ทริปนี้เราจะพาไปเจาะลึกกันที่สุดแดนใต้ของภูมิภาคคิวชูที่ จังหวัดคาโงะชิมะ (Kagoshima) และ จังหวัดมิยะซะกิ (Miyazaki) ทั้งสองจังหวัดนี้อาจจะยังไม่เป็นที่รู้จักมากนักในหมู่นักท่องเที่ยวชาวไทย เพราะเมื่อพูดถึงภูมิภาคคิวชูแล้ว หลายคนอาจจะรู้จักกันแต่ทางฝั่งคิวชูตอนเหนือ เช่นจังหวัดฟุกุโอกะ จังหวัดโออิตะ จังหวัดคุมาโมโตะ แต่จะบอกว่าทั้งสองจังหวัดนี้ก็มีเสน่ห์ที่ไม่เหมือนที่ไหน ล้วนเต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวน่าสนใจอีกมากมาย
ในตอนแรก เราไปเที่ยวส่วนหนึ่งของจังหวัดมิยะซะกิกันมาแล้ว อ่านรีวิวได้ >> ที่นี่
จังหวัดมิยะซะกิ ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของภูมิภาคคิวชู ที่นี่ยังเป็นจังหวัดที่ยังคงเต็มไปด้วยธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ และวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ อีกทั้งยังมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายไม่ว่าจะเป็นภูเขาหรือทะเล ที่สำคัญอาหารท้องถิ่นของจังวัดมิยะซะกิก็ยังอร่อยไม่แพ้ที่ไหนอีกด้วย ตามไปเที่ยวด้วยกันเลยครับ!
เดินทางไปยัง เมืองทาคาจิโฮ (Takachiho) ในจังหวัดมิยะซะกิ ไฮไลท์เด็ดกิจกรรมยอดฮิตของที่นี่คือการพายเรือชมบรรยากาศสวยๆใน หุบเขาทาคาจิโฮ (Takachiho Gorge) ที่มีแม่น้ำโกคัสเซะ (Gokasse) ไหลผ่านกลางหุบเขาขนาบอยู่สองข้างทาง สถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ที่ทำให้เห็นถึงความมหัศจรรย์ของธรรมชาติที่ได้รังสรรค์ขึ้นมาได้อย่างงดงาม
หุบเขาแห่งนี้เกิดจากหินลาวาที่หลอมละลายจากการปะทุของภูเขาไฟอะโซ แล้วกัดเซาะจนเกิดเป็นช่องหินที่สวยแปลกตา แวดล้อมไปด้วยทัศนียภาพสุดร่มรื่นของน้ำตกมานาอิ (Manai no Taki)
บริเวณใกล้กันก็มีสวนสวยๆ ร้านอาหาร ของที่ระลึกให้แวะกินแวะช้อป
ศาลเจ้าเล็กๆสามารถมาขอพรเรื่องความรักได้ด้วย
หุบเขาทาคาจิโฮะ และ น้ำตกมานาอิ
เวลาทำการ : 08.30 – 17.00 น.
วันหยุด : เปิดทุกวัน
ค่าใช้จ่าย : ค่าเช่าเรือพาย ราคา 2,000 เยน ต่อ 30 นาที (เช่ารอบสุดท้าย 16.30 น.)
