Saitama: เยี่ยมบ้านเกิดชินจังที่เมือง Kasukabe มาจากโตเกียวไม่ถึงชั่วโมง

ใครอ่านชินจังก็จะรู้ว่า คาสุคาเบะ (Kasukabe) คือชื่อเมืองที่ปรากฎในการ์ตูน ตั้งอยู่ในจังหวัดไซตามะ เพื่อนบ้านโตเกียวนี่เอง ได้ยินชื่อมานานน่าจะเป็น 20 ปีได้แล้ว!!? วันนี้มีโอกาสได้มาเยือนเมืองชินจังทั้งที ก็ขอแวะเที่ยวให้ทั่วๆกันสักหน่อย จะไปไหนกันบ้างตามไปเที่ยวกันเลย~

การเดินทางจากโตเกียว ตั้งต้นที่สถานี Tobu Asakusa โดยสารรถไฟ Tobu Ltd. Exp. ลงที่สถานี Kasukabe ใช้เวลา 35 นาที

จริงๆแล้วสถานที่เที่ยวสามารถเดินได้จากสถานี Kasukabe แต่บางแห่งก็ต้องอาศัยรถบัส Crayon Shinchan Haru Bus คันนี้ เพิ่มความสะดวกสบายมากขึ้น เป็นรถบัสที่ให้พวกชินจังพาเดินทางกันทั่วทั้งเมืองเลย

สถานที่แรกที่เราแวะมา ไม่ได้เกี่ยวกับชินจังแต่อย่างใด แต่มีความสำคัญกับชาวเมืองคาสุคาเบะ รวมถึงชาวโตเกียว เป็นอย่างมาก และถือว่าเป็นผลงานอันน่าทึ่งที่ชาวญี่ปุ่นได้คิดค้นขึ้นมาเพื่อต่อสู้กับภัยธรรมชาติอย่างชาญฉลาด สถานที่นี้ก็คือ Metropolitan Area Outer Underground Discharge Channel 首都圏外郭放水路 ชื่ออาจฟังดูเข้าใจยาก เดี๋ยวจะอธิบายให้ฟังครับว่ามันคืออะไร

Metropolitan Area Outer Underground Discharge Channel หรือมีชื่อเรียกสั้นๆเป็นภาษาญี่ปุ่นว่า Sairyu no kawa คือโครงการป้องกันน้ำท่วมที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีโครงสร้างเป็นอุโมงค์ใต้ดินประกอบไปด้วยเสาขนาดยักษ์สูง 20 เมตร จำนวน 59 ต้น เพื่อรองรับและจัดการน้ำ เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำท่วมเขตเมืองหลวงโตเกียวและปริมณฑลได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เมื่อเรามาถึงแล้วให้เดินขึ้นมาชั้น 2 เพื่อรวมตัวก่อน เพราะว่าที่นี่จะมีทัวร์ให้บริการพาเดินชมภายในอุโมงค์ระบายน้ำ ให้ได้เห็นของจริงกันแบบใกล้ชิดกันไปเลย ไม่น่าเชื่อว่าทัวร์นี้จะได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก มีทั้งชาวญี่ปุ่นและชาวต่างชาติมาร่วมทัวร์กัน และมี 7 รอบทุกวัน ค่าใช้จ่ายคนละ 650 เยน ดูรายละเอียด >> ที่นี่

สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติแนะนำให้ดาวโหลด Multilingual Guide Audio App เอาไว้ก่อนที่ทัวร์เริ่ม เพราะว่าเจ้าหน้าที่จะอธิบายเป็นภาษาญี่ปุ่น ถ้าเราใช้แอพนี้ก็จะช่วยให้เข้าใจกระบวนการทำงานได้มากขึ้น และยังมี Simulated Flood Experience AR App กราฟิคจำลองเหตุการ์ณที่เกิดขึ้นในอุโมงค์ ให้เห็นภาพได้กระจ่างยิ่งขึ้น

ศูนย์บัญชาการแห่งนี้ยังได้รับความนิยมไม่แพ้กัน เพราะว่าถูกใช้เป็นโลเคชั่นในภาพยนตร์ยอดมนุษย์ของญี่ปุ่น อย่างขบวนการ 5 สี และอุลตร้าแมน อีกด้วย

