ไปเที่ยว “ชิมะเนะ” กันเถอะ!! เมื่อเอ่ยปากชวนเพื่อน ทุกคนงงถามกลับ ชิมะเนะไหน? คงจะไม่เกินไป ถ้าหากพูดว่าชื่อของจังหวัดนี้ ยังไม่เป็นที่รู้จักในวงกว้างมากนัก แม้กระทั่งคนญี่ปุ่นเองก็ยังตื่นเต้นเลย เมื่อรู้ว่าพวกเราจะไปเก็บข้อมูลที่จังหวัดชิมะเนะกัน!!?
แต่ถ้าถามว่ารู้จักฮิโรชิมะกันใช่ไหม ถ้าคุณรู้จัก ลองไปดูในแผนที่ญี่ปุ่นกัน จังหวัดชิมะเนะ เป็นจังหวัดพี่น้องบ้านเรือนเคียงกันกับ จังหวัดฮิโรชิมะ และยังมีอาณาเขตเชื่อมติดกับอีก 2 จังหวัดใหญ่คือ จังหวัดทตโตริ และ โอคะยะมะ
จังหวัดชิมะเนะ (Shimane) ตั้งอยู่ในภูมิภาคจูโกขุ (Chugoku) ที่แบ่งออเป็น 2 โซนคือ ซันโย (Sanyo) และ ซันอิน (Sanin) ชิมะเนะ เป็น 1 ใน 2 จังหวัดที่อยู่ในเขตซันอิน (อีกจังหวัดคือทตโตริ) หันออกสู่ทะเลญี่ปุ่น และมีเมืองหลวงชื่อว่า มัตสุเอะ (Matsue)
แต่ในจังหวัดที่มีคนกล่าวถึงน้อย กลับกลายเป็นที่เลื่องลือในด้านของความศักดิ์สิทธิ์ ของสถานที่สำคัญมากที่สุดแห่งหนึ่ง ที่ชาวญี่ปุ่นนั้นให้ความเคารพเเละเชื่อถือกันมายาวนานว่า ถ้าหากได้มีโอกาสเดินทางมาที่ ศาลเจ้าอิซุโมะไทฉะ (Izumo Taisha) ศาลเจ้าชินโตที่มีความเก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่นแล้วนั้น ถือว่าเป็นมงคลอันสูงสุดของชีวิตเลยทีเดียว
มีเรื่องเล่าอยู่ว่า ในเดือน 10 ตามจันทรคติ เทพเจ้าทั่วญี่ปุ่นจะมารวมตัวกันที่ศาลเจ้าอิซุโมะไทฉะ เป็นเวลา 1 สัปดาห์ เพื่อกำหนดความสัมพันธ์ระหว่างชายหญิง ชาวญี่ปุ่นจึงนิยมมาขอพรเรื่องความรักที่นี่ได้ทั้งปี ทั่วญี่ปุ่นจะมีเดือนที่ไม่มีเทพเจ้า ยกเว้นที่เมืองอิซุโมะ ในปีนี้ตรงกับ วันที่ 27 พ.ย. ที่เทพเจ้าจะมาชุมนุมกัน
และตามตำนานยังได้กล่าวไว้ว่า จักรพรรดิในยุคนะระ สร้างศาลเจ้าอิเซะ ตอนพระอาทิตย์ขึ้น และสร้างศาลเจ้าอิซุโมะ ตอนพระอาทิตย์ตก
และนั่นเองที่เป็นสาเหตุให้เรามาเยือน เมืองอิซุโมะ (Izumo) กันในครั้งนี้ เพราะนอกจากศาลเจ้าอิซุโมะไทฉะ อันเลื่องลือแล้วนั้น ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกหลายแห่ง และที่สำคัญบรรยากาศของเมืองเก่าแห่งนี้ จะทำให้คุณตกหลุมรักตั้งแต่แรกพบเลยทีเดียวล่ะ!
