Kyoto: ย้อนอดีตสู่ยุคเฮอัน ผ่านวัด Daikakuji อายุ 1,200 ปี ทรงคุณค่าทางใจของชาวญี่ปุ่น

วัดไดคะคุจิ แห่งนี้มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน ตั้งแต่สมัยยุคเฮอัน สร้างขึ้นเมื่อราว 1,200 ปีมาแล้ว โดยจักรพรรดิซะกะ ที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นพระราชวังที่ประทับสำหรับพระองค์เอง มีชื่อว่า ซะกะอิน (Saga-in) ต่อมาหลังจากที่ท่านได้สวรรคตลง พระธิดาของท่านได้เปลี่ยนจากวังให้กลายเป็นวัด โดยมีนามใหม่ว่า ไดคะคุจิ (Daikaku-ji) และมีชื่อเต็มว่า Kyu Saga Gosho Daikaku-ji Monzeki

วัดไดคะคุจิยังมีความสำคัญต่อชาวญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก ตามประวัติศาสตร์ ในอดีตได้มีการแพร่ระบาดของโรคภัยร้ายแรง ทำให้มีผู้คนล้มตายจำนวนมาก ไม่เว้นแม้แต่คนในราชวงศ์ นักบวช โคโบไดชิ (Kobo Daishi) ผู้ก่อตั้งพระพุทธศาสนานิกายชินงอน (Shingon) ได้แนะนำจักรพรรดิซะกะว่า ให้ทำการคัดลอกคัมภีร์สำคัญทางศาสนา ที่เรียกว่า Hannya Shingyo (หรือมีชื่อเป็นภาษาอังกฤษว่า Heart Suttra) เมื่อจักรพรรดิได้ทรงคัดลอกทุกตัวอักษรด้วยลายมือของพระองค์เองทั้งหมด โรคระบาดก็ได้หยุดลงในทันที จึงทำให้ประชาชนเลื่อมใสในความศักดิสิทธิ์ และบูชาเคารพนับตั้งแต่นั้นมา จวบจนปัจจุบัน ยังมีผู้ที่เลื่อมใสในพระพุทธศาสนาและนักบวชเดินทางมาที่วัดแห่งนี้ เพื่อทำการคัดลอก Heart Suttra เพื่อความเป็นสิริมงคลกับตนเองและครอบครัว เป็นประจำ

โดยปัจจุบันนี้ Heart Suttra ตัวต้นฉบับที่เป็นลายพระหัตถ์ของพระจักรพรรดินั้น ยังคงถูกเก็บรักษาไว้อย่างดีใน หอชินเกียวเด็น (Shingyoden) เป็นเวลากว่า 1,200 ปีมาแล้ว

และหอนี้จะเปิดให้สาธารณะเข้าชมได้ทุก 60 ปี ซึ่งวาระต่อไปจะเกิดขึ้นในปีค.ศ.2018 ที่จะถึงนี้ และเปิดให้เข้าชมเป็นระยะเวลา 2 เดือนเต็ม ตั้งแต่ 1 ตุลาคม – 30 พฤศจิกายน นับว่าเป็นโอกาสครั้งสำคัญ ที่เราจะได้ชมเอกสารอันล้ำค่านี้ด้วยตาของเราเอง


อาณาบริเวณทั้งหมดในเขตวัดไดคะคุจิ

จุดเริ่มต้น Shikidai Genkan ทางเข้าสู่ตัววัด จะพบว่ามีอาณาเขตกว้างใหญ่ไพศาล ทุกอาคารถูกเชื่อมกันด้วยทางเดินไม้ สามารถเดินชมได้ครบรอบโดยไม่ต้องลงจากตัวอาคาร เป็นอีกหนึ่งความพิเศษของที่นี่ วัดแห่งนี้ในอดีตมีเพียงจักรพรรดิ์ และเชื้อพระวงศ์เท่านั้นที่จะเข้ามาพักอาศัยในช่วงปลายของชีวิต (ในอดีตพระจะสืบเชื้อสายมาจากพระราชวงศ์) หรือทำพิธีการต่างๆได้

