Osaka: เที่ยวทั่วโอซาก้า ช่วงใบไม้เปลี่ยนสี ด้วยบัตร Osaka Amazing Pass

ถ้าจะให้เลือก 1 เมืองที่เที่ยวสนุก เที่ยวง่าย สะดวกสบาย ครบจบในทุกๆอย่าง สำหรับพวกเราแล้ว “โอซาก้า” เป็นอีกหนึ่งเมืองในดวงใจเสมอ เมืองใหญ่ที่มีอะไรๆเพียบพร้อมไปหมด ไม่ว่าจะสถานที่เที่ยว แหล่งช้อปปิ้ง โดยเฉพาะเรื่องกิน ที่ว่ากันว่า “เปรียบเสมือนครัวของประเทศ” เลย ถึงแม้จะไปเที่ยวโอซาก้ากันทะลุปรุโปร่งทุกมุมแล้ว เราก็มักจะคิดถึงที่เดิมๆที่เราคุ้นเคยอยู่เสมอ

รอบนี้เราซื้อตั๋ว Osaka Amazing Pass พร้อมกับตั๋วขึ้นจุดชมวิวตึก Abeno Harukas 300 และตั๋วเข้าสวนสนุก Universal Studio Japan จากเว็บไซต์ KLOOK ขอบอกเลยว่าง่ายสุดๆ เพียงจองบริการต่างๆจากหน้าเว็บไซต์หรือจากแอพพลิเคชั่นในสมาร์ทโฟนของคุณ แล้วจ่ายเงิน จากนั้นนำหลักฐานการชำระเงินไปแสดงที่เคาน์เตอร์บริการ ก็สามารถแลกตั๋วได้เลย สะดวก สบาย ไม่เสียเวลาต่อคิวใดๆให้เสียเวลา

สำหรับใครที่เครื่องลงดึกไปรับตั๋วที่เคาน์เตอร์สนามบินไม่ทัน สามารถนำอีเมล์ที่ได้รับไปแลกรับตั๋วได้ที่ ศูนย์ให้บริการข้อมูลนักท่องเที่ยวภายในโอซาก้าบัสเทอร์มินัล ชั้น 1 (Osaka City Air Terminal หรือ OCAT) ใกล้กับสถานี Namba

เดินเข้าไปแจ้งพนักงานได้เลยว่ามารับบัตร Osaka Amazing Pass

สำหรับ Osaka Amazing Pass นี้มีทั้งแบบ 1 วัน ราคา 2,300 เยน และ 2 วัน ราคาเพียง 3,000 เยน ซึ่งสามารถใช้เป็นบัตรโดยสารถไฟ รถไฟใต้ดิน รถบัส รถราง และรถไฟสายเฉพาะที่อยู่ภายในตัวเมืองโอซาก้าแบบไม่จำกัดจำนวนเที่ยวใน 1 หรือ 2 วัน รวมทั้งเรายังสามารถใช้เจ้าบัตรนี้ เป็นบัตรผ่านเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ พิพิธภัณฑ์ และสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆอีกมากมายถึง 38 แห่งด้วยกัน ถือว่าคุ้มค่าอย่างมากเพราะซื้อแค่บัตรเดียวแต่สามารถเที่ยวได้ทั่วเมืองจริงๆ

>> ซื้อตั๋วที่นี่ <<

มาเริ่มใช้ตั๋ว Osaka Amazing Pass ไปเที่ยวรอบโอซาก้ากันเลย~

 ปราสาทโอซาก้า (Osaka Castle)

