รีวิวนี้จะพาไปเที่ยว จังหวัดเฮียวโกะ (Hyogo) กันครับ หลายคนอาจยังไม่คุ้นชื่อจังหวัดนี้ แต่ถ้าพูดถึงเมืองหลักอย่าง โกเบ ที่ติดกับโอซาก้า แน่นอนว่าไม่มีใครไม่รู้จัก แต่ถ้าบอกว่า โกเบคือทุกอย่างของเฮียวโกะ แล้วล่ะก็ เราคงยังไม่รู้จักดีนัก เพราะจังหวัดนี้กว้างใหญ่มาก ถึงขนาดที่ว่ามีอาณาเขตจากฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิคข้ามไปถึงฝั่งทะเลญี่ปุ่นเลยทีเดียว
หลายๆคนคงเคยไปเที่ยวเมืองดังๆในจังหวัดนี้อย่าง ฮิเมจิ และ คิโนซะกิอนเซ็น กันมาบ้างแล้ว เพราะสองเมืองนี้ขึ้นชื่อในเรื่องท่องเที่ยวไม่แพ้เมืองไหนในญี่ปุ่น และครั้งนี้เราจะพาไปทำความรู้จักมุมใหม่ๆในเฮียวโกะเพิ่มขึ้นอีก เผื่อว่าใครมาเที่ยวคันไซบ่อยแล้ว จะได้มีไอเดียวางแผน ได้ไปที่แปลกใหม่กันบ้าง
โดยในครั้งนี้เราบินลงสนามบินคันไซ และเช่ารถขับเที่ยวตามเมืองต่างๆ ทั้ง 5 เมือง (แต่สามารถวางแผนโดยใช้รถไฟเที่ยวก็ได้เช่นกัน) ใช้เวลาทั้งหมด 3 วันเต็มๆ ตามไปเที่ยวกันได้เลยครับ
เริ่มกันที่ เมืองอะคะชิ (Akashi) เมืองที่ตกปลาหมึกเยอะที่สุ
การเดินทาง: จากสถานี Osaka โดยสารรถไฟ JR ขบวนด่วน LTD. EXP KANI KANI HAMAKAZE ลงสถานี Akashi ใช้เวลา 40 นาที และเดินต่อมาอีก 5 นาที
ภายในตลาดมีแต่ปลาหมึกเต็มไปหมด
และเมื่อมาถึงที่นี่ มีเมนูที่ต้องลอง ก็คือ ทะมะโกะยะกิ (Tamagoyaki) ที่ชื่อคล้ายทะโกะยะกิ แต่ว่าไม่ใช่สิ่งเดียวกัน มีอีกชื่อเรียกตามชื่อเมือง
- เวลาทำการ: 10.00-19.00 น.
- เว็บไซต์
โดยจะใช้ไข่ล้วนๆเป็นวัตถุดิบหลักไม่มีแป้ง มาย่างเป็นม้วนกลมๆ แล้วสอดไส้ ปลาหมึกทะโกะ และ ปลาไหลอะนะโกะ รสสัมผัสช่างนุ่มนวล อร่อยจนกินหมดเรียบ 10 ลูกในพริบตา จานนี้สนนราคาเพียง 700 เยนเท่านั้น และอย่าลืมสั่งข้าวปลาหมึกทะโกะเมชิ (Takomeshi) มาทานคู่กันด้วยนะครับ จานเล็ก 400 เยน ใหญ่ 700 เยน
ฝาท่อเมืองอะคะชิ
นอกจากนี้ยังมีสินค้าที่ทำจากปลาหมึกมากมายให้เลือกซื้อ อีกหนึ่งเมนูที่น่าลองก็คือ
มาเที่ยว เมืองฮิเมจิ (Himeji) กันต่อ ซึ่งสามารถขึ้นรถไฟขบวนด่วน
แน่นอนว่ามาถึงเมืองนี้ จะมีอะไรเด่นไปกว่าปราสาทฮิ
ในอดีตเราไม่สามารถเข้ามาเดินเล่นอย่างนี้ได้ ถ้าไม่ได้สืบถอดเชื้อสายของบุคคลสำคัญ แต่ทางรัฐบาลได้ถือโอกาสเฉลิมฉลองที่เมืองฮิเมจิครบรอบ
- เวลาทำการ: 9.00-17.00 น.
