และแล้วก็มาถึงวันสุดท้ายของทริปนี้ ที่เมืองคุมาโมโตะ เราจะปิดท้าย พาไปเยือนสัญลักษณ์ชื่อดังของเมือง นั่นก็คือ คือ ภูเขาไฟอะโซ กันครับ
ภูเขาไฟอะโซ (Mount Aso) เป็นภูเขาไฟที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของภูมิภาคคิวชู เป็นภูเขาไฟขนาดใหญ่ที่ยังไม่ดับ และยังคงมีการประทุอยู่อย่างต่อเนื่อง ธรรมชาติด้านบนภูเขายังคงความเขียวขจีและสวยงามมาก รอบๆภูเขาเต็มไปด้วยหมู่บ้านเล็กๆมากมาย ชาวบ้านส่วนใหญ่บนภูเขาประกอบอาชีพเกษตรกรรม ทั้งสองข้างทางที่เราเดินทางขึ้นภูเขาจะเต็มไปด้วยนาข้าว ไร่สตอรเบอรี่ และผลผลิตทางการเกษตรอีกมากมาย
ส่วนบริเวณปากปล่องภูเขาไฟบนยอดเขานั้นมีชื่อว่า “ปากปล่องภูเขาไฟนาคาดาเกะ” ซึ่งเป็นปากปล่องภูเขาไฟที่นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปชมความงามบนยอดเขาได้หลายวิธีอาทิเช่น เดินทางเท้า ทางรถยนต์ หรือขึ้นกระเช้าไฟฟ้า
นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางโดยกระเช้าซึ่งสามารถมาขึ้นได้ที่สถานี Aso Ropeway Station ภายในสถานีจะมีร้านอาหาร ของฝาก และ มีการโชว์หนังสั้นเกี่ยวกับภูเขาไฟ
แอดมินแนะนำว่าก่อนที่จะเดินทางไปชมปากปล่องภูเขาไฟ ควรเช็คข้อมูลให้ดีเนื่องจากภูเขาไฟยังคงมีความเสี่ยงที่จะเกิดการประทุตลอดเวลา และเนื่องจากช่วงที่เราไปเกิดการประทุของภูเขาไฟด้านบน จึงไม่สามารถเดินทางต่อไปเพื่อชมปากปล่องภูเขาไฟได้ ขนาดมาครั้งที่ 2 แล้วก็ยังไม่มีโอกาสได้เห็นของจริงสักที หวังว่าแอดมินจะมีโอกาสได้นำภาพสวยๆบนปากปล่องภูเขาไฟนาคาดาเกะ มาฝากกันนะครับ (ตอนนี้ขอยืมภาพจาก Wikipedia มาให้ชมกันก่อนครับ)
ภาพของทิวทัศน์เขียวชะอุ่มสุดลูกหูลูกตาที่สถานี Aso Ropeway Station
ปิดท้ายด้วยภาพสถาปัตยกรรมการก่อสร้างห้องน้ำอันแปลกตาที่สถานี
วิธีการเดินทาง การเดินทางเริ่มต้นขึ้นที่สถานี Kumamoto ฝั่งสถานีเก่า นั่ง LTD EXP Kyushu Odan ขบวนสีแดง มุ่งหน้าไปยังสถานี Aso Station ใช้เวลาโดยประมาณ 70 นาที อยากให้เลือกนั่งฝั่งขวาเพราะจะได้เห็นวิวภูเขาสวยตลอดทาง หลังจากที่เดินทางถึงสถานี Aso แล้วจะต้องนั่งรถบัสต่ออีก 40 นาทีไปยังสถานี Asosan Nishi เพื่อที่จะขึ้น Ropeway ขึ้นไปเที่ยวชมปล่องภูเขาไฟ Aso กัน
อ่านรีวิวเพิ่มเติมได้ที่นี่ >> Kumamoto Asosan
ก่อนเดินทางเพื่อกลับเข้าเมืองเราแวะทานอาหารกันที่ร้าน Takamori Dengaku Mura เป็นร้านอาหารที่มีประวัติอันยาวนาน ใช้กรรมวิธีการปรุงอาหารแบบดั้งเดิม ทางร้านจะใช้วัตถุดิบที่สดและสะอาดในท้องถิ่นมาเป็นส่วนประกอบในการปรุงเสริฟให้กับลูกค้า
วิธีการคือตั้งไฟจากถ่านร้อน นำปลายามาเมะซึ่งเป็นปลาที่อาศัยอยู่ในแหล่งน้ำบนภูเขาไฟอะโซแห่งนี้ พร้อมเครื่องเคียงโมจิ พริกหวาน หัวไชเท้า หัวเผือก บุกและไข่นกกระทา เต้าหู้ และโมจิ ทาด้วยน้ำจิ้มมิโซะสูตรเฉพาะของทางร้านผิงไฟทีละด้านจนสุก ทานคู่กับข้าวสวยคลุกผักดอง มะเขือเทศสดๆจากไร่ และซุปดาโกะมิโซะ (ออกเสียงแบบคนคุมาโมโตะ) ทำมาจากแป้งดังโงะ อร่อยอย่าบอกใครเลยทีเดียว สามารถทานได้ 4-5 คน สนนราคาเซทละ 1890
หลังจากทาซอสมิโซะและย่างจนสุกพร้อมรับประทาน
ส่วนวิธีการเดินทางมาที่ร้านนั้น จะเหมาะกับผู้ที่เช่ารถขับเที่ยวครับ สำหรับผู้ที่สนใจเดินทางมาทานอาหารที่ร้าน Takamori Dengaku Mura เข้าไปดูรายละเอียดได้ที่เว็บไซต์ >> DENGAKUMURA หรือโทร. +81-96-762-1327
สำหรับทริปนี้ขอขอบพระคุณอย่างสูงกับ นิตยสารดาโกะไทย และ Satsuki Bessou เรียวกัง ที่ให้โอกาสพวกเราชาวเที่ยวญี่ปุ่นดอทคอมได้ร่วมทริป ” กิน เที่ยว พัก แล้วคุณจะรัก Satsuki Bessou “ ได้มีประสบการณ์ดีๆกลับมาส่งต่อความสนุกและข้อมูลการท่องเที่ยวดีๆแบบนี้ให้กับเพื่อนๆทุกคน ติดตามอ่านรีวิวทั้งทริปได้ที่นี่
รีวิวที่พัก: Kumamoto ~ SATSUKI BESSOU RYOKAN
Kumamoto – Uronkoron Tour พาเที่ยวโดยคนท้องถิ่น ที่เมือง Tamana
Kumamoto – Around Tamana City เที่ยวไปรอบๆเรียวกัง Satsuki Bessou
Kumamoto – เที่ยวเมืองเก่าย้อนยุค Yamaga ดื่มด่ำวิถีชีวิตดั้งเดิมของชาวพื้นเมือง
ในครั้งหน้าแอดมินและเที่ยวญี่ปุ่นดอทคอมจะพาทุกท่านไปเที่ยวที่ไหนกัน ติดตามและเป็นกำลังใจให้พวกเราทีมงานกันด้วยนะครับ