Mie: เที่ยวทั่วจังหวัดมิเอะ ด้วยพาสรถไฟ Kintetsu Rail Pass ปิดท้ายทริปที่โอซาก้า

จากตอนที่แล้ว ที่เราบินมาลงที่ ท่าอากาศยานนานาชาติชูบุเซ็นแทร์ (Chubu Centrair International Airport) และใช้พาสรถไฟ Kintetsu Rail Pass เที่ยว 5 เมืองสำคัญในจังหวัดมิเอะ (Mie) แนะนำสถานที่เที่ยวกันไปครึ่งทางแล้ว มาชมกันต่อในตอนนี้ครับ และอย่างที่บอกว่าเราสามารถเที่ยวเส้นทางนี้จากทางฝั่ง สนามบินคันไซ ก็ได้เช่นกัน ช่วงท้ายจึงมีสถานที่เที่ยวใหม่ๆในโอซาก้ามาฝากกันด้วย

Kintetsu Rail Pass เป็นพาสรถไฟที่ใช้โดยสารรถไฟ Kintetsu Railway ได้อย่างไม่จำกัด ไม่ว่าจะเดินทางไป  Osaka / Nara / Kyoto / Ise-Shima / Nagoya ตั๋วเดินทางนี้ สามารถใช้ขึ้นลงรถไฟฟ้าในพื้นที่ให้บริการของรถไฟฟ้าสายคินเท็ตสึ, รถไฟสายอิกะ, รถบัสนาราโคซึ (Nara Kotsu Bus), รถบัสมิเอะโคซึ (Mie Kotsu Bus) และรถบัสโทบะชิคาโมเมะ (Toba Shikamome Bus) รวมถึงสิทธิพิเศษจากสถานที่ท่องเที่ยวอีกมากมาย ได้อย่างไม่จำกัดเป็นเวลา 5 วัน

ดูข้อมูลเพิ่มเติมที่นี่ >> Kintetsu Rail Pass

ราคาสำหรับตั๋ว Kintetsu Rail Pass แบบใช้ได้ไม่จำกัดเป็นเวลา 5 วัน
<< ราคาจำหน่ายภายนอกประเทศญี่ปุ่น >> ผู้ใหญ่ 4,900 เยน และเด็ก 2,450 เยน
<< ราคาจำหน่ายภายในประเทศญี่ปุ่น >> ผู้ใหญ่ 5,100 เยน และเด็ก 2,550 เยน
**หมายเหตุ ผู้ใหญ่: อายุ 12 ปีขึ้นไป / เด็ก: อายุ 6 ปีขึ้นไปแต่ไม่ถึง 12 ปี เด็กอายุต่ำกว่า 6 ปี ไม่เสียค่าใช้จ่าย


แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดมิเอะ ที่ใช้ Kintetsu Rail Pass เที่ยวได้

11. หินแต่งงาน Meoto – Iwa

หินแต่งงาน Meoto-Iwa หินศักดิ์สิทธิ์ 2 ลูกที่ตั้งอยู่ในทะเล เขต Futami เมืองเล็กๆในจังหวัดมิเอะ หินก้อนใหญ่เปรียบเสมือนสามี และหินก้อนเล็กนั้นเปรียบเป็นภรรยา ที่ครองคู่กัน มีเชือก Shimenawa คล้องอยู่ โดยจะมีประเพณีในการเปลี่ยนเชือกเส้นนี้ปีละ 3 ครั้ง เป็นสถานที่ที่คนนิยมเดินทางมาขอพรเรื่องคู่ครอง และเรื่องแต่งงานกัน ช่วงเวลาที่แนะนำให้เดินทางมาชมคือช่วงน้ำขึ้น ที่ได้เห็นหินทั้งสองถูกแยกด้วยน้ำทะเล ในฤดูร้อนจะได้เห็นภาพของพระอาทิตย์ขึ้นระหว่างหินทั้ง 2 ลูก ซึ่งถ้าเป็นวันที่ท้องฟ้าโปร่ง จะสามารถมองเห็นเงาภูเขาฟูจิได้ในระยะไกลด้วย

