Mie: เที่ยวทั่วจังหวัดมิเอะ จากนาโงยะ ด้วยพาสรถไฟ Kintetsu Rail Pass ตอนที่ 1

นอกจากภูมิภาคคันไซแล้ว ภูมิภาคชูบุ ตอนกลางของญี่ปุ่น ก็เป็นอีกหนึ่งจุดหมายที่นักท่องเที่ยวชาวไทยให้ความสนใจนิยมเดินทางกันมากมาย เราสามารถใช้พาสรถไฟ Kintetsu Rail Pass ใช้เที่ยว 5 เมืองสำคัญในสองภูมิภาค คือ โอซาก้า เกียวโต นาระ มิเอะ และนาโงยะ

การเดินทางในครั้งนี้ เราบินมาลงที่ ท่าอากาศยานนานาชาติชูบุเซ็นแทร์ (Chubu Centrair International Airport) และจะเน้นไปที่ จังหวัดมิเอะ (Mie) มุกเม็ดงามที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางจังหวัดใหญ่ รวมสิ่งที่เป็นที่สุดของญี่ปุ่นเอาไว้มากมาย เหมาะสำหรับคนที่ต้องการจะไปเปิดประสบการณ์ใหม่ในการเดินทางเยือนญี่ปุ่นครั้งต่อไป

Kintetsu Rail Pass เป็นพาสรถไฟที่ใช้โดยสารรถไฟ Kintetsu Railway ได้อย่างไม่จำกัด ไม่ว่าจะเดินทางไป  Osaka / Nara / Kyoto / Ise-Shima / Nagoya ตั๋วเดินทางนี้ สามารถใช้ขึ้นลงรถไฟฟ้าในพื้นที่ให้บริการของรถไฟฟ้าสายคินเท็ตสึ, รถไฟสายอิกะ, รถบัสนาราโคซึ (Nara Kotsu Bus), รถบัสมิเอะโคซึ (Mie Kotsu Bus) และรถบัสโทบะชิคาโมเมะ (Toba Shikamome Bus) รวมถึงสิทธิพิเศษจากสถานที่ท่องเที่ยวอีกมากมาย ได้อย่างไม่จำกัดเป็นเวลา 5 วัน

ดูข้อมูลเพิ่มเติมที่นี่ >> Kintetsu Rail Pass

ราคาสำหรับตั๋ว Kintetsu Rail Pass แบบใช้ได้ไม่จำกัดเป็นเวลา 5 วัน
<< ราคาจำหน่ายภายนอกประเทศญี่ปุ่น >> ผู้ใหญ่ 4,900 เยน และเด็ก 2,450 เยน
<< ราคาจำหน่ายภายในประเทศญี่ปุ่น >> ผู้ใหญ่ 5,100 เยน และเด็ก 2,550 เยน
**หมายเหตุ ผู้ใหญ่: อายุ 12 ปีขึ้นไป / เด็ก: อายุ 6 ปีขึ้นไปแต่ไม่ถึง 12 ปี เด็กอายุต่ำกว่า 6 ปี ไม่เสียค่าใช้จ่าย


แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดมิเอะ ที่ใช้ Kintetsu Rail Pass เที่ยวได้

1. เรือสำราญ Kashikojima Espana Cruise

เรือสำราญ Kashikojima Espana Cruise เป็นเรือสำราญขนาดใหญ่ 3 ชั้น สร้างเลียนแบบเรือคาร์แร็ค (Carrack) ย้อนไปในยุคแห่งการสำรวจทางทะเลล่าอาณานิคมของสเปน รองรับผู้โดยสารได้ถึง 250 คน ใช้เวลาประมาณ 50 นาที ในการล่องชมทัศนียภาพสวยๆของอ่าว Ago

โดยสารรถไฟมาลงที่สถานี Kintetsu – Kashikojima สามารถซื้อตั๋วขึ้นเรือได้จากร้านสะดวกซื้อภายในสถานีรถไฟได้เลย หลังจากซื้อตั๋วเรียบร้อยก็เดินลงมาจากสถานีตามป้ายหรือจะมาซื้อตั๋วที่ออฟฟิศก็ได้