- ค่าเข้าชม: 300 เยน
- เว็บไซต์
- การเดินทาง: จากสถานี Himeji เดิน 15 นาที
บริเวณสวน Oyashiki no niwa (Garden of Lord)
ช่วงนี้ดอกบ๊วยเริ่มผลิดอกส
เดินต่อมาอีกไม่ไกลก็ถึง ปราสาทฮิเมจิ (Himeji Castle) ฉายาปราสาทนกกระเรียนขาว ที่อยู่มาทุกยุคตัวจริงเสีย
ถ้ามีโอกาสต้องเข้ามาชมว่าป
- เวลาทำการ: 9.00-17.00 น. (เข้าได้ถึง 16.00 น.)
- ค่าเข้าชม: 1,000 เยน (แต่ถ้าซื้อตั๋วคอมโบกับสวน
โคโคเอ็น จะเหลือ 1,040 เยน ประหยัดไป 260 เยน) - เว็บไซต์
มุมยอดนิยมในการถ่ายละคร ถ้ามาช่วงเดือนเมษายน บริเวณนี้จะมีต้นซากุระบานตลอดทาง
ภายในยังคงโครงสร้างดั้งเดิมไว้
ขึ้นมาถึงด้านบน จะเป็นหอคอยชมวิว มองเห็นได้ไกลถึงสถานี HImeji
ในช่วงสงคราม ปราสาทฮิเมจิรอดจากระเบิดมาได้ เพราะว่าปกคลุมปราสาทไว้ด้วยสีดำ
เดินจนเมื่อย ก็ต้องขอพักกันบ้าง แต่จะพักแบบธรรมดาคงไม่ได้ ขอแนะนำ ร้านอาหารที่วิวดีที่สุดในเมือง ที่ร้าน Castle Egret Mille ดื่มด่ำวิวปราสาทฮิเมจิแบบเ
- เวลาทำการ: มื้ออาหารเย็น 17.00-21.30 น.
- การเดินทาง: เดินจากปราสาทฮิเมจิประมาณI
7 นาที - เว็บไซต์
มื้อเย็นจบไป แต่ค่ำคืนนี้เรายังไม่จบง่า
- เวลาทำการ: 18.00-23.00 น
- เว็บไซต์
ถ้าใครยังไม่กลับโอซาก้า จะเที่ยวแถบนี้ต่อในวันรุ่ง
ใครว่าแถบคันไซไม่มีลานสกี จังหวัดเฮียวโกะนี้นั้น ถ้ายิ่งขึ้นเหนือมาเรื่อยๆ ก็จะเป็นภูเขาซึ่งมีทั้งออน
รีสอร์ทมิเนะยะมะโคเก็น (Mineyama Kogen Resort) ที่ เมืองคันซะกิ (Kanzaki) เป็นอีกหนึ่งสกีรีสอร์ทที่สามารถมาจากโอซาก้า หรือสน
มาแต่ตัว แล้วมาเช่าอุปกรณ์เล่นสกี สโนว์บอร์ด รวมไปถึงกิจกรรมทางหิมะได้ที่นี่ โดยเฉพาะถ้ามีเด็กๆ ก็สามารถพามาได้ เพราะว่าทางรีสอร์ทแบ่งโซนที่เป็น Kid’s park ไว้ได้น่าสนุกมากๆครับ
- การเดินทาง: จากสถานี Himeji โดยสารรถไฟ LTD. EXP KANI KANI HAMAKAZE ลงที่สถานี Teramae ใช้เวลา 30 นาที จากนั้นมีบริการรถชัทเทิลบั
สมาส่งที่รีสอร์ท - เว็บไซต์
โซน Kids Park สำหรับเด็กๆ ผู้ใหญ่ก็เล่นได้ด้วยนะ
มีร้านอาหารให้เลือกทานหลากหลายท่ามกลางหิมะ