หลังจากที่เรารวมตัวกันและได้เวลาแล้ว เจ้าหน้าที่จะพาเราเดินออกมาด้านนอก ประตูทางเข้าของ ริวคิวคัง (RyuQkan) สถานีจัดการน้ำด่านสุดท้าย (ที่ว่ากันว่ามีมังกรอาศัยอยู่!?) เพื่อลงไปยังอุโมงยักษ์ใต้ดินกัน จุดนี้จะต้องเดินลงบันไดร้อยกว่าขึ้น เพราะอุโมงค์อยู่ลึกลงไปใต้พื้นดินกว่า 22 เมตร เมื่อลงไปแล้วก็จะเห็นถึงความยิ่งใหญ่อลังการ ที่มนุษย์สร้างขึ้นเพื่อจัดการกับภัยธรรมชาติได้อย่างน่าทึ่งจริงๆ ไปถึงข้างล่างแล้วก็อย่าลืมเปิดแอพดูภาพจำลองกันนะครับ

อุโมงค์นี้ใช้เวลาก่อสร้างนาน 17 ปี เริ่มตั้งแต่ปีค.ศ.1992 และสร้างแล้วเสร็จในปีค.ศ.2006 ใช้เงินกว่าสร้างถึง 2 พันล้านเหรียญสหรัฐ มีความยาว 177 เมตร กว้าง 78 เมตร สูง 18 เมตร

การทำงานหลักๆจะเป็นการรวบรวมน้ำจากแม่น้ำหลายสายรอบมหานครโตเกียว และระบายออกไปยังแม่น้ำเอโดะกะวะ (Edogawa) และปล่อยออกสู่อ่าวโตเกียวต่อไป จึงทำให้น้ำไม่เอ่อล้นตลิ่งของแม่น้ำสายต่างๆที่วิ่งผ่านตัวเมือง และลดปัญหาน้ำท่วมได้ในที่สุดนั่นเอง ถ้าใครสนใจอยากศึกษากระบวนการทำงานโดยละเอียดสามารถดาวโหลดคูมือได้ >> ที่นี่

แท่งเสาสูง 18 เมตร น้ำหนัก 500 ตัน พอไปยืนเทียบแล้ว คนกลายเป็นมดไปเลย

มุมนี้ถือว่าเป็นมุมที่คนนิยมมาถ่ายภาพกันมากที่สุดจุดนึง ราวกับเป็นเสาของวิหารใต้ดิน

Metropolitan Area Outer Underground Discharge Channel
เวลาทำการ: 9.30-16.00 น.
รอบทัวร์: 7 รอบ เวลา 10.00 / 11.00 / 12.00 / 13.00 / 14.00 / 15.00 / 16.00 (ใช้เวลา 50 นาที)
การเดินทาง: โดยสารรถบัส Crayon Shinchan Haru Bus ลงที่ป้าย Ryu Q Kan
โดยสารรถไฟลงที่สถานี Minami- Sakurai หลังจากนั้นต่อแท๊กซี่ประมาณ 10 นาที


ก่อนออกเดินทางไปหาชินจังเป้าหมายหลักของเราในวันนี้ ต้องแวะเติมพลังกันสักหน่อย โดยร้านที่เราเลือกมาวันนี้ ชื่อว่า โทคุจูอัน (Tokujyuan 徳樹庵) เป็นร้านยอดนิยมของชาวเมืองคาสุคาเบะเป็นอย่างมาก เพราะเราได้จะได้ทานเมนูโปรดที่แสนจะธรรมดา แต่ร้านนี้กลับทำให้ทั้งน่ากินและอร่อย ในราคาที่เรียกว่าประหยัดสุดๆ แถมบรรยากาศร้านก็ดีงามซะจนอยากให้ตามรอยมากันจริงๆ

มาง่ายมากๆจากสถานี Kasukabe เดินเพียง 5 นาที (Map) เปิดให้บริการ 11.00-23.00 น.

บรรยากาศภายในร้าน เรียบหรู อบอุ่นตามสไตล์ญี่ปุ่น

เมนูเด่นๆจะเป็นข้าวหน้าต่างๆ และที่พลาดไม่ได้คือ ไก่ทอดคาราอาเกะ ที่ทางร้านนำเสนอ ต้องสั่งมาชิมให้ได้!

งานนี้เราจัดเต็ม สั่งมาชิมข้าวหน้าเกือบทุกเมนู ทั้งข้าวหน้าไก่กับไข่ ข้าวหน้าทะเล ข้าวหน้ากุ้งเทมปุระ และข้าวหน้าหมูทอด เห็นได้ว่าเป็นเมนูที่หาทานได้ทั่วไป แต่ร้านนี้ทำออกมาได้น่ากินมาก และราคาก็ไม่แพงเลย ถ้าเทียบกับการมานั่งในท่ามกลางบรรยากาศร้านสวยขนาดนี้

ปิดท้ายด้วยขนมหวานแบบญี่ปุ่น ที่สุดแสนจะเบสิค แต่ก็เป็นความธรรมดาที่อร่อยสุดๆ


อิ่มท้องกันแล้ว อย่าเพิ่งรีบง่วง ให้เดินต่อมาที่ห้าง LaLa Garden Kasukabe เพราะเรามีนัดกับชินจัง!

