วันนี้เป็นการเที่ยวแบบไม่ได้ตั้งใจ เดิมทีตั้งใจจะมุ่งหน้ากลับเข้าฟุกุโอะกะ ด้วยความบังเอิญรถไฟสายที่นั่งจาก Beppu จะต้องมาเปลี่ยนที่สถานี Kokura เมืองหน้าด่านของเกาะคิวชู ที่เรียกว่า Kitakyushu หรือ คิวชูตอนเหนือ ถ้าใครนั่งรถไฟมาจากทาง Hiroshima จะต้องผ่านสถานีนี้ก่อนถึงสถานี Hakata เมืองฟุกุโอกะ
ต้องยอมรับว่าตอนแรกไม่ได้มีแผนจะมาแวะเที่ยวที่นี่เลย ไม่แม้แต่จะรู้จักเลยด้วยซ้ำ แต่ด้วยความเผลอ ที่เดินยื่นตั๋ว JR Kyushu Northern Pass ให้เจ้าหน้าที่ เพราะอยากจะนั่งชิงคังเซนกลับฟุกุโอกะใจจะขาด เจ้าหน้าที่บอกว่า ไม่ได้นะ ตั๋วนี้ห้ามขึ้นชิงคังเซนสายนี้ เพราะว่า เป็นสาย Sanyo ที่ต่อยาวมาจากโอซาก้า ซึ่งเป็นคนละโซนกัน ดังนั้นจะมาเนียนไม่ได้ ก็ต้องยอมรับสภาพและหารถไฟด่วนรอบต่อไป แต่ต้องรออีกเป็นชั่วโมง ระหว่างนั้นเลยคิดขึ้น ได้ว่า สถานีใหญ่ขนาดนี้ แถมมีชิงคังเซนวิ่งผ่าน คงจะไม่ใช่สถานีธรรมดาอย่างแน่นอน เมืองนี้ต้องมีอะไรให้เราเที่ยว ก็เลยเปลี่ยนแพลน กระทันหัน จัดการฝากกระเป๋าเสร็จสรรพ รีบไปขอข้อมูลท่องเที่ยวจาก Tourist Information Center ทันที
ข้อมูลท่องเที่ยวที่นี่เพรียบพร้อมมาก ทั้งโบรชัวร์ของแทบทุกจะสถานที่ Walking Map และไฮไลท์สถานที่สำคัญๆ ถามเค้าได้เลยครับว่า ถ้ามีเวลาแค่ 1 วัน ควรจะไปที่ไหนก่อนหลัง เดินทางยังไง สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆสามารถเดินถึงกันได้ ใช้เวลา 15-20 นาทีแล้วแต่ระยะทาง เจ้าหน้าที่แนะนำว่า ช่วงซากุระแบบนี้ ต้องให้ไปที่ปราสาทโคะคุระ เพราะที่นั่นเค้าจัดงาน ฮานามิ (ข้าวเกรียบรวยเพื่อน) กันอยู่ จริงๆแล้ว Hanami คืองานสังสรรค์ ชมดอกซากุระในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ของญี่ปุ่น และยิ่งวันนี้เป็นวันอาทิตย์พอดี บรรยากาศจะครึกครื้นเป็นพิเศษด้วย ไหนๆทริปนี้ก็ทุ่มเพื่อซากุระขนาดนี้ ยังเห็นไม่เต็มอิ่ม คงต้องไปจัดส่งท้ายกันที่ปราสาทโคะคุระนี่ละครับ
Kitakyushu 北九州 หรือ North Kyushu เป็นเมืองทางตอนเหนือสุดของภูมิภาคคิวชู หลังจากค้นหาข้อมูลแบบละเอียด ก็พบว่าเมืองนี้มีพื้นที่มากที่สุดบนเกาะคิวชู ถึงแม้เมืองฟุกุโอะกะ จะมีประชากรหนาแน่นกว่าก็ตาม มีเมืองเล็กๆอยู่ 5 เมืองและมี Kokura 小倉 เป็นใจกลางของเมืองนี้ ไม่รู้ว่าจะเรียกว่าโชคดีดีมั้ย เพราะเมืองนี้ เดิมทีเป็นเป้าหมายหลักในการ โจมตีของอเมริกาในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่เนื่องด้วยวันนั้นสภาพอากาศไม่ดี เลยเปลี่ยนเป้าหมายทิ้งระเบิดนิวเคลียร์ไปที่เมือง นางาซากิแทน หลังจากนั้นไม่นาน ทางการได้ทำการพัฒนาบ้านเมืองให้ทันสมัยขึ้นนับตั้งแต่ปี 1963 เป็นต้นมา
วิธีการเดินทาง จากสถานี JR Hakata นั่งรถไฟชิงคังเซนขบวน Kodama ใช้เวลา 17 นาที (3100 เยน) / รถด่วนพิเศษ Limited Express SONIC ใช้เวลา 47 นาที (2050 เยน) / รถด่วนธรรมดาสาย JR Kagoshima 70 นาที (1250 เยน)