ย้อนกลับสู่อดีตกับปราสาทโอซาก้าอันโด่งดัง สัญลักษณ์ของเมืองโอซาก้าแห่งนี้ สร้างขึ้นเมื่อปีค.ศ. 1583 โดย Toyotomi Hideyoshi หลังจากนั้นมีการถูกบูรณะอีกหลายครั้ง จนเกิดเป็นปราสาทที่สวยงามอยู่เคียงข้างชาวเมืองโอซาก้ามาจนถึงทุกวันนี้ ผู้เข้าชมสามารถเดินชมพิพิธภัณฑ์ ประวัติความเป็นมาของการสร้างปราสาทแห่งนี้ รวมถึงข้าวของเครื่องใช้ของนักรบในสมัยโบราณ รวมถึงชมวิวสวนสวยด้านบนของตัวปราสาทอีกด้วย

บัตร Osaka Amazing Pass ยังสามารถใช้นั่งเรือชมวิวรอบๆปราสาทได้อีกด้วย

ปราสาทโอซาก้า (Osaka Castle)

• เวลาทำการ : 9.00 – 17.00 น.
• วันหยุด : เปิดทำการทุกวัน
• ค่าใช้จ่าย : ผู้ใหญ่ 600 เยน เด็กมัธยมต้นลงไปเข้าฟรี (สำหรับผู้ที่ถือบัตร Osaka Amazing Pass เข้าฟรี)
• วิธีการเดินทาง : รถไฟ JR Loop Line สถานี Osaka Castle Park หรือรถไฟใต้ดินสาย Tanimachi สถานี Tanimachi 4-chome และเดินต่ออีกเล็กน้อย
• เว็บไซต์

 ตลาดปลา Kuromon Ichiba

Kuromon Ichiba หรือเรียกง่ายๆว่า ตลาดคุโรมง เป็นตลาดสดเก่าแก่ของโอซาก้า ที่มีอายุอานามกว่า 190 ปีแล้ว มีชื่อเสียงถึงขนาดที่ ได้รับสมญานามว่าเป็น “ครัวของโอซาก้า” เลยทีเดียว ภายในมีร้านค้ามากกว่า 150 ร้านค้า ตลอดระยะทางกว่า 580 เมตร ในสมัยปลายยุคเมจิ มีชื่อเรียกเดิมว่า Emmeiji Market เนื่องจากว่าอยู่ใกล้กับวัด Emmeiji และตั้งอยู่บนพื้นที่ที่เคยเป็นประตูทางเข้าของวัด ที่เรียกว่า Kuromon (แปลว่า ประตูดำ) ต่อมาจึงกลายเป็นที่มาของชื่อตลาด ที่เรียกกันจนติดปากว่า Kuromon Ichiba

ตลาดปลา Kuromon Ichiba

• เวลาทำการ : 9.00 – 18.00 น.
• วันหยุด : เปิดทำการทุกวัน
• ค่าใช้จ่าย : ไม่มีค่าเข้า
• วิธีการเดินทาง : ติดกับสถานีรถไฟใต้ดิน Nippombashi เดินเพียง 2 นาทีถึง (สามารถเดินทางมาจาก Namba และ Dotombori ได้สะดวก อีกทั้งยังอยู่ไม่ไกลจาก ย่านเครื่องใช้ไฟฟ้า  Den Den Town อีกด้วย)
• เว็บไซต์

พิพิธภัณฑ์ Osaka Museum of Housing & Living

พิพิธภัณฑ์บ้านและความเป็นอยู่ของชาวเมืองโอซาก้า หรือ “Osaka Kurashi No Konjaku Kan” อยู่ที่บนชั้นที่ 8 ของศูนย์ข้อมูลที่อยู่อาศัย บริเวณอาเขตการค้า Tenjinbashi-suji Shotengai จัดแสดงอาคารบ้านเรือนของชาวเมืองโอซาก้าตั้งแต่สมัยเอโดะ (ค.ศ.1603-1867) จนถึงสมัยเมจิ (ค.ศ.1868-1912) สมัยไทโช (ค.ศ. 1913-1926) และสมัยโชวะ (ค.ศ.1926-1989)