ภายในเรือมีโซนคาเฟ่ ห้องรับรองพิเศษ สามารถซื้อเครื่องดื่มบนเรือได้

ขึ้นมาชมวิวบนดาดฟ้าเรือ

ระหว่างทางเรือจะจอดให้ลงไปชมการเพาะเลี้ยงหอยมุก

ข้อมูลเพิ่มเติม

  • เวลาทำการ : 09:30 – 16:30 น. (เรือออกทุก 1 ชั่วโมง) / ใช้เวลาประมาณ 50 นาที
เรือเที่ยว 12:30 น. จะให้บริการเดินเรือเฉพาะในวันเสาร์อาทิตย์ วันหยุดราชการ และในวันที่มีผู้โดยสารจำนวนมากเท่านั้น
เรือเที่ยว 16:30 น. จะให้บริการเดินเรือเฉพาะระหว่างวันที่ 21 มีนาคม – 31 ตุลาคมเท่านั้น
  • วันหยุด : หยุดให้บริการเดินเรือเป็นเวลาประมาณ 2 สัปดาห์ในช่วงเดือนมกราคม – กุมภาพันธ์ของทุกปี เพื่อทำการตรวจเช็คสภาพเรือ Esperanza
  • ค่าใช้จ่าย : ผู้ใหญ่ (มัธยมต้นขึ้นไป) 1,600 เยน / เด็ก (ประถม) 800 เยน
  • วิธีการเดินทาง : จากสถานี Namba โดยสารรถไฟ Kintetsu Premium Express Shimakaze ลงที่สถานี Kashikojima ใช้เวลา 2 ชั่วโมง 22 นาที จากนั้นเดิน 3 นาที
  • เว็บไซต์

2. จุดชมวิวโยโคยะมะ (Yokoyama)

จุดชมวิวโยโคยะมะ (Yokoyama) ตั้งอยู่ในบริเวณอุทยานแห่งชาติอิเสะ-ชิมะ จิบกาแฟชมวิวมุมสูงล้อมรอบด้วยอ่าว Ago และมหาสมุทรแปซิฟิกบนภูเขาที่ระดับความสูง 203 เมตร จากมุมสูงได้ โดยชื่ออิเสะ-ชิมะ (Ise-Shima) ไม่ได้หมายความรวมกันว่าเกาะอิเซะ เป็นชื่อเรียกของ 2 ส่วนในจังหวัดมิเอะ คือ อิเสะ (Ise) และ ชิมะ (Shima) และเป็นที่รู้จักมากขึ้น เมื่อมีการจัดงานประชุดสุดยอดผู้นำ G7 Ise-Shima Summit เมื่อเดือนเมษายน ปีค.ศ. 2016 ที่ผ่านมานี้เอง

บริเวณอุทยานแห่งชาติอิเสะชิมะ (Ise-Shima National Park) ค่อนข้างกว้าง การเดินให้ทั่วทั้งอุทยาน ต้องใช้เวลาเป็นวัน แต่ถ้าจะขึ้นไปชมวิว ใช้เวลาเดินแค่ 10-15 นาทีก็จะถึงจุดชมวิวแล้ว เเละเนื่องจากเป็นการเดินขึ้นเนินเขา ทำให้ต้องออกแรงเล็กน้อย สำหรับใครที่เช่ารถหรือนั่งแท้กซี่มา สามารถขึ้นไปจอดด้านบนบริเวณจุดชมวิวได้เลย

ทัศนียภาพล้อมรอบด้วย อ่าวอะโกะ (Ago Bay) อยู่ทางตอนใต้ ติดกับมหาสมุทรแปซิฟิกทางทิศตะวันออก และแนวภูเขาคิอิทางทิศตะวันตก สามารถชมทัศนียภาพโดยรอบของอ่าวอะโกะได้จากจุดชมวิวแห่งนี้