ที่คิตะคิวชู มีรถโมโนเรลให้บริการด้วย มีชื่อเรียกว่า Kitakyushu Monorail ถ้าใครออกจากสถานี Kokura ก็จะเห็นรางรถโมโนเรลที่เชื่อมต่อกับสถานี JR เลย รถโมโนเรลนี้มีสายเดียว คือ Kokura Line ระยะทาง 8.8 ก.ม. ใช้เวลาวิ่งจากต้นทางคือ Kokura station ถึงปลายทาง Kikugaoka station รวม 18 นาที มีทั้งหมด 13 สถานี ถ้าใครมีเวลามากกว่า 1 วัน ลองใช้โมโนเรลเที่ยวให้ทั่วเมืองก็ได้นะครับ ดูข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่นี่ >>>Kitakyushu-Monorail<<<
Kokura Castle 小倉城 คือเป้าหมายหลักของเราในวันนี้ ใช้เวลาเดินจากสถานี JR เพียงสิบนาที ระหว่างทางจะเห็นกลุ่มสาวเล็กสาวใหญ่แต่งตัวในชุดกิโมโนสีสัน เพื่อมาชมดอกซากุระที่เริ่มทยอยกันผลิโฉมความงาม ทำให้บรรยากาศขึงขังของปราสาทกลายเป็นจุดพักผ่อนหย่อนใจ ไว้ปาร์ตี้เบาๆของชาวเมืองโคคุระในวันหยุดได้อย่างดี
มาว่าเรื่องประวัติศาสตร์กันสักหน่อย ปราสาทแห่งนี้เดิมสร้างขึ้นเมื่อปี 1602 โดยท่าน Hosokawa Tadoki ต่อมาได้ถูกเผาทำลายไปในช่วงสงครามภายใน และได้รับการบูรณะใหม่อย่างสมบูรณ์ในปี 1990 โดยในส่วนของสวนและพิพิธภัณฑ์เริ่มเปิดให้บุคคลภายนอกเข้าชมเมื่อปี 1998 ที่ผ่านมา ที่สำคัญถ้าใครรู้จัก ซามูไรนามว่า Miyamoto Musashi ท่านนี้ ที่ปราสาทแห่งนี้เองที่เป็นที่อาศัยของท่านในช่วงศตวรรศที่ 16 อีกด้วย (ถ้าใครอ่านการ์ตูนก็น่าจะพอคุ้นชื่อกันบ้างนะครับ)
ถ้าใครสนใจจะเข้าไปในตัวปราสาทเพื่อดูประวัติความเป็นมาของทั้งเมืองโคคุระและตัวปราสาทตั้งแต่ยุคสมัยเอโดะ ที่นี่คิดค่าเข้าชมคนละ 350 เยน บริเวณสวน 300 เยน และส่วนของพิพิธภัณฑ์อีก 400 เยน แต่เนื่องจากเวลาที่มีเหลือไม่มากนัก ขอชื่นชมกับความงามของสาวน้อยซากุระและบรรยากาศของงานที่จัดอยู่รอบๆปราสาทดีกว่า
ภาพปราสาทจากมุมด้านนอกที่สวยสง่างามมากๆ
เริ่มมีผู้คนมาจับจองที่นั่งปิคนิคชมซากุระกันแล้ว
ร้านค้าแผงลอยตั้งร้านกันเสร็จตั้งแต่ช่วงเช้า ถ้าเราเดินทางไปสักก่อน 10 โมงเช้า คนจะค่อนข้างบางตา แต่ถ้าไปช่วงเที่ยงเมื่อไหร่นี่ คนจะแน่นขึ้นมาทันที ถ้าใครอยากได้ภาพคู่กับซากุระคนงานก็ต้องรีบออกเดินทางกันแต่เช้าหน่อยละกันนะครับ
มุมนี้นี่สวยสุดๆไปเลย ราวกับต้นซากุระลอยได้
มุมนี้ มาตอนเช้ายังมีที่ว่างเหลือตรึม ถ้าเที่ยงเมื่อไหร่ คงไม่มีที่ให้ยืน
อีกหนึ่งมุมสุดโรแมนติก
บริเวณรอบๆยังมีห้างสรรพสินค้าและ Shopping Arcade ขนาดใหญ่อีกด้วย เมืองนี้เป็นเมืองที่เจริญมาก และ ดูไม่หนาแน่น เป็นเมืองที่น่าอยู่ เสียดายที่มีเวลาให้น้อยไปหน่อย ตั้งใจเอาไว้ว่าจะต้องกลับมาที่เมืองนี้อีกให้ได้ เพราะยังมีอีกจุดท่องเที่ยวที่่น่าสนใจและสวยๆอีกหลายที่เลย
ส่วนเมืองอื่นๆของ Kitakyushu ก็มีเมืองโดดเด่นอย่างท่าเรือ Moji แค่เดินทางมาถึงสถานี Mojiko 門司港 ก็น่าสนใจแล้ว เพราะอาคารสถานีเป็นสไตล์โบราณ ไม่เหมือนที่ไหน และเก่าแก่ที่สุดในบรรดาสถานีรถไฟในสาย Kogoshima Line แต่น่าเสียดายที่อาคารสถานีตอนนี้กำลังปรับปรุงและจะแล้วเสร็จในปี 2018 ซึ่งเราจะไม่ได้เห็นตัวอาคารจริงๆ กัน และถ้าเดินจากสถานีออกมา ไม่ไกลมากก็จะถึง Moji Port ที่มีความเป็นเอกลักษณ์ด้วยอาคารสไตล์ยุโรป สวยไม่แพ้กัน สร้างขึ้นในช่วงยุค Meiji ที่อนุรักษ์มาจนถึงปัจจุบัน
เอาไว้คราวหน้าไปเที่ยวคิวชูอีก จะเก็บรายละเอียดในส่วนอื่นมาฝากกันเพิ่มเติมนะครับ