส้นทางนี้ รองรับการขยายตัวของการเดินทางระหว่างภาคใต้ของประเทศญี่ปุ่น และประเทศไทยที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เกาะคิวชูนั้นนับเป็นสถานที่หนึ่งที่นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางมาได้ตลอดทั้งปี โดยในแต่ละฤดูจะมีดอกไม้นานาชนิดให้เที่ยวชมได้นอกเหนือจากดอกซากุระ อาทิเช่น ดอกทิวลิป วิสทีเรีย กุหลาบ ไฮเดรนเยีย และคอสมอส เป็นต้น อีกทั้งเกาะคิวชูยังเป็นแหล่งน้ำแร่ออนเซน และหาดอบทรายร้อนที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของประเทศญี่ปุ่น
เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองโอกาสพิเศษครบรอบ 24 ปี เส้นทางฟุกุโอกะ – กรุงเทพฯ สำนักงานการบินไทยประจำเมืองฟุกุโอกะ ได้เชิญเชฟจากภัตตาคารอาหารฝรั่งเศสที่มีชื่อเสียงในฟุกุโอกะ “HANANOKI” ออกแบบเมนูพิเศษบริการในชั้น Royal Silk Class เส้นทางออกจากเมืองฟุกุโอกะ – กรุงเทพฯ ตลอดเดือนพฤษภาคม 2559 โดยจะพูดถึงในตอนท้ายของรีวิวนี้ครับ
รายละเอียดเที่ยวบิน กรุงเทพฯ (สนามบินสุวรรณภูมิ) – ฟุกุโอกะ (สนามบินฟุกุโอกะ)
ทำการบินทุกวัน (วันละ 1 เที่ยวบิน) ด้วยเครื่องบินแบบ Airbus 330-300
TG648 BKK-FUK
ออกจาก สนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ เวลา 00.50 น.
เดินทางถึง สนามบินฟุกุโอกะ เวลา 08.00 น. ในวันถัดไป
TG649 FUK -BKK
ออกจาก สนามบินฟุกุโอกะ เวลา 11.35 น.
เดินทางถึง สนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ เวลา 14.55 น. ในวันเดียวกัน
แนะนำจุดเช็คอิน ที่รวดเร็วและสะดวกสบายที่สุด ณ เวลานี้ กับบริการ X-PRESS CHECK-IN KIOSK กับคอนเซ็ปต์ Speed Up To The Flight ไม่ต้องเสียเวลากับการรอคิวนานๆ จนหมดเวลาช้อปปิ้ง ก่อนขึ้นเครื่องอีกต่อไป
โดยปัจจุบัน มีเครื่อง X-Press Check-In KIOSK จำนวนทั้งสิ้น 16 เครื่อง ที่ห้องโถงผู้โดยสารขาออก ชั้น 4 โดยมีจุดให้บริการทั้งหมด 4 จุด ที่บริเวณประตู 2, 3, 4 และ 7 สำหรับการใช้งาน มี 5 ขั้นตอนง่ายๆ ดังนี้
ขั้นตอนที่ 1. เลือกสายการบินจากไอคอน (Icon) บนหน้าจอ
ขั้นตอนที่ 2. เลือกรูปแบบของการเช็คอินที่ผู้โดยสารต้องการ: ได้แก่ 1) สแกนหนังสือเดินทาง 2) พิมพ์ Ticket Number หรือ Booking Code หรือ Booking Reference 3) พิมพ์ Frequent Flyer Number
ขั้นตอนที่ 3. เลือกที่นั่งของเที่ยวบินจากหน้าจอ
ขั้นตอนที่ 4. ยืนยันข้อมูลและรับ Boarding Pass
ขั้นตอนที่ 5 นำกระเป๋าไปยังจุด Bag Drop กระเป๋าที่เคาน์เตอร์ของสายการบินที่กำหนดไว้
หากเดินทางด้วยสายการบินไทย ยิ่งสะดวกมากขึ้น เพียงแค่ใช้นิ้วจิ้ม ทำการเช็คอินได้ง่ายๆด้วยตัวเอง ก็สามารถพิมพ์บัตรโดยสารขึ้นเครื่อง (Boarding Pass) ออกมาได้ทันที หลังจากนั้น แค่นำสัมภาระไปโหลดตามจุด BAG Drop ที่กำหนดไว้ ก็สามารถเดินตัวปลิวขึ้นเครื่องได้เลย โดยจุด X-PRESS มีให้บริการแล้ว ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ไม่ต้องกังวลว่าจะทำไม่เป็น เพราะมีเจ้าหน้าที่คอยช่วยเหลืออยู่ตลอดเวลาครับ
