ทริปด่วนไปโตเกียว ของแอดมินล่าสุด มีโอกาสได้ลองใช้บริการของสายการบินนกสกู๊ต บินตรงจากดอนเมืองสู่นาริตะ ครั้งนี้อยากลองนั่งที่นั่ง 2 แบบ จะได้รู้กันไปว่าดีต่างกันอย่างไร เลยเลือกขาไปจองที่นั่งแบบ ScootBiz และ ขากลับจองที่นั่งโซน ScootinSilence แถวแรกสุด
สำหรับประสบการ์ณโดยรวมต้องบอกเลยว่า ดีเกินคาดครับ นั่งสบาย ไม่มีดีเลย์ และ ไม่เทผู้โดยสาร เดินทางถึงที่หมายปลอดภัยทั้งไปและกลับ ที่สำคัญคุณแอร์ดูแลดีมากๆ ตามมาดูรีวิวแบบละเอียดกันเลยครับ
รายละเอียดเที่ยวบิน
เที่ยวบินขาไป XW102 ดอนเมือง-นาริตะ 2.45-10.25
เที่ยวบินขากลับ XW101 นาริตะ-ดอนเมือง 13.55-19.10
ทำการจองได้ที่เว็บไซต์ >> NokScoot
เมื่อเดินทางถึงท่าอากาศยานดอนเมืองแล้ว สำหรับใครที่จองชั้นโดยสารธุรกิจหรือ ScootBiz ให้เดินเข้ามาที่ช่องเช็คอินพิเศษได้เลย ไม่ต้องต่อคิวยาว
หลังจากนั้นก็จะได้รับบอร์ดดิ้งพาส และกระเป๋าที่ติด Priority Tag ไว้เรียบร้อย พร้อมรอรับกระเป๋าก่อนใครเมื่อถึงปลายทาง
เครื่องบินของเราในวันนี้ทำการบินด้วยเครื่องบินรุ่น Boeing 777-200
มาพูดถึงความโดดเด่นของที่นั่งทั้ง 2 โซนนี้กันบ้างซึ่งต้องบอกว่าที่นั่งของนกสกู๊ตคือ เหยียดขาได้สบาย ไม่อึดอัด ลืมความคิดที่ว่านั่งเครื่องโลว์คอสต์แล้วต้องเบียดอัดกันเป็นปลากระป๋องไปได้เลย!
สำหรับขาไป เราเลือกที่นั่ง ScootBiz เป็นที่นั่งชั้นธุรกิจ อาจจะไม่ใช่ที่นั่งที่ปรับนอนราบได้ แต่ด้วยพื้นที่ที่กว้างก็ทำให้พักผ่อนตลอดไฟลท์ได้อย่างสบาย ที่สำคัญราคาไม่แรงไป เพราะมีโปรดีๆออกมาให้สอยตลอด
เบาะหนังนั่งสบาย
นอกจากนี้แล้วยังรวมสัมภาระโหลด 30 กก. สัมภาระถือขึ้นเครื่องได้ 2 ใบ ฟรีอาหารเครื่องดื่ม ได้เชคอินและขึ้นเครื่องก่อนใคร แถมยังมีปลั๊กเสียบชาร์จแบตใต้ที่นั่งด้วย
หันไปด้านหลังจะเจอกับที่นั่งชั้นประหยัดโซนหน้าที่ถัดจากชั้นธุรกิจ มีที่นั่งกว้างกว่าโซนหลัง ที่จะมารีวิวในช่วงท้ายครับ
บรรยากาศในห้องโดยสาร ระหว่างบอร์ดดิ้ง ถูกปรับแสงให้สบายตา และสงบเงียบ ไม่วุ่นวาย
สำหรับใครที่อัพไซส์ สามารถนั่งที่นั่ง ScootBiz ได้แบบสบายตัว ไม่ต้องงอขางอตัวให้อึดอัด
(หมายเหตุ: บุคคลในภาพเป็นรุ่นพี่ของแอดมินเองครับ ขออนุญาตมาลงแล้ว อิอิ)
อย่างแอดมินเป็นคนขายาว ก็เหลือพื้นที่ให้ยืดได้กว้างๆสุดขา
ห้องน้ำด้านหน้ากว้างแบบหมุนตัวได้สบายๆ
อาหารเช้าจะเสิร์ฟก่อนเวลาเครื่องลงราว 2 ชั่วโมง ได้ทานเมนูใหม่อย่างชิกเก้นแรป และ ข้าวกะเพราไก่ แสนอร่อย แนะนำว่าก่อนออกเดินทางอย่าลืมเลือกออปชั่นสุดคุ้มอย่าง FlyBagEat ที่รวมทั้งสัมภาระโหลดและอาหารอร่อยๆบนเครื่อง ครบกว่าประหยัดกว่า
และเราก็เดินทางถึงสนามบินนาริตะโดยสวัสดิภาพ ไม่ดีเลย์เลยครับ
ข้ามเวลามาถึงวันกลับกันแล้ว ซึ่งจะบินออกจากสนามบินนาริตะเช่นกัน ตรวจสอบเที่ยวบินและช่องเช็คอินเรียบร้อย
สำหรับผู้โดยสารชั้น ScootBiz ก็สามารถเข้าช่องเช็คอินพิเศษได้ทันที
ระหว่างทางเดินไปที่เกทก็เจอเครื่องจอดรออยู่แล้ว มั่นใจได้ว่าได้กลับบ้านแน่นอน
ประตูทางออกค่อนข้างไกล เดินสุดอาคารเลย ใครจะช้อปปิ้งเผื่อเวลาเดินไว้สัก 20 นาทีนะครับ (*ประตูทางออกเปลี่ยนแปลงได้)
นกลำใหญ่มารับเรากลับบ้านแล้ว
สำหรับขากลับเราเลือกที่นั่งแบบ SccotinSilence เป็นที่นั่งชั้นประหยัดโซนหน้า ต่อจากชั้นธุรกิจ ที่มีความเป็นส่วนตัวและเงียบสงบ ที่นั่งก็จะมีความกว้างกว่าที่นั่งชั้นประหยัดในโซนหลัง
ยิ่งถ้าเลือกแถวหน้าสุดของโซนก็เหยียดขาสบายๆได้ไม่ต่างจากชั้นธุรกิจเลย
งานนี้ได้นั่งกลับบ้านอย่างสบายใจ นอกจากที่นั่งจะกว้างสุดๆแล้ว ยังไม่มีคนมานั่งข้างๆอีกด้วย
ระหว่างทางขากลับให้เลือกที่ริมหน้าต่างฝั่ง K วันไหนโชคดีก็จะได้เจอฟุจิซังในมุมสูงแบบนี้
ถ้าใครหิวระหว่างไฟลท์ ก็มีเมนูจาก NokScoot Café ให้เลือกอิ่มอร่อยกับอาหารหลากหลายเมนู
สำหรับขากลับเป็นช่วงบ่ายก็เลยลองเมนูใหม่อย่าง ข้าวแกงมัสมั่นไก่ อร่อยสุดๆไปเลยครับ
หรือถ้าใครสนใจอัพเกรดที่นั่งระหว่างไฟลท์ ก็สามารถจ่ายเงินบนเครื่องและย้ายที่นั่งได้เลยครับ ราคาดีงามมาก