พิพิธภัณฑ์ Osaka Museum of Housing & Living

• เวลาทำการ : 10.00 – 17.00 น. (เข้าได้จนถึง 16.30 น.)
• วันหยุด : ทุกวันอังคาร และ วันที่ 29 ธันวาคมถึง 2 มกราคม
• ค่าใช้จ่าย : ผู้ใหญ่ 600 เยน / เด็กมัธยมปลาย-มหาลัย 300 เยน / เด็กมัธยมต้นหรือต่ำกว่าและผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไป ไม่เสียค่าใช้จ่าย (สำหรับผู้ที่ถือบัตร Osaka Amazing Pass เข้าฟรี)
• วิธีการเดินทาง : โดยสารรถไฟใต้ดิน ลงที่สถานี Tenjimbashisuji 6-Chome
• เว็บไซต์

วัด Shitennoji

วัด Shitennoji 四天王寺 วัดพุทธที่เก่าแก่ที่สุดของญี่ปุ่น สร้างขึ้นเมื่อปี 593 โดยเจ้าชาย Shotoku ได้ว่าจ้างช่างไม้ฝีมือดีจากประเทศเกาหลีมาทำการสร้างวัดแห่งนี้ขึ้นมา เนื่องจากเลื่อมใสในศาสนาพุทธมาก และสมัยนั้นยังไม่เป็นที่ยอมรับอย่างแพร่หลาย จึงตัดสินใจสร้างวัดพุทธแห่งแรกขึ้นในญี่ปุ่น เพื่อเป็นจุดเริ่มต้นในการเผยแพร่ศาสนาพุทธในญี่ปุ่นนับแต่นั้นเป็นต้นมา

เจดีย์ 5 ชั้นที่เป็นสัญลักษณ์ของวัดแห่งนี้

วัด Shitennoji

• เวลาทำการ : ช่วงเดือนเมษายนถึงกันยายน เวลา 08.30 – 16.30 น. / ช่วงเดือนตุลาคมถึงมีนาคม เวลา 08.30 – 16.00 น.
• วันหยุด : เปิดทำการทุกวัน
• ค่าใช้จ่าย : ภายนอกรอบรั้วของวัดนั้นสามารถเข้าชมได้ฟรี ส่วนด้านในจะต้องเสียค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 300 เยน เด็ก 200 เยน (สำหรับผู้ที่ถือบัตร Osaka Amazing Pass เข้าฟรี)
• วิธีการเดินทาง : โดยสารรถไฟสาย JR Loop Line มาลงที่สถานี Tennoji และเดินต่ออีก 10 นาที หรือนั่งรถใต้ดินสาย Tanimachi มาลงที่สถานี Shitennoji-mae-Yuhigaoka จะใกล้ที่สุด
• เว็บไซต์

สวนญี่ปุ่น Keitakuen

สวนญี่ปุ่นสไตล์ Chisenkaiyu-shiki ซึ่งมีสระน้ำอยู่ตรงกลางตั้งอยู่ภายในบริเวณสวนสาธารณะ Tennoji แต่เดิมสวนแห่งนี้เป็นส่วนหนึ่งของคฤหาสน์ตระกูล Sumitomo คฤหบดีตั้งแต่สมัยเอะโด ต่อมาในปีค.ศ.1926 Kichisaemon (Shunsui) เจ้าของคฤหาศน์ซึ่งเป็นรุ่นที่ 15 ของตระกูลได้ยกคฤหาสน์พร้อมสวนให้อยู่ในความดูแลของเมืองโอซาก้า ในสระน้ำมีเนินดินเสมือนเกาะลอยอยู่ตรงกลาง มีหุบเขาและที่สูงต่ำโอบรอบๆทั้งสามด้าน รอบๆสระมีตะเกียงหิน สะพาน ทางเดินและห้องชงน้ำชา