วิธีการเดินทาง : ตั้งอยู่ไม่ไกลจากตัวเมือง Takachiho วิธีที่สะดวกที่สุดคือการขับรถมาเองหรือโดยสารรถแท็กซี่ หรือสามารถโดยสารรถบัสประจำทางวันละ 2-4 เที่ยว ลงป้าย Takachiho Bus Center แล้วต่อแท็กซี่อีก 6 นาที
เว็บไซต์
ไม่ไกลกันมากในเมืองทาคาจิโฮแห่งนี้ยังมี ศาลเจ้าทาคาจิโฮ (Takachiho shrine) ที่ซ่อนตัวอยู่ในป่าสน แวดล้อมไปกับธรรมชาติรอบๆตัว สร้างขึ้นมากว่า 1200 ปี ใช้เพื่อเป็นที่ประทับและบวงสรวงเทพเจ้า อะมะเทราสุโอมิกะมิ (Amaterasu Omigami) ส่วนเวลากลางคืนจะมีการแสดงตามประเพณี จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับเทพเจ้าของญี่ปุ่นตามตำนานของศาสนาชินโต โดยนักแสดงจะใส่หน้ากากและมีการเล่นเครื่องดนตรีญี่ปุ่นโบราณประกอบ
ภายในศาลเจ้ายังมีความพิเศษของต้นสนทั้งสองยืนต้นยืนเคียงคู่กัน เชื่อกันว่าหากใครพาคู่ของตัวเองมาเดินจูงมือวนรอบต้นสนสามรอบจะได้เป็นเนื้อคู่กัน
ศาลเจ้าทาคาจิโฮ
เวลาทำการ : 08.00 น. – 21.00 น.
วันหยุด : เปิดทำการทุกวัน
ค่าใช้จ่าย : 700 เยน
วิธีการเดินทาง : ตั้งอยู่ไม่ไกลจากตัวเมือง Takachiho วิธีที่สะดวกที่สุดคือการขับรถมาเองหรือโดยสารรถแท็กซี่
เว็บไซต์
เดินทางสู่ เมืองนิจินัน (Nichinan) ในจังหวัดมิยะซะกิ เราจะพาไปเที่ยวกันที่ สถานที่ตากอากาศริมทะเลซันเมสเสนิจินัน (Sun Messe Nichinan) สถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ที่ได้รับความสนใจมากๆ เพิ่งจะเปิดตัวได้เพียงไม่นานแต่กลับได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวมากมาย
เนื่องด้วยสถานที่แห่งนี้ตั้งอยู่บริเวณเชิงเขา โดยมีฉากหลังเป็นมหาสมุทรแซิฟิก อีกทั้งสัมผัสกับความยิ่งใหญ่ของหุ่นจำลองรูปสลักหินโมอายทั้ง 7 ตัวแห่งเกาะอีสเตอร์ ที่ได้รับการอนุญาตให้จัดแสดงได้เพียงแห่งเดียวในโลก ภายในสถานที่ตากอากาศริมทะเล ยังมีร้านอาหารอยู่ด้านบนจุดชมวิวด้านบน
โดยหุ่นโมอายทั้ง 7 ตัวนั้นจะมีความเชื่อที่แตกต่างกันในเรื่องของการอธิษฐาน โดยเรียงจากตัวซ้ายสุดมาขวาสุด เรื่องงาน, สุขภาพ, ความรัก, โชคดีในทุกๆเรื่อง, การแต่งงาน, การเงิน และการเรียน ใครอยากประสบความสำเร็จในเรื่องไหนสามารถขึ้นไปลูบที่ตัวหุ่นโมอายได้ ส่วนแอดลูบทุกตัว
บรรยากาศนั้นช่างคล้ายอยู่ที่เกาะฮาวาย
จุดถ่ายภาพสวยๆ
สถานที่ตากอากาศริมทะเล Sun Messe Nichinan
เวลาทำการ : 09.30 – 17.00 น.
วันหยุด : หยุดทุกวันพุธที่ 1 และ 3 ของทุกเดือน
ค่าใช้จ่าย : ผู้ใหญ่ 700 เยน / นักเรียน 500 เยน / เด็ก 350 เยน
วิธีการเดินทาง : จากสถานีรถบัส Miyazaki โดยสารรถบัสสาย Nichinan มาลงที่ป้าย Sun Messe Nichinan ใช้เวลาประมาณ 1.30 ชั่วโมง
เว็บไซต์ : http://www.miyazaki-city.tourism.or.jp/en/sightseeing/spcat04/spot22.html
ไปกันต่อที่ จุดพักรถฟีนิกซ์ (Michi no Eki Phoenix) นักท่องเที่ยวสามารถมาสูดอากาศบริสุทธิ์ ซื้อของฝากที่ระลึก พร้อมชมวิวริมทะเลสวยๆของมหาสมุทรแปซิฟิก
จุดพักรถ Michi no Eki Phoenix
เวลาทำการ : 09.00 – 18.00 น. / ร้านอาหาร 09.00 – 17.00 น.