การเดินทาง: จากสถานี Kasukabe เดินประมาณ 5 นาที (Map)
เวลาทำการ: 10.00-20.00 น. (ร้านอาหารเปิด 11.00-22.00 น.)
เว็บไซต์:  LaLa Garden Kasukabe (ภาษาญี่ปุ่น)

ไม่พูดพร่ำทำเพลง มาถึงแล้วรีบขึ้นบันไดเลื่อนมาที่ชั้น 3 ทันที แล้วเราก็จะเจอกับ Crayon Shinchan Game Center (เรียกย่อๆว่า Ge-sen) เป็นสถานที่ๆที่จะได้ใกล้ชิดกับชินจัง ครอบครัวชินจัง และเพื่อนๆชินจังมากที่สุด >> เว็บไซต์

© Usui Kiito / Futabasha, Shin Eye, TV Asahi, ADK

และที่นี่ก็เป็นที่ตั้งของ Crayon Shinchan Cinema Studio ด้วย

มุมต้อนรับที่ด้านหน้าทางเข้า

มุมเด็ดของชินจังทั้งน้าน~ นู้ดครึ่งก้นงี้

ครอบครัวโนะฮาร่า

มีเกมส์ต่างๆให้เด็กๆ หรือแม้แต่ผู้ใหญ่หัวใจเด็กอย่างเราๆเล่นอย่างสนุกสนาน ในราคาเริ่มต้นที่ 100 เยน มีตู้ถ่ายสติ้กเกอร์ลายชินจัง และมุมขายของที่ระลึกด้วย

อยากจะขนกลับบ้านไปให้หมด! แต่ดันคีบไม่เก่งเนี่ยสิ เศร้าเลย~

คุณพ่อฮิโรชิ อย่างเท่!!

และมุมที่น่าร้ากกกมากๆคือ มุม Photo spot ที่จะมีชุดนักเรียนอนุบาลฟุตาบะ (เวอร์ชั่นไทยเราเรียกว่าอนุบาลบูม) กลุ่มทานตะวัน ให้ใส่ถ่ายรูปเล่นกันด้วย ชุดสีฟ้ามีป้ายชื่อเป็นของคาซามะคุง ส่วนชุดสีชมพูมีป้ายชื่อเป็นของเนเน่จัง แบ๊วสุดๆ แถมฟรีไม่มีคชจ.


ยังไม่หมดแค่นี้! แฟนคลับชินจังต้องรู้จักสถานที่ที่เรากำลังจะไปกันต่อนั่นก็คือ ห้างที่มิซาเอะชอบไปเดินนั่นเอง!! ในการ์ตูนจะใช้ชื่อเรียกว่า Sato kokono kado ซึ่งมีต้นแบบเป็นห้าง Ito Yokado สาขาคาสุคาเบะ นั่นเอง!!

ทุกอย่างเดินเชื่อมถึงกันได้หมด ตั้งแต่สถานี Kasukabe ไปร้านอหาร ต่อด้วยห้าง LaLa garden และมาต่อยังห้าง Ito Yokado แห่งนี้ และแน่นอนว่าที่ห้างนี้ก็จะมีมุมของชินจังให้ได้ไปถ่ายรูปกันแน่นอน!

ขึ้นมาที่ชั้น 3 กันเลย จะเจอกับชินจังใส่ชุดของห้าง Sato kokono kado ยืนต้อนรับ เชิญชวนให้เข้าไปด้านใน
ค่าเข้าฟรี / เวลาทำการ 10.00-18.00 น.

มุมต่างๆในสตูดิโอน้อยๆของชินจัง มีมุมส่วนตัวของชินจังให้เราได้ไปถ่ายรูปเล่นกันด้วย

บ้านเจ้าขาวก็มา! พร้อมกับประโยคเด็ด เจ้าขาว ถ้าแกโตขึ้นเท่ากับ 5 ขวบของคนแล้วละก็ ชีวิตมันเศร้า!

ไปเที่ยวญี่ปุ่นทุกครั้งต้องพก Pocket WiFi ญี่ปุ่น 4G จาก TRIPIZEE ไปด้วยเสมอ เพราะไม่เคยมีปัญหาเรื่องสัญญาณเลย ไม่ว่าจะไปเมืองไหนก็ตาม รับรองงานนี้แอดมินใช้เองและการันตีว่าดีจริง!! ในราคาสุดพิเศษ เพียงแค่ 150 บาทต่อวัน!!