เดินขึ้นมาเหนื่อยๆสามารถมานั่งจิบกาแฟ ชมวิวสวยๆที่คาเฟ่ด้านบนจุดชมวิว

ข้อมูลเพิ่มเติม

  • เวลาทำการ : 09.00 น. – 16.30 น.
  • วันหยุด : ศูนย์ให้บริการข้อมูลนักท่องเที่ยว Yokoyama Visitor Center ปิดทุกวันอังคารและวันที่ 1 มกราคม
  • ค่าใช้จ่าย : ไม่มีค่าเข้าชม
  • วิธีการเดินทาง : แนะนำให้เช่ารถขับจะสะดวกกว่าการเดินทางด้วยรถไฟ โดยใช้บริการทางด่วนสายอิเสะ (Ise Expressway) จากนั้นแยกมาตามทางแยก อิเสะ-นิชิ (Ise-Nishi Interchange) มีที่จอดรถให้บริการฟรี สำหรับใครที่ไม่สะดวกเช่ารถขับสามารถเดินทางมาได้อีกหนึ่งวิธีคือ จากสถานีรถไฟชิมะ – โยะโกะยะมะ (Shima-Yokoyama) ของรถไฟสายคินเท็ตสึ (Kintetsu Line) ใช้เวลาเดินเท้าประมาณ 45 นาที
  • เว็บไซต์

3. ร้านเทมปุระ Tobari Tempura

ร้านเทมปุระ Tobari Tempura 天ぷらとばり ชื่อดังที่เสริฟในสไตล์โอมากาเสะ ของเชฟมิชลิน 1 ดาว  ตั้งอยู่ไม่ไกลจากจุดชมวิวโยโคยะมะ (Yokoyama) เชฟ Tobari และภรรยาตั้งใจทำอย่างพิถีพิถันด้วยการใช้วัตถุดิบท้องถิ่นชั้นดี ที่ได้จากแหล่งต่างๆทั่วจังหวัดมิเอะ โดยเฉพาะอาหารทะเล ทั้งคอร์สมีทั้ง 13 อย่าง คัดสรรตามแต่ละฤดูกาล ทอดด้วยน้ำมันจากเมล็ดฝ้าย โดยที่ในแต่ละช่วงปี เมนูจะไม่ซ้ำกัน การันตีความอร่อยจนได้รับรางวัลมิชลิน 1 ดาว

โดยเซทอาหารที่เราทานวันนี้จะเป็นคอร์ส เซทกลางวัน 5000 เยน ส่วนเซตมื้อค่ำราคา 8000 เยนชึ้นไปต่อท่าน

Starter: เป็นเนื้อลูกพลับ ถั่วอัลมอนด์ ซูกินี่ เห็ดคลุกกับน้ำมันงา

Main course: สลัดผัก / หัวกุ้งทอด / กุ้งคุรุมะ เอบิ พันด้วยใบโอบะ / เม็ดแปะก้วย / ไข่ปลาชิราโกะห่อด้วยใบโอบะทอด / เห็ดหอมอาวะบิ ชิตาเกะ / ปลาคินเมะได / เนื้อหอยมุก อะโกยะไก / ต้นหอม ชิโมะนิตะ เนงิ / ไข่หอยเม่นวางบนใบชิโอะทอด ราดด้วยน้ำมันเห็ดทรัพเฟิล / ข้าวหน้าปลาไหลเทมปุระ อะนะโกะ เทนด้ง เสริฟพร้อมผักดองและซุปมิโซะแดง / วาราบิโมจิ คลุกด้วยผงถั่วฮินาโกะ ราดด้วยซอสชาเขียว

นอกจากเป็นคอร์สโอมากาเสะแล้ว ที่ร้านยังเสริฟมื้อกลางวันเป็นข้าวหน้าเทมปุระอีกด้วยสนนราคาเพียง 1,500 เยนเท่านั้น แนะนำว่าก่อนมาทานที่ร้านให้จองคิวมาก่อน เนื่องจากทางร้านมีที่นั่งจำกัด

ข้อมูลเพิ่มเติม

  • ที่อยู่ : 1091-1 Agocho Ugata, Shima, Mie 517-0501
  • หมายเลขโทรศัพท์ : 0599-77-3864
  • เวลาทำการ : 11.00 -16.00 น. และมื้อค่ำ 17.00 – 22.00 น.
  • วันหยุด : ทุกวันอังคาร
  • สามารถสำรองที่นั่งได้ทาง : Facebook Tempra Tobari
  • เว็บไซต์