การเดินทางจากโอซาก้า มายัง มัตสุเอะ
- ทางเครื่องบิน: จากสนามบิน Osaka Airport ถึง Izumo Airport ใช้เวลา 60 นาที มี 6 เที่ยวบินต่อวัน จากนั้นโดยสารชัตเติลบัสเข้าตัวเมืองมัตสุเอะ
- ทางรถไฟ: จากสถานี Shin-Osaka โดยสารรถไฟชินคังเซ็นมาลงที่สถานี Okayama และเปลี่ยนเป็นรถไฟด่วน Super Yakumo มาลงที่สถานี Matsue ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงครึ่ง
- ทางรถบัส: จากสถานี Shin-Osaka มีรถบัสรอบดึก ออกเวลา 23.00 น. ถึงสถานี Matsue เวลา 6.45 ของเช้าวันถัดไป ส่วนขากลับ รถออก (ป้ายรถบัสหมายเลข 9) เวลา 22.30 และถึงสถานี Shin-Osaka เวลา 6.15 ของเช้าวันถัดไป
การเดินทางจากมัตสุเอะ มายัง อิซุโมะ: จากสถานี Matsue โดยสารรถไฟ JR มายังสถานี Izumoshi ด้วยรถไฟด่วน ใช้เวลา 30 นาที (รถไฟธรรมดา ใช้เวลา 50 นาที)
สำหรับสถานที่แห่งแรกที่เราแวะกันคือ ศาลเจ้าฮิโนมิซะกิ (Hinomisaki Shrine) ศาลเจ้าแห่งสร้างขึ้นเพื่อเป็นสถานที่สถิตของ เทพเจ้าอะมะเทระสุ (Amaterasu Omikami) เทพเจ้าปกป้องตอนกลางคืน หรือมีอีกนามว่า Goddess of sun และมีศาลเล็กที่ตั้งอยู่บนเนินภายในศาลเจ้า เป็นที่สถิตของเทพเจ้าสุซาโนะโอ (Susano-o no Mikoto)
การเดินทาง: ขึ้นบัสจาก Izumo Taisha 15 นาที 500 เยน หรือ JR Izumoshi มาได้ 45 นาที 860 เยน หรือขึ้นแท้กซี่มาได้จาก Izumo Taisha ค่ารถประมาณ 2000 เยน
ตารางเวลารถบัส แนะนำให้ขึ้นแท๊กซี่มาจะสะดวกกว่าทั้งไปและกลับ
ฝาท่อประจำเมือง เป็นลายของสถานที่ถัดไปที่เราจะไปเยือน
สถานที่ต่อมาคือ ประภาคารอิซุโมะฮิโนะมิซะกิ (Izumo Hino Misaki Lighthouse) ตั้งอยู่ด้านหลังของศาลเจ้าฮิโนมิซะกิ ประภาคารแห่งนี้ มีความสูง 63 เมตร สร้างเสร็จปีค.ศ. 1903 มีอายุร่วมร้อยกว่าปี และปัจจุบันยังคงใช้งานอยู่จริง ถ้าจะขึ้นไปชมวิวด้านบนสุดจะต้องขึ้นบันไดวนทั้งหมด 163 ขั้น
เวลาทำการ 9.00-16.00 / ค่าเข้าชม 200 เยน
ระหว่างทางจะได้พบกับบ้านเรือนและร้านค้าในสไตล์เกาะริมทะเล
ด้านในจะเป็นภาพประวัติศาสตร์ของหอประภาคารแห่งนี้ และด้านล่างเปิดเป็นช่องให้เห็นโครงสร้างดั้งเดิมที่ใช้ก้อนอิฐก่อ
ติดทะเลญี่ปุ่น มีแหลม ประภาคาร คนญี่ปุ่นนิยมมาชมวิวพระอาทิตย์ตกตอนเย็น
ด้านหลังมีจุดชมวิว Komatsudaira และมองไปเห็นถึงเกาะ Izumomatsushima
บริเวณนี้จะสามารถพบเจอนก Umineko ได้เยอะ
หลังจากเดินกันมาเหนื่อยๆแล้ว เราย้อนกลับมาที่โซนร้านค้าที่เพิ่งเดินผ่านไปเมื่อครู่ แวะทานมื้อเที่ยงกันที่ร้าน Kakitani 柿谷 ที่ร้านนี้จะเด่นเรื่องอาหารทะเลสด โดยเฉพาะเมนูไคเซ็นด้ง (Kaisendon)