สวนญี่ปุ่น Keitakuen

• เวลาทำการ : 09.30 – 17.00 น.
• วันหยุด : ทุกวันจันทร์ และ วันที่ 29 ธันวาคมถึง 2 มกราคม
• ค่าใช้จ่าย : ผู้ใหญ่ 150 เยน, เด็กประถม-มัธยมต้น 80 เยน (สำหรับผู้ที่ถือบัตร Osaka Amazing Pass เข้าฟรี)
• วิธีการเดินทาง : จากสถานี Tennoji Sta. เดินประมาณ 5 นาที
• เว็บไซต์

หอคอย Tsutenkaku ย่าน Shinsekai

เดินทางไปลงสถานี Tennoji เที่ยวย่านเก่าแก่ Shinseikai เพื่อขึ้นหอคอย Tsutenkaku สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1912 เป็นสัญลักษณ์ของการสร้างเมืองใหม่ โดยหอคอยแห่งนี้มีต้นแบบมาจากหอไอเฟลที่ประเทศฝรั่งเศส ชาวเมืองโอซาก้าจึงเรียกหอคอยนี้ว่า “หอไอเฟลแห่งนะนิวะ”

หอคอย Tsutenkaku ย่าน Shinsekai

• เวลาทำการ : 9.00 – 21.00 น. (เข้าอาคารได้ถึง 20.30 น.)
• วันหยุด : เปิดทำการทุกวัน
• ค่าใช้จ่าย : ผู้ใหญ่ 700 เยน, เด็กมหาลัย 500 เยน, เด็กมัธยมต้น-มัธยมปลาย 400 เยน, เด็กประถม 300 เยน (สำหรับผู้ที่ถือบัตร Osaka Amazing Pass เข้าฟรี)
• วิธีการเดินทาง : จากสถานี Ebisu-cho Sta. บนสาย Subway Sakaisuji Line เดินประมาณ 3 นาที หรือจากสถานี Dobutsueneki-mae Sta. บนสาย Subway Midosuji Line เดินประมาณ 10 นาที
• เว็บไซต์

ตึก Umeda Sky Building

Umeda Sky Building Floating Observatory ตั้งอยู่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟ Umeda ตึกแห่งนี้ที่ความสูงที่ 173 เมตรเป็นที่ตั้งของสวนลอยฟ้าที่เราสามารถจะขึ้นไปชมวิวพาโนรามา 360 องศาของเมืองโอซาก้าทั้งหมด โดยที่นี่ได้รับการจัดอันดับให้เป็นสานที่ชมพระอาทิตย์ตกที่สวยที่สุด แน่นอนว่าที่โรแมนติกแบบนี้ไม่พ้นที่จะมีคู่รักพากันมาออกเดท ทางสวนแห่งนี้ได้จัดให้มี Lumi Deck เก้าอี้ม้านั่งสำหรับคู่รัก และมีที่สำหรับให้คล้องกุญแจที่สลักชื่อคู่รักไว้อีกด้วย

ภาพวิวสวยๆจากบนจุดชมวิว

จุดชมวิว Kuchu-Teien Observatory บนตึก Umeda Sky Building

• เวลาทำการ : บริเวณจุดชมวิว Kuchu-Teien Observatory เวลา 9.30 – 22.30 น. (เปิดรับรอบสุดท้าย 22.00 น.)
• วันหยุด : บริเวณจุดชมวิว Kuchu-Teien Observatory เปิดทำการทุกวัน
• ค่าใช้จ่าย : ค่าเข้าจุดชมวิว Kuchu-Teien Observatory สำหรับผู้ใหญ่ ราคา 1500 เยน / เด็กอายุ 4-12 ปี ราคา 700 เยน (สำหรับผู้ที่ถือบัตร Osaka Amazing Pass เข้าฟรี)
• วิธีการเดินทาง : จากสถานี JR Osaka Sta. หรือสถานี Umeda Sta. บนสาย Subway Midosuji Line, Hankyu Line หรือสถานี Higashi-Umeda Sta. บนสาย Subway Tanimachi Line หรือสถานี Nishi-Umeda Sta. บนสาย Subway Yotsubashi Line เดินประมาณ 9 นาที
• เว็บไซต์