4. ศาลเจ้าอิเสะ (Ise Jingu)

อีกหนึ่งกิจกรรมที่ห้ามพลาดเมื่อมาเยือนเมืองอิเสะ คือการไปสักการะ ศาลเจ้าอิเสะ (Ise Jingu) ศาลเจ้าชินโตที่ถือว่ามีความสำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น โดยชาวญี่ปุ่นมีความเชื่อว่า “สักครั้งหนึ่งในชีวิตต้องมาสักการะที่ศาลเจ้าแห่งนี้ให้ได้”

อิเสะ (Ise) ตั้งอยู่ในจังหวัดมิเอะ (Mie) มีชื่อเรียกเดิมว่า อุจิยะมะดะ (Ujiyamada) เป็นเมืองเล็กที่เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์และเป็นเมืองศักดิ์สิทธิ์ที่มีความสำคัญทางศาสนา เนื่องจากเป็นที่ตั้งของศาลเจ้าหลักที่เป็นที่ยึดเหนี่ยวของชาวญี่ปุ่น และเป็นเมืองหลักในการเดินทางมาแสวงบุญของผู้เลื่อมใสในศาสนามาช้านาน และเดิมศาลเจ้าหลักทั้งสอง มีชื่อเรียกดังนี้ ศาลเจ้า คือ Uji ศาลเจ้านอก คือ Yamada จึงเป็นที่มาของชื่อเรียกเมืองนี้ในอดีตนั่นเอง

เมืองอิเสะ มีศาลเจ้าชินโตอยู่แห่งหนึ่งที่เลื่องชื่อด้านของความศักดิ์สิทธิ์ มีชื่อว่า ศาลเจ้าอิเสะ (Ise Shrine) ชาวญี่ปุ่นให้ความสำคัญกับศาลเจ้าแห่งนี้มาก ถึงขนาดเรียกด้วยคำว่า จิงงู (Jingu) ที่มีความหมายตรงตัวว่า ศาลเจ้า ใช้แทนชื่อเรียกศาลเจ้าอิเสะได้เลย ทุกปีจะมีชาวญี่ปุ่นเดินทางมาสักการะเพื่อความเป็นสิริมงคลมากถึง 7 ล้านคน

โดยศาลเจ้าอิเสะ แบ่งออกเป็น 2 ส่วนหลักคือ ศาลเจ้าใน เรียกว่า ไนคุ (Naiku) และศาลเจ้านอก เรียกว่า เกะคุ (Geku) มีประวัติอันยาวนานกว่า 2,000 ปี และเป็นศาลเจ้าชินโตที่มีความศักดิ์สิทธิ์ที่สุดในญี่ปุ่น

ศาลเจ้าใน (Naiku) มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า คะไทจิงงุ (Katai Jingu) สร้างขึ้นเมื่อราว 4 ปีก่อนคริสตศักราช เป็นที่สถิตของเทพสูงสุดของญี่ปุ่นคือ เทพแห่งดวงอาทิตย์ นามว่า อะมะเทระสุโอมิคะมิ (Amaterasu Omikami) เทพเจ้าที่คอยปกปักษ์คุ้มครองชาวญี่ปุ่นให้แคล้วคลาดปลอดภัยและร่มเย็น นับตั้งแต่อดีตกาล

จุดเด่นของศาลเจ้าแห่งนี้คือ สะพานไม้อุจิบะชิ (Uji-bashi) ข้ามแม่น้ำอิซุซู (Isuzu River) มีความยาว 100 เมตร  เป็นสะพานที่มีความสำคัญ เนื่องจากมีความเชื่อว่าเป็นทางเชื่อมระหว่างโลกมนุษย์และดินแดนศักดิ์สิทธิ์

บริเวณอุทยานด้านในเข้าสู่ตัวศาลเจ้า ใบไม้เปลี่ยนสียังคงชมได้อยู่ในช่วงปลายเดือนพ.ย.