หินแต่งงาน Meoto Iwa ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมที่นักเดินทางต่างมาขอพรให้สมหวังเรื่องความรัก และเป็นจุดชมวิวยามเช้าที่พระอาทิตย์จะขึ้นตรงกลางระหว่างหินทั้งสอง และในยามค่ำคืน ก็จะเป็นสถานที่ชมพระจันทร์ที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น

ในบริเวณเดียวกันยังเป็นที่ตั้งของศาลเจ้า Futami-Okitama จะพบเห็นรูปปั้นกบกระจายอยู่หลายแห่ง เพราะเชื่อกันว่ากบจะนำพาให้คนกลับมา (กบในภาษาญี่ปุ่นอ่านว่า Kaeru ซึ่งพ้องเสียงกับคำว่า กลับ)

ข้อมูลเพิ่มเติม

  • เวลาทำการ : เปิดตลอดทั้งวัน ทุกวัน
  • การเดินทาง : จากสถานี Nagoya ด้วยรถไฟ Kintetsu nagoya Express ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที

12. กระท่อมอามะ Ama Hut Satomian

เรียนรู้วิถีชีวิตของเหล่า อามะจัง (Amachan) หรือหญิงสาวแห่งท้องทะเล ผู้ประกอบอาชีพประมงแบบโบราณของญี่ปุ่นมีมากว่าเป็นพันปี ผ่านพิพิธภัณฑ์กระท่อม Ama Hut Satoumian พร้อมทานอาหารทะเลสดๆ ที่จับโดยเหล่าอามะจัง แห่งเมืองชิมะ ในจังหวัดมิเอะ

Ama Hut Satoumian ดัดแปลงมาจากกระท่อมที่เหล่าอามะจัง ใช้เป็นที่พักผ่อน ผิงไฟเพื่อใฟ้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย หลังจากงมของทะเลเสร็จแล้ว จึงใช้กระท่อมแห่งนี้เพื่อรับรองนักท่องเที่ยว ด้วยการเสริฟมื้ออาหารทะเลสดๆ ไม่ว่าจะเป็น กุ้งมังกรอิเสะสดๆ หอยเชลล์ตัวใหญ่ หอยซาซาเอะ ปลาหมึก ปลาหวาน

ข้อมูลเพิ่มเติม

  • เวลาทำการ : 11.00 – 20.00 น. (รับเฉพาะการจองล่วงหน้าเท่านั้น รับรองแขกได้สูงสุด 77 ท่าน)
  • หมายเลขโทรศัพท์ : +81-599-85-1212
  • วันหยุด : วันที่ 29 ธันวาคม ถึง 3 มกราคม
  • ค่าใช้จ่าย : คอร์สมาตรฐาน ตั้งแต่ 3 ท่านขึ้นไป ราคาท่านละ 3850 เยน / 2 ท่าน ราคาท่านละ 4950 เยน
  • การเดินทาง : จากสถานีรถไฟ Utaga สายรถไฟ Kintetsu โดยสารรถประจำทางหรือแท็กซี่ ใช้เวลาประมาณ 30 นาที
  • เว็บไซต์

13. ประภาคาร Daiosaki Lighthouse

ประภาคารไดโอซะกิ (Daiosaki Lighthouse) ตั้งอยู่ที่เมืองชิมะ เป็นประภาคารสีขาวตั้งอยู่บนเนินเขาริมทะเล สร้างขึ้นเมื่อปีค.ศ. 1927 มีความสูงถึง 22.5 เมตร ที่นี่นับเป็นอีกหนึ่งจุดชมวิวมุมสูง ที่เปิดให้นักท่องเที่ยวได้ขึ้นไปบนยอดของประภาคาร เพื่อชมทัศนียภาพของเมืองและมหาสมุทรแปซิฟิกได้เต็มตาแบบ 360 องศา

บริเวณไม่ไกลกันเป็นที่ตั้งของจุดชมวิว Kirigaki ที่สามารถมองเห็นทัศนียภาพสวยๆของอ่าวอะโก