เมื่อเช็คอินพร้อม ก็เข้าไปช้อปปิ้ง และเดินตรงไปที่ Gate ได้เลย
สำหรับเที่ยวบินนี้ ต้องขึ้นรถบัสไปยังท่าจอดเครื่องบินนอกอาคารครับ
และเราก็เดินทางถึงจุดหมายโดยสวัสดิภาพ แอดมินขอข้ามมาพูดถึงเที่ยวบินขากลับ ที่เป็นไฮไลท์ของรีวิวนี้กันเลยนะครับ
เผื่อเวลาก่อนเที่ยวบินขากลับประมาณ 2 ชั่วโมงกำลังดีครับ แต่ตอนที่เรามาถึงคิวไม่ยาวมาก มีเวลาเข้าไปซื้อของฝากได้สบายๆ เจ้าหน้าที่ทุกท่านที่ เคาเตอร์เช็คอินของการบินไทย ณ สนามบินฟุกุโอกะ ช่วยเหลือดีทุกท่านเลยครับ
วันนี้เราจะบินกลับบ้านด้วย เครื่องบินแอร์บัส เอ 330-300 ทะเบียน HS-TBB นามพระราชทาน “แพร่” กันครับ
มีงวงต่อเข้าประตูเครื่องเลย
สำหรับเที่ยวนี้ นั่งชั้น Royal Silk Class กลับบ้านครับ
ถือว่ายังเช้าอยู่ ขอรับน้ำส้ม แทน แชมเปญ ละกัน
จอใหญ่ เตรียมนอนดูหนังสบายๆ ได้สัก 2 เรื่อง
และเมนูอาหารสำหรับวันนี้ จะต้องเป็นเมนูพิเศษโดย Restaurant HANANOKI ที่มีเฉพาะเที่ยวบินขากลับนี้เท่านั้น
เสิร์ฟ ถั่วเอนโดมาเมะ ให้ทานเป็นของว่างเรียกน้ำย่อยก่อน
เมนูอาหารปกติสำหรับเที่ยวบินนี้
อาหารจานแรก First Course
ประกอบไปด้วย สาหร่ายทะเลและกุ้งปรุงรส เทอรีนกุ้ง เนื้ออบ และเห็ดชิเมจิ สลัดปู เสิร์ฟพร้อมกับ สลัดผักสด น้ำสลัดญี่ปุ่น
และเมนูพระเอกประจำเที่ยวบินนี้ เมนูแรก ก็คือ ไก่ย่าง ราดซอสฟองเดอโว (Char-grilled Chicken with Fond de veau) เสิร์ฟพร้อม มันฝรั่งอบใบพลาสรี่ และเห็ดหอมญี่ปุ่น มะเขือเทศ ถั่วลันเตา และ ดอกกะหล่ำต้ม
และอีกเมนูที่น่าทานไม่แพ้กัน คือ ปลาบรีมทะเลรมควัน ราดซอสเนยขาว (Smothered Sea Bream with Sauce Beurre Blanc) เสิร์ฟพร้อม มันฝรั่งบด ต้นกระเทียมญี่ปุ่นย่าง แครอท และ ถั่วฝักยาวต้ม
และตามด้วย ผลไม้ เสิร์ฟพร้อมกับ ชีสและแครกเกอร์
ยังไม่พอ ตามด้วยเค้กมูสเนยแข็ง เสิร์ฟ พร้อมกับชากลิ่น Carmomile อันนี้รีเควสเองครับ ^^ เป็นอันเสร็จพิธี
ปัจจุบัน การบินไทย ทำการบินไปยังประเทศญี่ปุ่น รวม 75 เที่ยวบิน ต่อสัปดาห์ ทั้งหมด 6 จุดหมาย ในเส้นทางดังนี้
(ตารางบินฤดูร้อน 2559)
- เส้นทางไป-กลับ กรุงเทพฯ – นาริตะ สัปดาห์ละ 21 เที่ยวบิน
- เส้นทางไป-กลับ กรุงเทพฯ – ฮาเนดะ สัปดาห์ละ 14 เที่ยวบิน
- เส้นทางไป-กลับ กรุงเทพฯ – นาโกยา สัปดาห์ละ 12 เที่ยวบิน
- เส้นทางไป-กลับ กรุงเทพฯ – โอซาก้า สัปดาห์ละ 14 เที่ยวบิน
- เส้นทางไป-กลับ กรุงเทพฯ – ฟุกุโอกะ สัปดาห์ละ 7 เที่ยวบิน
- เส้นทางไป-กลับ กรุงเทพฯ – ซัปโปโร สัปดาห์ละ 7 เที่ยวบิน
สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมตลอดจนสำรองที่นั่งได้ที่
THAI Contact Center หมายเลข 02-356-1111 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือ www.thaiairways.com