เดินทางมาถึงศาลเจ้าหลักด้านใน เมื่อเดินขึ้นบันไดเพื่อเข้าสู่ที่ประดิษฐานของเทพเจ้าแล้ว ทางศาลเจ้าไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวถ่ายภาพด้านใน

ข้อมูลเพิ่มเติม

  • เวลาทำการ : 05.00 น. – 18.00 น. (ช่วงเดือน มี.ค.-เม.ย. และ ก.ย.-ต.ค.)
04.00 น. – 19.00 น. (ช่วงเดือน พ.ค.-ส.ค.)
05.00 น. – 17.00 น. (ช่วงเดือน พ.ย.-ธ.ค.)
 05.00 น. – 17.30 น. (ช่วงเดือน ม.ค.-ก.พ.)
  • วันหยุด : เปิดทำการทุกวัน
  • ค่าใช้จ่าย : เข้าชมฟรี
  • วิธีการเดินทาง : จากสถานี Iseshi หรือ ศาลเจ้านอก นั่งรถบัสมาลงที่ป้าย Ise Jingu (Naiku) ใช้เวลาประมาณ 15 นาที และเดินต่ออีกประมาณ 5 นาที
  • เว็บไซต์

5. ย่านการค้าโอฮาไรมะจิ (Oharaimachi) และ ตรอกโอคะเกะโยโคะโจ (Okage-yokocho)

ข้ามถนนไปเพียงไม่กี่ก้าวเป็นที่ตั้งของ ย่านการค้าโอฮาไรมะจิ (Oharaimachi) เป็นย่านเมืองเก่า หรือที่เรียกกันว่า เอโดะน้อย (Little Edo) บรรยากาศของอาคารบ้านเรือนสมัยก่อนถูกปรับเปลี่ยนไปตามยุคสมัยแต่ยังคงโครงสร้างดั้งเดิมเอาไว้ กลายเป็นร้านค้าขายของที่ระลึกและ ร้านอาหารประจำเมืองมากมาย  แนะนำให้ลองชิม อิเสะอุด้ง (Ise Udon) อาหารขึ้นชื่อของเมืองนี้

ดังโงะจากร้านดัง Dangoya หลากหลายรสชาติ

เดินเข้ามาด้านในจะพบกับตรอกโอคะเกะโยโคะโจ (Okage-yokocho) มีการแสดงพื้นเมืองให้ชมโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย และมีร้านค้ากระจายตัวอยู่รอบๆ ตรงข้ามกับทางเข้าตรอกจะมีทางเดินเล็กๆ ไปยังลำธารที่อยู่ด้านหลัง ซึ่งมีซากุระออกดอกในช่วงฤดูใบไม้ผลิให้ชม

โคร็อกเกะแสนอร่อยจากร้าน บูตะสุเตะ ที่มีอายุกว่า 100 ปีและมีผู้คนเข้าแถวยาวอยู่หน้าร้านคับคั่งตลอดเวลา

ร้านอาหาร Tofuya by Isuzu-gawa River เป็นร้านอาหารที่ตั้งอยู่สุดทางของย่านการค้าโอฮาไรมะจิ โด่งดังในเรื่องของอาหารเพื่อสุขภาพ นั่นก็คือเต้าหู้สด เป็นเมนูหลักที่ทางร้านผลิตขึ้นเองแบบสดใหม่ในทุกๆ วัน จัดเป็นเซทคู่กับอาหารหลากหลายชนิดโดยเฉพาะวัตถุดิบในพื้นที่ตามแต่ละฤดูกาล แนะนำเลยใครที่รักสุขภาพ ชอบทานเต้าหู้ แนะนำว่าต้องมาลองชิม และอีกอย่างที่ไม่อยากให้พลาด คือเซทข้าวหน้าปลาไหล ซึ่งร้านนี้นำปลาไหลในพื้นที่มาเป็นอีกหนึ่งเมนูแนะนำของร้าน

ข้อมูลเพิ่มเติม

  • หมายเลขโทรศัพท์: 0596-28-1028
  • เวลาทำการ: วันจันทร์ – ศุกร์ มื้อกลางวัน 11.00 – 14.00 น. / มื้อค่ำ 17.00 – 20.00 น. / วันเสาร์ – อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เปิดตั้งแต่ 11.00 – 20.00 น. (เปิดทุกวัน)
  • การเดินทาง: จากสถานีรถไฟ Isuzugawa สาย Kintetsu Toba โดยสารรถแท้กซี่ประมาณ 5 นาที
  • เว็บไซต์