ล่องเรือ Santa Maria Cruise ชมอ่าวโอซาก้า

ล่องเรือ “Santa Maria Cruise” ซึ่งตั้งอยู่ในส่วนของ Bay Area เพื่อชมทัศนียภาพความสวยงามในแถบริมอ่าวโอซาก้า ลอดผ่านสะพาน Minato-Ohashi ที่ Tempozan Harbor Village ล่องไปตามอ่าวจะพบกับพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำไคยูคัง ใช้เวลาในการล่องเรือประมาณ 45 นาที

เรือสำราญชมอ่าวโอซาก้า “Santa Maria” วิ่งไปกลับระหว่าง Tempozan Harbor Village, ท่าเรือพิพิธภัณฑ์สัตว์นำ้ Kaiyukan ด้านตะวันตก นำรูปแบบเรือธงของโคลัมบัสที่ไปยังทวีปใหม่ “Santa Maria” มาสร้างใหม่ให้ใหญ่เป็น 2 เท่า โดยช่วง Day Cruise จะออกจากท่าทุกๆ 1 ชั่วโมง ใช้เวลาวิ่งราว 45 นาที ส่วนช่วง Twilight Cruise ต้องจองล่วงหน้า ใช้เวลาวิ่งราว 60 นาที นอกจากนั้น การจอง Night Cruise แบบเหมาลำก็มีบริการ เหมาะสำหรับใช้เพื่องานพบปะสังสรรค์, ทัศนศึกษา, ปาร์ตี้รอบสอง และอื่นๆ

• เวลาทำการ : ช่วง Day Cruise 11.00 – 17.00 น. / ช่วง Twilight Cruise เริ่มให้บริการตั้งแต่ 17.30 – 19.00 น. (สามารถเช็คเวลาเรืออกวิ่งจากเว็บไซต์หลัก) / ช่วงวันที่ 31 ธ.ค. เปิดบริการเฉพาะ Countdown Cruise เท่านั้น
• วันหยุด : ปิดบริการตามพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ Kaiyukan, 31 ธ.ค., กลางม.ค. – กลางก.พ.
• ค่าใช้จ่าย : ช่วง Day Cruise: ผู้ใหญ่ 1,600 เยน, เด็ก 800 เยน / ช่วง Twilight Cruise: ผู้ใหญ่ 2,100 เยน, เด็ก 1,050 เยน (สำหรับผู้ที่ถือบัตร Osaka Amazing Pass เข้าฟรี สามารถเลือกได้เพียง 1 รอบระหว่างช่วง Day Cruise หรือช่วง Twilight Cruise)
• วิธีการเดินทาง : จากสถานี Osakako Sta. Exit1 บนสาย Subway Chuo Line เดินประมาณ 10 นาที
• เว็บไซต์

ตึก Abeno Harukas

อาคารที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น และเป็น Landmark ล่าสุดของโอซาก้า เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 2014 สร้างขึ้นโดยบริษัท Kintetsu Corporation ภายในเป็นห้างสรรพสินค้า Kintetsu ศูนย์รวมร้านอาหารชั้นเยี่ยม รวม 14 ชั้น อีกทั้งยังเป็นที่ตั้งของโรงแรมสุดหรู Marriott Osaka Miyako นอกจากนี้ยังมีหอชมวิว Harukas Observation Deck 300 บนชั้น 60 ที่ความสูง 300 เมตร ที่สามารถขึ้นไปชมวิวโอซาก้าได้สูงที่สุดอีกด้วย

วิธีการขึ้นไปชมวิวที่ Harukas 300 สามารถทำการซื้อตั๋วที่ด้านล่างชั้น 2 หรือขึ้นลิฟท์ไปที่ชั้น 16 ก็ได้เช่นกัน จากนั้นต่อลิฟท์อีกตัวไปที่ชั้น 60 หลังจากชมวิวเสร็จสามารถลงมาที่ซื้อของที่ระลึกได้ที่ Shop Harukas 300 ชั้น 59 และ เดินชมสวนลอยฟ้ากับหาอะไรทานได้ที่ Sky Garden ชั้น 58 เปิดตั้งแต่เวลา 9.00-22.00 น.