ข้อมูลเพิ่มเติม

  • เวลาทำการ : 09.00 – 16.00 น. เปิดทุกวัน
  • ค่าเข้าชม : 200 เยน
  • การเดินทาง : จากสถานีรถไฟ Kintetsu – Utaga โดยสารรถบัสประจำทาง มาลงที่จุดจอด Daiouzaki จากนั้นเดินต่อมายัง ประภาคาร Daiosaki Lighthouse ใช้เวลาประมาณ 10 นาที
  • เว็บไซต์

14. โรงแรม Miyako Resort Shima Bayside Terrace

ที่พักในเครือ Miyako Hotels & Resorts รีสอร์ทขนาดใหญ่ให้บริการห้องพักหลากชนิดให้เลือกได้ตามความต้องการถึง 108 ห้อง ผู้เข้าพักจะได้ดื่มด่ำไปกับความสวยงามของทัศนียภาพของอ่าวอะโก

ตัวรีสอร์ทตกแต่งในสไตล์เมืองทางยุโรปตอนใต้ ให้บริการเพียบพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน

ภายในโรงแรมเพียบพร้อมไปด้วยอินเตอร์เนทไร้สาย Wi-Fi ทุกห้อง แผนกต้อนรับ 24 ชั่วโมง ที่จอดรถ ร้านอาหารญี่ปุ่นและสไตล์ตะวันตก ที่พักมีสิ่งอำนวยความสะดวกทางนันทนาการหลากหลายไว้คอยให้บริการ เช่น ห้องฟิตเนส, ซาวน่า, อ่างอาบน้ำร้อน, สนามเทนนิส สระว่ายน้ำกลางแจ้ง

ตัวห้องอาบน้ำและห้องสุขาแยกส่วนกัน

เซท Amenity ของโรงแรมแห่งนี้ใช้ผลิตภัณฑ์ของมิกิโมโต้อีกด้วย

ข้อมูลเพิ่มเติม

  • ที่อยู่ : 3618-33, Ugata, Ago-cho, Shima City, Mie 517-0501
  • โทรศัพท์ : +81-599-43-7211
  • การเดินทาง : จากสถานี Kashikojima โดยสารรถ Shuttle Bus ลงที่ป้าย Miyako Shima Bayside Terrace ใช้เวลาประมาณ 7 นาที
  • เว็บไซต์

15. รถไฟด่วน Kintetsu Premium Express Shimakaze

โดยสารรถด่วนพิเศษเพื่อการท่องเที่ยว “ชิมะคะเซะ” ที่จะพาคุณเดินทางระหว่างสถานี Osaka Namba – สถานี Kyoto / สถานี Kintetsu Nagoya วิ่งตรงไปยังสถานี Ise-Shima ไป-กลับ 1 เที่ยวต่อวัน

ด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน อาทิเช่น ที่นั่งแบบเบาะ Premium Seat ที่นั่งเบาะหนังแท้ที่ถูกออกแบบมาเพื่อให้ความสะดวกสบาย ที่จะเพิ่มความสะดวกสบายแบบเต็มที่ ด้วยที่นั่งติดตั้งที่วางขาระบบไฟฟ้าและเบาะนวดระบบการผ่อนคลาย พร้อมเต้าเสียบชาร์จไฟและไฟอ่านหนังสือ โดยที่นั่งทุกที่ภายในขบวนรถเป็นที่นั่งแบบต้องสำรองล่วงหน้า

ที่นั่งแบบ Salon Seat เหมาะสำหรับผู้ที่มากันเป็นหมู่คณะ – ที่นั่งแบบชุมนุมสังสรรค์ที่มีโต๊ะขนาดใหญ่อยู่ตรงกลาง เพิ่มความเพลิดเพลินไปกับการเดินทางแบบหมู่คณะ ตั้งแต่ 4-6 คน