6. โรงแรม Miyako Hotel Yokkaichi

โรงแรม Miyako Hotel Yokkaichi ตั้งอยู่บริเวณหน้าสถานีรถไฟ Kintetsu Yokkaichi โรงแรมแห่งนี้ให้บริการห้องพักทันสมัย ด้วยห้องพักทั้งหมด 118 ห้อง ให้เลือกตามความต้องการของผู้เข้าพัก อีกทั้งยังตั้งอยู่ติดกับศูนย์การค้า Lala Square สามารถเดินทางได้อย่างสะดวกสบายจากสนามบินท่าอากาศยานนานาชาติชูบุเซ็นแทรร์ (Chubu Centrair International Airport Nagoya) ด้วยรถบัสตรงมายังโรงแรมเพียง 80 นาที

พร้อมห้องอาหารที่หลากหลาย ทั้งห้องอาหารจีนและญี่ปุ่น

ภายในห้องพักเพียบพร้อมไปด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน ไม่ว่าจะเป็น อินเทอร์เน็ตไร้สาย (WiFi) เครื่องปรับอากาศ โทรทัศน์ ตู้เย็น และห้องน้ำส่วนตัวพร้อมเครื่องเป่าผมและเครื่องใช้ในห้องน้ำ

ข้อมูลเพิ่มเติม

  • ที่อยู่ : 1-3-38, Yasujima, Yokkaichi City, Mie 510-0075
  • หมายเลขโทรศัพท์ : +81-59-352-4131
  • การเดินทาง : จากสนามบินท่าอากาศยานนานาชาติชูบุเซ็นแทรร์ (Chubu Centrair International Airport Nagoya) บริเวณจุดจอดรถหมายเลข 2 โดยสารรถ Highway Express Bus ที่วิ่งไปยัง Kuwana, Yokkaichi ลงที่ป้ายจุดจอด Miyako Hotel-mae ใช้เวลาประมาณ 80 นาที
  • เว็บไซต์

7. ร้านหมูย่าง Tonteki Chan Kintetsu Yokkaichi Store

ชิมอาหารขึ้นชื่ออันเป็นเอกลักษณ์ของเมืองยอกไกจิ ทงเตกิ หรือเสต็กหมูใช้เนื้อหมูชิ้นใหญ่บริเวณขาด้านหน้า ย่างกับน้ำซอส กระเทียมและน้ำมันหมู จนมีสีเหลืองทอง ทานคู่กับกะหล่ำปลีขูดฝอย หรือจะสั่งราเมงหลากหลายรสชาติมาทานคู่กันช่วยเพิ่มรสชาติได้อีกด้วย

เมนูของทางร้าน Tonteki Chan Kintetsu Yokkaichi Store

ข้อมูลเพิ่มเติม

  • ที่อยู่ : 1-2-20 Yasujima, Yokkaichishi, Mie
  • โทร : 0593561550
  • เวลาทำการ : วันจันทร์ถึงศุกร์ เปิดเวลา 11.30-15.00 น. และ 18.00-24.30 น. (Last Order 24.00 น.) / วันเสาร์ – อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เปิดเวลา 11.30-15.00 น. และ 17.00-24.30 น. (Last Order 24.00 น.)
  • การเดินทาง : จากสถานีรถไฟ Kintetsu Yokkaichi เดินประมาณ 2 นาที
  • เว็บไซต์