ตึก Abeno Harukas

• เวลาทำการ : 9.00-22.00 น.
• วันหยุด : เปิดทำการทุกวัน
• ค่าใช้จ่าย : ค่าขึ้นชมสำหรับผู้ใหญ่ 1,500 เยน (เด็ก 12-17 ปี 1,200 เยน / เด็ก 6-11 ปี 700 เยน / เด็ก 4 ขวบขึ้นไป 500 เยน) สามารถซื้อตั๋วล่วงหน้าได้ที่ชั้น 2 และ 16 / Family Mart/ จุดจำหน่ายตั๋วในสถานีรถไฟของ Kintetsu (สำหรับผู้ที่ถือบัตร Osaka Amazing Pass สามารถใช้คูปองในเล่มของ Osaka Amazing Pass จ่ายค่าขึ้นชมเท่ากับราคากรุ้ปทัวร์)
• วิธีการเดินทาง : จากสถานี Namba ขึ้นรถไฟ ลงที่สถานี Osaka-Abenobashi หรือสถานี Tennoji ใช้เวลาเพียง 6 นาที หลังจากนั้นเดินต่ออีก 5 นาที นอกจากนี้ยังสามารถเดินทางมาได้โดยตรง จากสนามบินคันไซอีกด้วย โดยใช้เวลาเพียง 30 นาทีเท่านั้น
• เว็บไซต์

ระยะหลังหลังเวลาเดินทาง เรามักจะเตรียมตัวล่วงหน้าให้พร้อม ไม่ว่าจะเป็นตั๋วกิจกรรมต่างๆ พ็อคเกตไวไฟ ซิมการ์ด หรือแม้แต่ร้านอาหารดังที่คิวยาวๆ เพราะเบื่อที่จะต้องไปต่อคิวซื้อตั๋วและบริการต่างๆ สำหรับใครที่กลัวว่าจะมีปัญหาด้านการสื่อสาร เกรงว่าจะซื้อตั๋วไม่ถูก หมดกังวลไปได้เลย

ขอแนะนำเว็บไซต์และแอพพลิเคชั่น KLOOK  ที่เพียบพร้อมไปด้วยความสะดวกสบายและง่ายดายสุดๆ ที่เราสามารถจองตั๋วรถไฟ หรือตั๋วสำหรับเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ อย่างสวนสนุก พิพิธภัณฑ์ รวมถึงบริการต่างๆอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกทั้งพ็อคเกตไวไฟและซิมการ์ด พิเศษสุด!! ช่วงนี้มีโปรดีๆให้คุณได้ท่องเที่ยวแบบคุ้มๆ กับโปรส่วนลดสูงสุด 500 บาท เมื่อใช้โค้ด “LETSKLOOK”

สามารถจองตั๋วและบริการต่างๆได้ >> ที่นี่

สายโซเชียลอย่างเรา อย่าปล่อยให้ตัดขาดจากโลกภายนอก ทริปนี้เราใช้ซิมการ์ด IFREE~MOGO S-mobile on the go สะดวกสบายไม่ต้องพกอุปกรณ์เสริม ใช้ง่าย เพียงแกะซอง หักซิม ใส่ในโทรศัพท์ จากนั้นเปิดโหมด Mobile Data แล้วเลือกเป็น Data Roaming ตั้งค่า APN ตามคู่มือที่ให้มา ก็ท่องโลกโซเซียลกันแบบ Unlimited ไปเลย