วันหยุด : เปิดทำการทุกวัน
ค่าใช้จ่าย : ไม่มีค่าใช้จ่าย
วิธีการเดินทาง : จากสถานีรถบัส Miyazaki โดยสารรถบัสสาย Nichinan มาลงที่ป้าย Horikiritoge bus stop ใช้เวลาประมาณ 35 นาที
เว็บไซต์
เดินทางไปสักการะ ศาลเจ้าอุโดะ (Udo shrine) ศาลเจ้าชินโตสีแดงสดซ่อนตัวอยู่ในถ้ำริมหน้าผาอันมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวแห่งนี้ มีความเชื่อว่าเป็นสถานที่สำหรับขอพรเพื่อผู้หญิงโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการขอบุตร ขอพรให้คลอดง่าย ความราบรื่นในชีวิตคู่ อีกทั้งศาลเจ้าแห่งนี้ยังได้รับเลือกให้เป็น “มรดกทางวัฒนธรรมของชาติ” อีกด้วย
แผ่นขอพรรูปกระต่าย ที่ศาลเจ้าแห่งนี้มีความเชื่อกันว่ากระต่ายนั้นเป็นสัตว์ที่จะนำพาคำขอของผู้ที่อธิษฐานไปยังเทพเจ้า
โทริอิสีแดงสดตั้งเรียงกันขึ้นไปบนภูเขา
อีกหนึ่งการเสี่ยงทำนายโชคของที่นี่ก็คือจะมีก้อนหินใหญ่ที่มีหลุมอยู่ตรงกลางเรียกว่า “คาเมะอิชิ” หากอธิษฐานขอพรแล้วโยนหินนำโชคให้เข้าหลุมก็จะถือว่าพรที่ขอจะสมหวัง โดยผู้หญิงจะโยนด้วยมือขวา ส่วนผู้ชายก็โยนด้วยมือซ้าย
เดินเข้ามายังตัวศาลเจ้าหลักด้านในซึ่งตั้งอยู่ภายในถ้ำ วันนี้มีผู้คนเดินทางมาสักการะกันมากมาย
บรรยากาศสวยๆของทะเลมหาสมุทรแปซิฟิก จากทางด้านหน้าของศาลเจ้า Udo
ศาลเจ้าอุโดะ (Udo Shrine)
เวลาทำการ : ช่วงเดือนเมษายน – กันยายน เปิดเวลา 06.00 – 19.00 น. และช่วงเดือนตุลาคม – มีนาคม เปิดเวลา 07.00 – 18.00 น.