และช่วงนี้มีโปรโมชั่น แถมฟรี 1 วัน เมื่อจองอย่างน้อย 3 วัน ใส่ Promo Code LOVETPZ1MH4 หรือ แถมฟรี 2 วัน เมื่อจองอย่างน้อย 5 วัน ใส่ Promo Code LOVETPZ2MTD ถึง 31 ธ.ค. 2019 จองได้เลย >> TRIPIZEE

มุมขายของที่ระลึก

และมุมขายสินค้าพิเศษเฉพาะที่ Ito Yokado เท่านั้น มีถุงผ้าลายโลโก้ห้างแบบในการ์ตูนด้วย


จบจากเมืองคาสุคาเบะแล้ว แต่ยังมีเวลา เราเลยสรรหาที่ช้อปเพิ่ม เพราะรู้มาว่าในจังหวัดไซตามะ มีห้างที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นตั้งอยู่ ชื่อว่า AEON LakeTown ประกอบไปด้วย โซน Kaze, Mori และ LakeTown Outlet บนพื้นที่กว้างถึง 224,000 ตร.ม. สนุกได้ทั้งครอบครัว มีทุกสิ่งให้เลือกสรร แถมยังเดินทางมาได้สะดวกสุดๆ เพราะมีสถานีรถไฟตั้งอยู่ติดกับห้างเลย >> เว็บไซต์

การเดินทางจากสถานี Kasukabe โดยสารรถไฟ Tobu Skytree Line Express ลงที่สถานี Shin-Koshigaya จากนั้นเดินมาที่สถานี Minami-Koshigaya เพื่อขึ้นรถไฟ JR สาย Musashino ลงทีสถานี Koshigaya-Laketown รวมใช้เวลาเดินทาง 30 นาที

การเดินทางจากสถานี Tokyo โดยสารรถไฟ JR Keihin-Tōhoku ลงที่สถานี Minami-Urawa จากนั้นต่อรถไฟ JR สาย Musashino ลงทีสถานี Koshigaya-Laketown รวมใช้เวลาเดินทาง 1 ชั่วโมง

เป้าหมายของเราวันนี้อยู่ที่ LakeTown Outlet

นอกจากช้อปปิ้งแล้วที่นี่เราจะได้พบกับ ครอบครัวซิลเวเนียน (Sylvanian Families) ด้วย

ครอบครับซิลเวเนียน (Sylvanian Families) ถือกำเนิดในประเทศญี่ปุ่นเมื่อปีค.ศ.1985 และไปโด่งดังทั่วโลกโดยเฉพาะในแถบประเทศยุโรปมานานกว่า 30 ปีมาแล้ว และเข้าสู่ประเทศไทยบ้านเราเมื่อปีค.ศ.1995 ได้รับความนิยมมาอย่างต่อเนื่อง โดยกลุ่มทาเก็ตหลักคือคุณหนูเด็กผู้หญิงอายุ 6 ขวบนั่นเอง >> เว็บไซต์

ในโซน Sylvanian Street จะประกอบไปด้วย 2 ส่วนหลักๆคือ ห้อง Play room (Asobi no heya) ที่คุณหนูๆจะได้เล่นกับครอบครัวซิลเวเนียนได้อย่างใกล้ชิด มีค่าเข้า 500 เยน เล่นได้ 1 ชั่วโมง

มีคอลเลคชั่นน่ารักๆมากมาย แค่นั่งมองก็เพลินแล้ว

และอีกส่วนคือห้องอาหาร Forest Kitchen (Mori no kitchen)

บรรยากาศด้านในร้าน มีมุมของของเล่นในราคาลดพิเศษด้วย

สั่งอาหารได้ตามใจชอบ กับเมนูยอดนิยมอย่างข้าวห่อไข่ออมไรซ์ และเมนูสปาเก็ตตี้ต่างๆ และมีมุมบุฟเฟ่ต์ให้ด้วย

นอกจากนี้ยังมีโชว์น่ารักๆจากครอบครัวซิลเวเนียนด้วยนะ คุณหนูๆที่อยากจะฉลองวันเกิดเค้าก็มีโปรแกรมพิเศษจัดให้ด้วย

แล้วมาพบกันนะ~

ติดตามข้อมูลเที่ยวไซตามะได้ที่นี่ >> SAITAMA-TH

AEON LakeTownCrayon ShinchanKantoKasukabeSaitamaShinchanSylvanian FamiliesTobuTokyoคันโตคาสุคาเบะชินจังชินจังจอมแก่นซิลเวเนียนเครยอนชินจังเที่ยวจากโตเกียวเที่ยวญี่ปุ่นไซตามะ