ที่นั่งแบบห้องส่วนตัวสไตล์ญี่ปุ่น เหมาะสำหรับผู้ที่มากันเป็นหมู่คณะ – ห้องส่วนตัวสไตล์ญี่ปุ่นที่ท่านสามารถ ถอดรองเท้าและผ่อนคลายได้ตามอัธยาศัย

ที่นั่งแบบห้องส่วนตัวสไตล์ตะวันตก เหมาะสำหรับผู้ที่มากันเป็นหมู่คณะ – ห้องส่วนตัวสไตล์ตะวันตกที่มีโต๊ะและโซฟารูปตัว L ให้ท่านได้ใช้เวลาพักผ่อนอย่างสุดสบาย

นอกจากนี้บนขบวนรถ Kintetsu Premium Express Shimakaze ยังอำนวยความสะดวกด้วยตู้เสบียง ไม่ต้องกลัวว่าจะหิว ไม่ว่าจะเป็น อาหาร เครื่องดื่มหรือจะเป็นขนมเค้ก และของฝากที่ระลึก

ที่นั่งแบบขบวนรถคาเฟ่ บริเวณที่ชั้น 1 และ 2 ท่านสามารถเพลิดเพลินกับการชมทิวทัศน์นอกหน้าต่างที่ค่อยๆเลื่อนผ่านไป พร้อมกับรับประทานอาหารว่างที่เป็นของขึ้นชื่อตามแนวเส้นทางที่รถไฟวิ่งผ่าน

ที่นั่งแบบขบวนรถคาเฟ่ ที่ชั้น 2

ห้องน้ำอเนกประสงค์สำหรับผู้ใช้รถเข็นโดยเฉพาะ นอกจากนี้ ยังมีการติดตั้งราวจับในบริเวณต่างๆภายในรถไฟ และมีการแสดงข้อมูลโดยใช้อักษรเบรลล์กับบล็อกทางเดินสำหรับผู้พิการทางสายตาด้วย และห้องพาวเดอร์รูมสำหรับแต่งหน้า แต่งตัว

พิเศษด้วยล็อคเกอร์สำหรับเก็บภาระขนาดใหญ่ ให้คุณรู้สึกปลอดภัยไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับสัมภาระ

สามารถสำรองที่นั่งล่วงหน้าได้จากเว็บไซต์ >> Kintetsu Shimakaze


16. รถบัสเปิดหลังคาชมเมือง Osaka Sky Vista

อีกหนึ่งวิธีชมเมืองโอซาก้าแบบสบายๆ ด้วยบริการรถบัสนำเที่ยวแบบพิเศษสุดๆ ที่นักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินกับการชมเทศกาลประดับแสงไฟฤดูหนาวแบบใกล้ชิด โดยใช้รถบัสเปิดประทุนยอดนิยม OSAKA SKY VISTA ชมทิวทัศน์รอบข้างแบบพาโนรามา 360 องศา ไกด์นำเที่ยวบนรถบัสจะคอยอธิบายและนำท่านไปชมไฮไลท์ของงานแสดงไฟ Midosuji Illumination รวมไปจุดสำคัญต่างๆของเมืองโอซาก้า อาทิ Osaka Sky Building, Osaka Castle, Osaka City Hall รวมไปถึงทัศนียภาพของเมืองใหญ่ในยามค่ำคืน

ข้อมูลเพิ่มเติม

  • เวลาทำการ : ให้บริการ 4 เที่ยว ใช้เวลาประมาณรอบละ 45 นาที รอบเวลาที่ให้บริการ 17.10 น. / 18.20 น. / 19.20 น. / 20.20 น.
  • จุดขึ้นรถ : สถานี JR Osaka
  • ค่าใช้จ่าย : ผู้ใหญ่ 1500 เยน / เด็ก 1000 เยน
  • เว็บไซต์

17. พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ Nifrel และสวน Bampaku Kinen Koen

พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำรูปแบบใหม่ Nifrel ที่เพิ่งจะเปิดทำการได้ไม่นาน ตั้งอยู่ภายในบริเวณ Osaka EXPOCITY ที่นี่เป็นผลงานสร้างสรรค์โดยทีมงานผู้อยู่เบื้องหลังการดูแล พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำชื่อดังในโอซาก้าอย่าง Kaiyukan Aquarium

พิพิธภัณท์แห่งนี้สร้างสรรค์ขึ้นมาภายใต้คอนเซ็ปต์ พิพิธภัณท์ที่มีชีวิต “Touching the sensitivity” (สัมผัสกับความสัมผัส) ดีไซน์เพื่อความสนุกสนานและเข้าถึงกับสัตว์ต่างๆเเละธรรมชาติอย่างใกล้ชิด เสมือนกับสัมผัสศิลปะ เสริมสร้างจิตใจและความรับรู้ของเด็กเเละผู้ใหญ่ในเเต่ละส่วน ไม่ว่าจะเป็นเเสงหรือเสียงเพลงและรูปภาพ โดยแบ่งการแสดงออกเป็น 7 โซน “สี” “เทคนิค” “รูปร่าง” “ช่วงเวลาระทึกใจ” “ริมน้ำ” “การเคลื่อนไหว” และ “การเชื่อมต่อ”

ภายในพิพิธภัณฑ์ยังมีโซนร้านอาหารน่ารัก EAT EAT EAT Restaurant

อีกหนึ่งอย่างที่อยากให้ลองคือ น้ำที่สามารถตักทานได้ ทำขึ้นในรูปแบบของเจลลี่ โดยที่นี่เป็นที่แรกที่พัฒนาขึ้น

บริเวณใกล้ๆกันยังเป็นที่ตั้งของสวน Banpaku-kinen-koen ตั้งอยู่ภายใน Expo Park หรือ สวน Banpaku เป็นพื้นที่สาธารณะที่เปิดให้ชาวเมืองได้มาพักผ่อนตามอัธยาศัย พื้นที่กว้างขวางของที่นี่สามารถทำกิจกรรมได้มากมาย ทั้งเล่นกีฬา ตั้งแคมป์ ปิกนิก

ข้อมูลเพิ่มเติม

  • เวลาทำการ: 10.00 – 20.00 น. (เข้าได้จนถึง 1 ชั่วโมงก่อนเวลาปิดทำการ, อาจเปลี่ยนแปลงเวลาทำการตามฤดูกาล)
  • วันหยุด: ไม่มีวันหยุด แต่จะมีหยุดชั่วคราวเพื่อตรวจเช็คอุปกรณ์ 1 ครั้งต่อปี
  • ค่าเข้าชม: ผู้ใหญ่ (เด็กมัธยมปลาย อายุ 16 ขึ้นไป) ราคา 1,900 เยน, เด็กประถมและมัธยมต้น ราคา 1000 เยน, เด็กเล็ก (อายุ 3 ปีขึ้นไป) 600 เยน
  • การเดินทาง : จากสถานี Banpaku-kinen-koen Sta. บนสาย Osaka Monorail เดินประมาณ 2 นาที
  • เว็บไซต์

18. ห้างสรรพสินค้า Kintetsu Abeno Harukas Department Store และจุดชมวิว Harukas 300 Observatory Deck

ห้างสรรพสินค้า Abeno Harukas ตั้งอยู่ภายในตึก Kintetsu Abeno Harukas ตึกที่สูงที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศญี่ปุ่น เปิดทำการเมื่อฤดูใบไม้ผลิ ในปี ค.ศ. 2014 ตั้งอยู่ในย่านเทนโนจิ ย่านการค้าชื่อดังตัวห้างสรรพสินค้ามีทั้งหมด 16 ชั้น,โรงแรม Marriott Osaka Miyako, อาคารสำนักงาน

ภายในห้างสรรพสินค้า Kintetsu Abeno Harukas Department Store มีร้านค้าชื่อดังมากมายเปิดเรียงราย ทั้งแบรนด์อันดับต้นๆของโลก นอกจากนี้ยังรวบรวมร้านอาหารมากถึง 44 ร้าน รวมถึงยังให้บริการฟรี Wi-Fi ภายในอาคารอีกด้วย