8. สวนสนุก Shima Spain Village

สวนสนุกชิมะหมู่บ้านสเปน (Shima Spain Village) ตั้งอยู่ที่เมืองอิเสะชิมะ ในจังหวัดมิเอะ (Mie) เป็นสวนสนุกที่มีธีมรูปแบบประเทศสเปน ทั้งในส่วนของการตกแต่งจนแทบให้ความรู้สึกว่ามาอยู่สเปน มีเครื่องเล่นให้เลือกเล่นกันอย่างจุใจ ไม่ว่าจะเป็นรถไฟเหาะตีลังกา ล่องเรือผจญภัย บ้านลึกลับ และอื่นๆอีกมากมาย และยังมีโชว์การเต้นรำฟลามิงโก้ หรือร้านค้าให้ช็อปปิ้งของที่ระลึก ภายในสวนสนุกมีทุ่งดอกไม้อันงดงาม โชว์และพาเหรดจากตัวการ์ตูนต่างๆ มากมาย ที่ทั้งเด็กและผู้ใหญ่สามารถเพลิดเพลินร่วมกันได้อย่างเต็มอิ่ม

โซนสวนสนุก

โซนหมู่บ้านสเปน

โซนพิพิธภัณฑ์

โซนเธียเตอร์สำหรับจัดแสดงโชว์ต่างๆกลางแจ้ง

บรรยากาศช่วงหัวค่ำจะมีการประดับไฟสถานที่อย่างสวยงาม

ข้อมูลเพิ่มเติม

  • เวลาทำการ : 9.30 – เวลาปิดแตกต่างตามแต่ละช่วงเวลา (เช็คข้อมูลได้ >> ที่นี่)
  • วันหยุด : เปิดทุกวัน
  • ค่าเข้าชม : ราคาบัตร 1 วัน – ผู้ใหญ่ อายุ 18-64 ปี ราคา 5,400 เยน เด็ก อายุ 12-17 ปี ราคา 4,400 เยน เด็ก อายุ 3-11 ปี ราคา 3,600 เยน ผู้สูงอายุตั้งแต่ 65 ปีเป็นต้นไป ราคา 3600 เยน / ราคาบัตร 2 วัน – ผู้ใหญ่ อายุ 18-64 ปี ราคา 6,800 เยน เด็ก อายุ 12-17 ปี ราคา 5,400 เยน เด็ก อายุ 3-11 ปี ราคา 4,600 เยน ผู้สูงอายุตั้งแต่ 65 ปีเป็นต้นไป ราคา 4,600 เยน (ใช้ต่อเนื่องกัน)
  • วิธีการเดินทาง : รถไฟสาย Kintetsu Shima จากสถานี Shima-Isobe โดยสารรถบัสบริการรับส่ง หรือหากเดินทางจาก Nagoya, Osaka หรือ Kyoto สามารถนั่งรถไฟด่วนไปลงที่สถานี Shima-Isobe
  • เว็บไซต์

9.โรงแรม Hotel Shima Spain Mura

โรงแรม Hotel Shima Spain Mura เป็นโรงแรมที่พักในเครือ Miyako Hotels & Resorts ตั้งอยู่ในพื้นที่ติดกับสวนสนุกตีมพาร์ค Shima Spain Village เหมาะสำหรับผู้เข้าพักที่เดินทางมาท่องเที่ยวยังสวนสนุกแห่งนี้ ด้วยห้องพักกว่า 249 ห้องให้เลือกตามความต้องการของผู้เข้าพัก

ล้อบบี้ของโรงแรมออกแบบอย่างสวยงาม

พร้อมด้วยห้องอาหารให้เลือกสรรมากมาย

ทั้ง ห้องอาหารสเปน

ห้องอาหารญี่ปุ่น

ห้องอาหารฝรั่งเศส

ภายในตัวโรงแรมมีการออกแบบห้องพักทุกห้อง สะท้อนเอกลักษณ์ของความเป็นประเทศสเปนเอาไว้อย่างดีเยี่ยม เพียบพร้อมด้วยการให้บริการและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ได้แก่ อินเตอร์เนตไร้สาย Wi-Fi ทุกห้อง, แผนกต้อนรับ 24 ชั่วโมง, Wi-Fi ในพื้นที่สาธารณะ, ที่จอดรถ, ร้านอาหาร ภายในห้องพัก ยังประกอบด้วย โทรทัศน์จอแบน, ห้องปลอดบุหรี่, เครื่องปรับอากาศ, เครื่องทำความร้อน อีกทั้งยังมีส่วนของสปา ที่ผู้เข้าพักสามารถผ่อนคลายไปกับการแช่น้ำพุร้อนอนเซนได้อีกด้วย