– Misakidon 1200 เยน ปลาแซลมอน กับ ปลาคัมปาจิ เปลี่ยนไปตามฤดู ใช้ปลาที่จับได้ในบริเวณนี้ แต่จุดเด่นคือ yamaimo ที่เอามาฝนจนละเอียดเป็น tororo
– Yakiikadon 1000 เยน ปลาหมึกย่างราดซอส ซอสเค็มกำลังดี ปลาหมึกรอบอร่อย ไม่เหนียว
– Yamakakedon 900 เยน มีเซทคู่กับโซบะ izumo soba (ใช้เม็ดโซบะมาตำผสมมีสีเข้ม มีกลิ่นหอมกว่าที่อื่น) 1500 เยน
Ikasashidon (1500 เยน) ข้าวหน้าปลาหมึกย่างจานนี้ก็เด็ดไม่แพ้กัน
คุณป้าเจ้าของร้านกำลังย่างปลาหมึกและหอยทะเลสดๆให้ชิม
หลังจากนั้นเราย้อนกลับมาที่บริเวณด้านหน้าศาลเจ้าอิซุโมะไทฉะกันอีกครั้ง เพื่อเข้าไปสักการะศาลเจ้าที่ทรงคุณค่าของชาวญี่ปุ่นกัน
ระหว่างทางเดินเข้า ศาลเจ้าอิซุโมะไทฉะ (Izumo Taisha) จะมีซุ้มประตูโทริอิทั้งหมด 4 แห่ง ใช้วัสดุสร้างไม่เหมือนกันคือ หิน ไม้ เหล็ก ทองแดง ทางเดินเข้าสู่ตัววิหารหลักของศาลเจ้านั้นมีลักษณะพิเศษ เป็นทางลาดลงและชันขึ้น เนื่องจากพื้นดินมีลักษณะเป็นเนินตามธรรมชาติ จึงสร้างแบบนี้ ไม่ทำลายของเดิม
สัญลักษณ์หน้าห้องน้ำยังน่ารักไม่ทิ้งคอนเซ็ปต์
เน้นเรื่องความสัมพันธ์ คู่ครอง เพื่อน เจ้านายลูกน้อง แต่สาวๆญี่ปุ่นนิยมมาขอเรื่องความรัก แต่งงาน
เป้นที่สถิตของ Okuninushi เทพเจ้าที่สร้างประเทศญี่ปุ่น
ตามตำนานว่าไว้ ศาลเจ้าดั้งเดิมเคยสร้างไว้สูงถึง 48 เมตร ใช้ท่อนไม้ใหญ่ 3 ท่อนมารวมกันเป็นเสา 1 ต้น มีจำลองไว้ให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่ในอดีต
เครื่องรางต่างๆของศาลเจ้า
กระต่ายเป็นสายสัมพันธ์ให้กับเจ้าชายที่มาช่วยกระต่ายที่ถูกแกล้ง ได้แต่งงานกับเจ้าหญิง จนเป็นที่มาของความเชื่อเรื่องความรัก
และปิดท้ายวันที่ร้านขนมหวานขึ้นชื่อของเมือง ที่ร้าน Izumo Senzaimochi ตั้งตรงข้ามทางเข้าหลักศาลเจ้า อยู่ในตรอกขายของฝาก Goenyokocho ว่ากันว่ามาเมืองนี้ต้องชิมเซนไซ เพราะเป็นจุดเริ่มต้นของเมนูนี้ เพราะที่นี่เป็นแหล่งของถั่วแดงต้มพอดี
(ชื่อเรียกมีที่มาที่ไป จากตำนานมาจากเทพเจ้าในอดีต แผลงจากเสียงอ่าน Kamiari -> Shinzai -> Zenzai)
มีหลากหลายเมนูให้เลือก Zenzai 500 เยน / Matcha zenzai 700 เยน / Zenzai kori 700 เยน
เสิร์ฟพร้อมกับของดองตัดความหวาน
หลังจากนั้นก็เดินเล่นเลือกซื้อของฝากกันอย่างเพลิดเพลิน
และไม่ควรพลาดแวะ Starbucks สาขาด้านหน้าศาลเจ้าอิซุโมะ นอกจากจะดีไซน์ออกมาให้เข้ากับบรรยากาศโดยรอบแล้ว ยังมีสินค้าพิเศษ แก้วอิซุโมะ (Izumo Mug) ที่วางจำหน่ายเฉพาะที่นี่อีกด้วย ที่สำคัญแก้วนี้ Made In Japan คู่ควรแก่การจับจองอย่างยิ่ง
แล้วตอนหน้าจะพาไปเที่ยวเมืองออนเซ็นแสนงามของจังหวัดชิมะเนะกัน รอติดตามกันด้วยนะครับ 🙂