โซนพื้นที่บริเวณสวนเทนโนจิ ที่เพิ่งได้รับการรีโนเวทใหม่ให้เป็นพื้นที่ของลานกิจกรรม ร้านค้า ร้านสะดวกซื้อ ร้านอาหาร สวนสัตว์ ในช่วงหน้าหนาวยังมีลานไอซ์เสก็ตอีกด้วย

เดินเข้ามาบริเวณด้านในตัวห้างสรรพสินค้า

ด้านล่างของห้างจะเป็นโซนร้านอาหารและร้านขนมหน้าตาน่ารับประทานมากมาย

ขึ้นมาด้านบนจะเป็นโซนร้านค้า

จุดให้บริการช่วยเหลือนักท่องเที่ยวต่างชาติ นักท่องเที่ยวสามารถมาขอยกเว้นภาษีได้ที่นี่

บริเวณด้านบนสุดของตึกเป็นที่ตั้งของหอชมวิว Harukas Observation Deck 300 บนชั้น 60 ที่ความสูง 300 เมตร ที่สามารถขึ้นไปชมวิวโอซาก้าได้สูงที่สุดอีกด้วย

วิธีการขึ้นไปชมวิวที่ Harukas 300 สามารถทำการซื้อตั๋วที่ด้านล่างชั้น 2 หรือขึ้นลิฟท์ไปที่ชั้น 16 ก็ได้เช่นกัน จากนั้นต่อลิฟท์อีกตัวไปที่ชั้น 60 หลังจากชมวิวเสร็จสามารถลงมาที่ซื้อของที่ระลึกได้ที่ Shop Harukas 300 ชั้น 59 และ เดินชมสวนลอยฟ้ากับหาอะไรทานได้ที่ Sky Garden ชั้น 58 ข้อมูลเพิ่มเติม

  • เวลาทำการ : เปิดตั้งแต่เวลา 9.00 – 22.00 น. เปิดทุกวัน
  • ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 1,500 เยน (เด็ก 12-17 ปี 1,200 เยน / เด็ก 6-11 ปี 700 เยน / เด็ก 4 ขวบขึ้นไป 500 เยน) สามารถซื้อตั๋วล่วงหน้าได้ที่ชั้น 2 และ 16 / Family Mart/ จุดจำหน่ายตั๋วในสถานีรถไฟของ Kintetsu
  • การเดินทาง : สถานีรถไฟ Kintetsu Abenobashi
  • เว็บไซต์

นักท่องเที่ยวยังสามารถขึ้นมาชมจุดชมวิวพิเศษบริเวณลานจอดเฮลิคอปเตอร์ได้อีกด้วย โดยเสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม 1500 เยน

ช่วงฤดูหนาวยังให้บริการโต้ะโคทัสสึสำหรับนั่งรับประทานอาหารพร้อมชมวิวสวยๆไปด้วย

ร้านขายของที่ระลึก เต็มไปด้วยของฝากน่ารักมากมาย

ออกมาสูดอากาศด้านนอกบริเวณสวนของชั้น 16

ลงมาจากชั้น 16 เป็นโซนร้านอาหารมากมายให้เลือกตามใจชอบ

ข้อมูลเพิ่มเติม

  • เวลาทำการ : ชั้น B2 – ชั้น 3-5 เปิดเวลา 10.00 – 20.30 น. / ชั้น 12, 13, 14 และโซนร้านอาหาร Abeno Harukasu Dining เปิดเวลา 11.00 – 23.00 น. / ศูนย์อาหาร Abeno Ichiba Shokudo ชั้น B2 เปิดบริการ 10.00 – 22.00 น.
  • การเดินทาง : สถานีรถไฟ Kintetsu Abenobashi
  • เว็บไซต์

19. โรงแรม Sheraton Miyako Hotel Osaka

โรงแรม Sheraton Miyako Hotel Osaka เป็นโรงแรม 5 ดาวในราคาที่เอื้อมถึง ตั้งอยู่ใจกลางเมืองโอซาก้า ติดกับสถานีรถไฟ Osaka-Uehonmachi และห้างสรรพสินค้า Kintetsu

เดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆได้สะดวก ไม่ว่าจะเป็น ปราสาทโอซาก้า, ตึกอาเบโนะฮารุคัส, ย่านโดทงโบริและนัมบะ และยังเป็นจุดเชื่อมต่อเข้ากับสถานีรถไฟ Osaka-Uehonmachi ของ Kintetsu อีกด้วย โดยสามารถใช้ Kintetsu Rail Pass เดินทางท่องเที่ยวไปทั่วคันไซ ไม่ว่าจะเป็น เกียวโต, นารา รวมถึง อิเซะ และ นาโงยะ ได้จากสถานีนี้

โรงแรม Sheraton Miyako Hotel Osaka เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 2009 มีห้องพักให้เลือกหลายแบบ ที่สามารถเข้าพักได้ตั้งแต่ 1-4 คน ในราคาเริ่มต้นเพียง 10,000 เยน สำหรับห้องพักเดี่ยว และ 13,000 เยน สำหรับห้องพัก 2 คน

บริเวณรอบๆที่พัก
– มีทางเชื่อมระหว่างสถานีรถไฟ Osaka Uehonmachi สาย Kintetsu มาถึงยังที่พัก
 สามารถเดินจากรถไฟใต้ดินสถานี Tanimachi 9-Chome ได้เพียง 5 นาที
 มีร้านค้าสะดวกซื้อใกล้ที่พักเพียงเดินประมาณ 1 นาที
 ใกล้ห้างสรรพสินค้า Kintetsu และ Uehonmachi YUFURA

แนะนำเรื่องการเดินทาง
 สามารถนั่งรถลีมูซีนบัสจากสนามบินนานาชาติคันไซหรือสนามบินโอซาก้า (ในประเทศ) เพื่อมายังที่พักได้โดยตรง
 เนื่องจากที่พักมีทางเชื่อมต่อกับสถานีรถไฟ จึงสะดวกแม้ในวันที่ฝนตก

การเดินทางมายังที่พักนั้นสะดวกไม่ต้องเป็นกังวลเรื่องเส้นทางหรือกังวลเรื่องการหลงทาง และบริการพิเศษรถรับส่งระหว่าง ตึก Abeno Harukas (ย่าน Tennoji) และ สถานี Uehonmachi (รับส่งด้านหน้าโรงแรม Sheraton Miyako Osaka) ในราคาเพียง 100 เยนต่อเที่ยว

เพิ่มระดับความหรูหราและสะดวกสบาย ด้วยห้องประเภท Premium Suite with Executive Lounge Access

สำหรับห้องพักในครั้งนี้ที่เราเข้าพักจะเป็นห้องแบบ Double Room กว้างขวาง พักผ่อนได้อย่างสบาย

อุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน และมีพื้นที่เพียงพอสำหรับวางกระเป่าเดินทางใบใหญ่ มีห้องน้ำในตัว และเครื่องอาบน้ำแบบครบชุดจาก Sheraton

ห้องอาหารสไตล์ญี่ปุ่น Uemachi

ข้อมูลเพิ่มเติม

  • ที่อยู่ : 6-1-55 Uehonmachi, Tennoji-ku, Osaka, 543-0001
  • หมายเลขโทรศัพท์ : 06-6773-1111
  • การเดินทาง : จากสถานี Osaka Uehommachi บนสาย Kintetsu เดิน 1 นาที
  • เว็บไซต์
ChubuFeaturedIse-shimaKansaiKintetsuKintetsu Rail PassMie PrefectureNagoyaจังหวัดมิเอะจูบุชูบุพาสรถไฟคินเทตสึภูมิภาคคันไซรถไฟญี่ปุ่นอิเสะชิมะเที่ยวญี่ปุ่นเที่ยวญี่ปุ่นดอทคอม​เที่ยวญี่ปุ่นตัวเอง