>> คลิกดูข้อมูลเพิ่มเติม <<

วันนี้เรากลับไปสนุกกับสวนสนุกระดับโลก Universal Studio Japan กันอีก ที่ที่ใครมาเยือนโอซาก้าแล้วต้องไม่พลาดเด็ดขาด รอบนี้เราซื้อตั๋ว USJ จากเว็บไซต์ KLOOK ง่ายสุดๆ เพียงจองแล้วจ่ายเงิน จากนั้นนำหลักฐานการชำระเงินไปแสกนบาร์โค้ดจากอีเมล์ ก็สามารถเข้าไปสนุกกันได้เลย สะดวก สบาย ไม่เสียเวลาต้องต่อคิวซื้อตั๋วอีกด้วย

ซื้อตั๋ว >> ที่นี่

ความง่ายและสะดวกสบายขั้นสุด แค่เปิดข้อมูลการจองจากอีเมล์ที่เราได้รับมา เอา QR Code ไปแปะที่เครื่องหน้าทางเข้า ก็เดินตัวปลิวเข้าไปได้เลย ไม่ต้องเสียเวลาไปต่อคิวซื้อตั๋วให้หงุดหงิดใจ

สวนสนุก Universal Studio Japan

• เวลาทำการ : 9.00 – 21.00 น. (ช่วงพีค) และ 10.00 – 19.00 น.
• วันหยุด : เปิดทำการทุกวัน
• ค่าใช้จ่าย : ราคาเริ่มต้นสำหรับบัตร 1 วัน ผู้ใหญ่ 7,200 เยน / เด็ก 4,980 เยน / ผู้สูงอายุ 6,470 เยน
• วิธีการเดินทาง : จากรถไฟสาย JR Osaka Loop Line ลงสถานี Nishukujo จากนั้นเปลี่ยนเป็นสาย JR Yamesaki Line นั่งไปลงที่สถานี Universal-City
• เว็บไซต์

รอบนี้เราเดินทางไปโอซาก้าด้วย สายการบินไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ สายการบินที่ได้รับรางวัลสายการบินราคาประหยัดที่ดีที่สุดของโลก 10 ปีซ้อนติดต่อกัน จากการจัดอันดับของสกายแทรกซ์ ให้ได้เดินทางไปร่วมเปิดประสบการณ์ ความสะดวกสบายในสไตล์สายการบินราคาประหยัดที่บริการนั้นดีไม่แพ้สายการบินฟูลเซอร์วิสเลยทีเดียว

นั่งดี นั่งสบาย ยืดขาได้แบบยาวๆ แนะนำ Hot Seat เลยครับ

ของโปรดของเราขึ้นทุกครั้งต้องทาน

บินตรงจากดอนเมืองสู่โอซาก้าโดยให้บริการ วันละ 2 เที่ยวบิน เลือกบินกันตามสะดวกไม่ว่าจะเป็นช่วงสายหรือช่วงค่ำ

เที่ยวบิน XJ612 ดอนเมือง – โอซาก้า เวลา 00:55 น. – 08:40 น.
เที่ยวบิน XJ610 ดอนเมือง – โอซาก้า เวลา 14:10 น. – 21:55 น.

เช็คโปรบัตรโดยสารราคาประหยัดจากสายการบินไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ได้ >> ที่นี่

เชื่อว่าบทความนี้น่าจะเป็นประโยชน์ต่อนักท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่น ให้เที่ยวกันได้สะดวกขึ้น แถมยังประหยัดเงินในกระเป๋าอีกด้วย เก็บเงินที่เหลือไว้ไปช้อปปิ้งทานของอร่อยๆกันดีกว่า สำหรับใครที่มีแพลนจะไปญี่ปุ่นอยู่แล้ว ก็อย่าลืมลองใช้บริการช่องทางการซื้อตั๋วและบริการต่างๆผ่านเว็บไซต์และแอพพลิเคชั่น KLOOK ที่อัดแน่นไปด้วยกิจกรรมต่างๆมากมาย