ข้อมูลเพิ่มเติม

  • ที่อยู่ : 952-22, Shimoyama, Sakazaki Isobe-cho, Shima City, Mie 517-0212
  • หมายเลขโทรศัพท์ : +81-599-57-3511
  • การเดินทาง :
    – จากสนามบินท่าอากาศยานนานาชาติชูบุเซ็นแทรร์ (Chubu Centrair International Airport) โดยสารเรือด่วน Tsu Airport Line ไปลงที่ท่าเรือ Tsu ใช้เวลาประมาณ 40 นาที จากนั้นโดยสารรถประจำทาง Mie Kotsu Bus ไปลงที่สถานีรถไฟ Tsu ใช้เวลาประมาณ 10 นาที จากนั้นโดยสารรถไฟสาย Kintetsu Limited Express มาลงที่สถานี Utaga ใช้เวลาประมาณ 75 นาที จากนั้นโดยสารรถ Shuttle Bus ลงที่ป้ายจุดจอด Hotel Shima Spain Mura ใช้เวลาประมาณ 13 นาที- จากสถานีรถไฟ Nagoya โดยสารรถไฟสาย Kintetsu Limited Express มาลงที่สถานี Utaga ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง จากนั้นโดยสารรถ Shuttle Bus ลงที่ป้ายจุดจอด Hotel Shima Spain Mura ใช้เวลาประมาณ 13 นาที
  • เว็บไซต์

10. ตึก Yokkaichi Port Building Umiterasu 14

อาคาร Yokkaichi Port Building Umiterasu 14 ตั้งอยู่บริเวณชายฝั่งทะเลตอนเหนือของจังหวัดมิเอะ สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1999 เพื่อเฉลิมฉลองการครบรอบ 100 ปีของการเปิดใช้ท่าเรือยอกไกจิ มีความสูง 100 เมตร นับว่าเป็นตึกที่สูงที่สุดของจังหวัดมิเอะ บริเวณชั้น 14 ของอาคารแห่งนี้ นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นมาชมทัศนียภาพมุมสูง โดยในวันที่อากาศดีสามารถมองเห็นไปได้ไกลถึงภูเขาไฟฟูจิเลยทีเดียว

นอกจากชมวิวแล้ว ยังจัดแสดงนิรรศการให้ความรู้เกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของท่าเรือแห่งนี้, เรือที่ใช้ในการขนส่งสินค้า อีกทั้งในยามค่ำคืนยังเป็นที่ชมแสงไฟของโรงงานในแถบท่าเรือก็สวยไปอีกแบบ

ข้อมูลเพิ่มเติม

  • เวลาทำการ : วันธรรมดา เปิดเวลา 10.00 – 17.00 น. (เข้าชมก่อนเวลา 16.30 น.) / วันเสาร์ – อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เปิดเวลา 10.00 – 21.00 น. (เข้าชมก่อนเวลา 20.30 น.)
  • วันหยุด : ปิดทุกวันพุธ และวันหยุดสิ้นปีตั้งแต่ 29 ธันวาคมถึงวันที่ 3 มกราคม
  • ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 300 เยน / เด็ก อายุต่ำกว่าชั้นมัธยมต้น เข้าฟรี
  • การเดินทาง : จากสถานี JR Tomidahama Station (JR Kansai Main Line) เดินประมาณ 15 นาที
  • เว็บไซต์

ลากันไปด้วยภาพสวยๆของใบไม้เปลี่ยนสีบนจุดชมวิวโยโกยะมะ แล้วตอนหน้าเราจะพาไปเที่ยวจังหวัดมิเอะกันต่อ ด้วยพาสรถไฟสุดประหยัด Kintetsu Rail Pass

ChubuIse-shimaKansaiKintetsuKintetsu Rail PassMie PrefectureNagoyaจังหวัดมิเอะจูบุชูบุพาสรถไฟคินเทตสึภูมิภาคคันไซรถไฟญี่ปุ่นอิเสะชิมะเที่ยวญี่ปุ่นเที่ยวญี่ปุ่นดอทคอม​เที่ยวญี่ปุ่นตัวเอง