แม้แต่ราชวงศ์ปัจจุบัน ก็ยังคงเสด็จมาประทับและร่วมพิธีการสำคัญดังจะเห็นได้จากทางเข้าที่มีสัญลักษณ์ของราชวงศ์ ที่บุคคลทั่วไปไม่สามารถเข้าทางนี้ได้ และจัดแสดงพระเกี๊ยวที่ใช้สำหรับเชื่อพระวงศ์เท่านั้น

ทางเดินเชื่อมอาคารแต่ละหลัง สามารถชมความงามของใบไม้เปลี่ยนสีได้ตลอดทาง

จักรพรรดิซะกะท่านทรงมีความสนพระทัยในศิลปะและวัฒนธรรมเป็นอย่างมาก จึงทำให้ยุคสมัยเฮอันนั้นเปี่ยมไปด้วยความงดงามของงานศิลป์ที่ถูกถ่ายทอดผ่านทางสถาปัตยกรรมต่างๆ โดยในบรรดาวัดทั้งหมดของเกียวโตนั้น วัดไดคะคุจิแห่งนี้นั้นเปรียบเสมือนเป็นประตูที่จะพาย้อนยุคไปในสมัยเฮอันได้อย่างสมบูรณ์แบบที่สุด อีกทั้งยังเป็นจุดเริ่มต้นของ อิเคบะนะ (Ikebana) การจัดดอกไม้แบบญี่ปุ่น ก็ได้ถือกำเนิดขึ้นที่นี่อีกด้วย

Reimeiden Hall วิหารที่เคลื่อนย้ายมาจากโตเกียว ในปีค.ศ.1958 อาคารทาเป็นสีแดงเพื่อขับไล่วิญญาณร้าย

Tenjyoryu-zu ภาพวาดมังกรเก่าแก่บนเพดานในหอ Yasui-do ที่มีไว้เพื่อป้องกันอัคคีภัย

เครื่องรางเป็นลายดอกไม้แบ่งตามเดือนเกิด

นอกจากนี้ อีกหนึ่งสส่วนที่มีความสำคัญมากก็คือ บ่อน้ำโอซะวะ (Osawa Pond) ที่ขุดขึ้นด้วยแรงงานมนุษย์ และมีอายุเก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น สร้างขึ้นก่อนที่จะมีวัดไดคะคุจิเสียอีก บ่อน้ำแห่งนี้ใช้ในการสันทนาการมากมาย ไม่ว่าเป็น ล่องเรือ งานสังสรรค์ ตกปลา และกิจกรรมที่เป็นที่โปรดปรานมากที่สุดคือ การชมจันทร์ โดยจักรพพรดิจะไม่เงยหน้าขึ้นไปชมจันทร์ เนื่องจากตำแหน่งจักพรรดินั้นสูงที่สุด ไม่มีสิ่งใดอยู่เหนือได้ การชมจันทร์จึงสามารถทำได้โดยการชมจากเงาสะท้อนที่ตกกระทบกับผิวน้ำเท่านั้น

โดยรอบบ่อน้ำจะเป็นที่ตั้งของ เจดีย์ชินเกียว (Shingyo Pagoda) สร้างขึ้นเนื่องในโอกาสครบรอบ 1,150 ปี ที่จักรพรรดิซะกะได้ทำการคัดลอกคัมภีร์ และมีสวนญี่ปุ่นที่ปลูกต้นซากุระสลับกับต้นโมมิจิ สามารถมาชมความงามได้ทั้ง 2 ฤดู และจะมีการประดับไฟในตอนกลางคืนด้วย

 

ใกล้ๆกันยังเป็นที่ตัวของคาเฟ่เล็กๆ ที่สามารถเข้าไปสั่งเมนูอาหาร ขนมหวาน และเครื่องดื่ม แบบง่ายๆได้ ระหว่างชมความงามของธรรมชาติที่โอมล้อมวัดแห่งนี้อยู่

เวลาทำการ: 9.00-17.00 น.
ค่าเข้าชม: 500 เยน
เว็บไซต์: DAIKAKUJI
การเดินทาง จากสถานี JR Saga-Arashiyama เดินประมาณ 17 นาที

​Arashiyama} อาราชิยะมะDaikakujiHeianIkebanaKansaiKyotoTempleคันไซวัดเกียวโตเฮอันไดคะคุจิ