และมีบาร์ให้บริการในช่วงกลางคืนด้วย
ในส่วนของบริเวณที่พัก Mineyama Kogen Resort
บรรยากาศจากระเบียงห้องพัก สวยแทบขาดใจ
มีออนเซ็นให้บริการ
มีกิจกรรมใส่รองเท้าเดินบนหิมะให้สนุกกันด้วย
วิวด้านนอกโรงแรม
ทริปนี้มาเที่ยวญี่ปุ่น สิ่งที่แอดมินไม่พลาดพกมาด้
เล่นหิมะแล้วทำให้อยากซอฟท์
มื้อเที่ยงไฮไลท์ประจำวัน คือ ทานข้าวสะท้านความหนาวในบ้า
เมนูหลักของที่นี่ก็คือ เนื้
และที่เมืองนี้ก็ยังเป็นที่
- เว็บไซต์
- การเดินทาง: จากสถานี Toyooka โดยสารรถไฟ JR สาย San’in Main Line ลงที่สถานี Amarube ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง (หรือถ้ามาจากฝั่ง Tottori ก็ได้เช่นกัน)
ในอดีตเคยมีเรื่องเศร้า เนื่องจากสะพานที่เป็นรางรถ
ทางการจึงสร้างรางรถไฟขึ้นม
แวะช้อปกระเป๋า ที่ถนนสายกระเป๋าชื่อดัง คะบังสตรีท (Caban Street) ของ เมืองโทโยโอกะ (Toyooka) ที่ขึ้นชื่อเรื่องคุณภาพของ
- เว็บไซต์
- การเดินทาง: จากสถานี Toyooka เดินประมาณ 15 นาที
ร้านที่เราเลือกไปชมในครั้งนี้ เป้นแบรนด์ดังชื่อ ARTPHERE
กระเป๋าลายดาร์ธเว
ความน่ารักของถนนสายนี้ อยู่ที่ ตู้กดกระเป๋าผ้าอัตโนมัติ ใครไปมาก็ต้องแวะมาถ่ายรูปที่นี่
จากนั้นมาเที่ยวต่อที่อุทยา
- เว็บไซต์
- การเดินทาง: จากสถานี Toyoka โดยสารรถไฟ JR ลงสถานี Gembudo ใช้เวลา 6 นาที
การก่อตัวของหินเกิดจากแมกม่าที่ไหลลงมาแล้วปะทะกับความเย็น จนแข็งตัวตกผลึกเป็นรูปทรงหกเหลี่ยม (คล้ายกับกระดองเต่า) ทอดตัวยาวเป็นเสาแนวนอน (มีลักษณะคล้ายงู) จึงเป็นที่มาของชื่อเรียกว่า เก็นบุ (Genbu)
ปิดท้ายกันที่เมืองน้ำพุร้อ
- การเดินทาง: จากสถานี Toyooka โดยสารรถไฟ JR ขบวน LTD. EXP KONOTOR ลงสถานี Kinosaki Onsen ใช้เวลา 10 นาที
- ดูข้อมูลอัพเดทได้ที่ >> Visit Kinosaki
บริเวณด้านหน้าสถานี
ซะโตะโนะยู (Satonoyu)
แวะทานมื้อกลางวันที่ร้าน Okesho Sengyo Kaichuen
- เวลาทำการ: 9.00-18.00 น.
- เว็บไซต์
นอกจากการเดินแช่ออนเซ็นทั้
คาเฟ่เปิดใหม่ แนะนำว่าต้องไปนั่งให้ได้
จิโซยู (Jisouyu)