วันหยุด : เปิดทำการทุกวัน
ค่าใช้จ่าย : ไม่มีค่าใช้จ่าย
วิธีการเดินทาง : จากสถานีรถไฟ JR Miyasaki โดยสารรถไฟสาย Nichinan ไปลงที่สถานีรถไฟ Aburatsu จากนั้นนั่งรถเมล์สาย Miyasaki Airport แล้วลงที่ป้าย Udo Shingu Shrine จากนั้นเดินต่ออีกประมาณ 10 นาที
เว็บไซต์
ซากปราสาทโอบิ (Obi castle ruins) และย่านเมืองเก่า ว่ากันว่าเขตเมืองเก่ารอบๆตัวปราสาทโอบินั้น เคยรุ่งเรืองอย่างมากในยุคสมัยเอโดะ แต่ปัจจุบันเหลือไว้เพียงแต่ซากของปราสาทที่ถูกบูรณะใหม่แล้ว มีหินกว่า 57,000 ก้อน ภูมิทัศน์เมืองเก่าของบ้านซามูไรและกำแพงหินนั้นถูกตั้งฉายาให้เป็น “ลิตเติ้ลเกียวโตของคิวชู” อีกทั้งเมืองนี้ยังได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมของประเทศอีกด้วย
ปลาคาร์ฟตัวใหญ่ว่ายกันไปมาตามร่องน้ำ
ทางเดินจากตัวเมืองเก่าเข้าสู่ตัวปราสาท
จุดซื้อตั๋วชุดคูปอง “แผนที่อายูมิจัง ( Ayumi-chan Map)” และพิพิธภัณฑ์ซึ่งด้านในเป็นบ้านเก่าของพ่อค้าและสวนญี่ปุ่นสวยๆ
ประตูปราสาทที่ยังคงรูปแบบเดิมไว้ นอกจากนี้บริเวณรอบๆตัวปราสาทยังมีเมืองเก่าที่เป็นมีบ้านซามูไร ทางน้ำ พิพิธภัณฑ์ที่เปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้ามาชม
ไกด์ของเราแนะนำให้มายืนตรงกลางตรงจุดที่กำหนดไว้ให้เชื่อกันว่าจุดนี้เป็นจุด Power Spot รับพลัง สามารถมายืนอธิษฐานขอพรได้
เนื่องจากหลังจากญี่ปุ่นต้องประสบกับภัยพิบัติไต้ฝุ่นหลายลูก ทำให้อากาศเกิดเพี้ยนๆไป เราจึงได้เห็นดอกซากุระบานด้วย
หากมาในช่วงที่ดอกซากุระบาน เชื่อว่าต้นนี้จะต้องสวยมากๆแน่
ขึ้นมาถึงบริเวณซากปราสาทด้านบน ปัจจุบันได้ถูกปรับสภาพให้เป็นพื้นที่ป่าสน
ความพิเศษของที่นี่คือ เมื่อเราซื้อ แผนที่อายูมิจัง (Ayumi-chan Map) นั้นจะมีสิ่งที่แถมมาพร้อมกับชุดคูปอง ที่สามารถแลกเป็นตั๋วเข้าค่าผ่านประตู สามารถเข้าได้ 3 สถานที่ ราคา 600 เยนและตั๋วรวม 7 สถานที่ราคา 1,100 เยน คูปองอาหาร และของที่ระลึกในโอบิ เพิ่มความสนุกสนานในการเดินเล่นในเมืองเหมือนการเก็บอาร์ซี แค่เดินเล่นเอาคูปองไปแลกเป็นของที่ระลึกก็คุ้มแล้ว
ซากปราสาทโอบิ (Obi castle ruins)
เวลาทำการ : 09.30 – 16.30 น.
วันหยุด : หยุดวันที่ 29 – 31 เดือนธันวาคม
ค่าใช้จ่าย : ค่าเข้าชมพิพิธภัณฑ์ ผู้ใหญ่ 600 เยน / นักศึกษา 450 เยน / เด็ก 350 เยน
วิธีการเดินทาง : จากสถานีรถไฟ JR Obi สามารถเดินชมย่านเมืองเก่าไปเรื่อยๆประมาณ 20 นาที
เว็บไซต์
เพลิดเพลินไปกับอาหารท้องถิ่น ชุดเซทอาหารปลาคัทสึโอะ เป็นของขึ้นชื่อของเมืองนิจินัน โดยใน 1 เซทนั้นสามารถรับประทานได้สามแบบ คือ
- แบบที่ 1 ทานแบบเป็นซาซิมิ คลุกเคล้ากับซอสโชยุ ขิงบด กระเทียม และทานคู่กับซอสงา
- แบบที่ 2 ทานแบบนำไปย่าง
- แบบที่ 3 ทานกับซุปการ้อนสไตล์ข้าวต้มธัญพืชโรยงาพร้อมไข่หวานย่างทามาโกะเนื้อเนียน
ทานแบบนำไปย่างก็ได้รสชาติไปอีกแบบ
บรรยากาศภายในร้าน