การหลีกหนีจากความวุ่นวาย มาสู่บรรยากาศอันแสนสงบ ท่ามกลางธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ และงดงาม เป็นการเติมพลังงานด้านบวก ให้กับชีวิตได้ไม่น้อยเลยทีเดียว ที่ “HOSHINOYA Karuizawa” รีสอร์ทสไตล์เซน กลางป่าแสนสงบ ในเขตเมืองคะรุอิซะวะ จังหวัดนะงะโนะ จะมอบประสบการณ์การพักผ่อนสุดแสนพิเศษ ให้กับทุกคนได้ไปสัมผัสกัน
เมืองคะรุอิซะวะ (Karuizawa) เป็นเมืองพักผ่อนตากอากาศยอดนิยมของคนญี่ปุ่น เนื่องจากมีธรรมชาติอันบริบูรณ์ มีอากาศที่สะอาด และอยู่ไม่ไกลจากโตเกียว หากเดินทางด้วยรถไฟความเร็วสูง ก็จะใช้เวลาเพียงชั่วโมงเศษเท่านั้น และสำหรับใครก็ตาม ที่อยากใกล้ชิดกับธรรมชาติ แต่ไม่ต้องการเดินทางไกล “HOSHINOYA Karuizawa” จึงเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์ทุกด้าน
บริเวณรีสอร์ท แวดล้อมไปด้วย ลำธาร, ป่าเขา, และธรรมชาติ ความรู้สึกของก้าวแรกที่เข้ามาถึง เหมือนเราได้ตัดขาดออกจากโลกภายนอกในทันที เกิดความผ่อนคลายตั้งแต่เริ่มต้น เอกลักษณ์ของที่นี่ คือ ห้องพักที่ผสมผสาน “การเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติ” ที่อยู่รวมกันเหมือนเป็นหมู่บ้านเล็กๆ ซึ่งมีให้เลือก 3 ประเภท ได้แก่ Mizunami (ห้องพักวิวน้ำ), Yamaroji (ห้องพักวิวภูเขา) และ Niwaroji (ห้องพักวิวสวน) ตามความชอบของแขกผู้เข้าพัก
สำหรับสถาปัตยกรรมของอาคารต่างๆ ล้วนได้รับอิทธิพลจากงานออกแบบร่วมสมัยของญี่ปุ่น (Contemporary Japan) กลิ่นอายความเป็นญี่ปุ่น จึงผสมผสานอยู่ในความงดงามของการตกแต่งสถานที่ กับ การธำรงรักษาสิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติ ที่มีอยู่เดิมไว้ ไม่ว่าจะเป็น เส้นทางน้ำไหล ความสูงชันของพื้นที่ แบบขั้นบันได หรือ ต้นไม้ใหญ่ที่เก่าแก่ ได้อย่างลงตัว
กิจกรรมที่ห้ามพลาดและถือเป็นไฮไลท์ของที่นี่ ได้แก่
- การลิ้มรสอาหารชุดไคเซกิ (Kaiseki) ซึ่งคัดสรรวัตถุดิบมาจากของดีประจำท้องถิ่น และตกแต่งอย่างพิถีพิถัน
- การแช่ออนเซ็น Meditation Bath และ Tombo no yu ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ในคอนเซ็ปต์ “การเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติ”
- การเดินเท้า ซึมซับธรรมชาติ ของระบบนิเวศในแถบนี้ สังเกตุความเป้นอยู่ของสัตว์ มีความพิเศษอยู่ที่ดาวเด่น อย่าง มุซะซาบิ (Musasabi) หรือ กระรอกบินยักษ์ญี่ปุ่น
HOSHINOYA Karuizawa เปิดให้บริการทุกฤดู ซึ่งแต่ละช่วงเวลาก็จะมีความสวยงาม ในแบบที่แตกต่างกันออกไป อย่างช่วงที่เราเดินทางไปเป็นฤดูร้อน แต่อากาศกลับเย็นสบาย ไม่อบอ้าว และยังสดชื่นด้วยความเขียวขจีของต้นไม้ นอกจากนี้ในช่วงฤดูใบไม้ร่วง และ ฤดูหนาว ก็มีบรรยากาศที่งดงามต่างกันออกไป เรียกได้ว่า งดงามทุกฤดู
การเดินทาง: จากสถานี Tokyo ขึ้นรถไฟชินคังเซ็น ลงที่สถานี Karuizawa ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 15 นาที หลังจากนั้น ให้นั่ง Shuttle Bus ของโรงแรมไปยังที่พัก (สามารถตรวจสอบรอบรถได้ >> ที่นี่)
เว็บไซต์
สนนราคาเริ่มต้นต่อห้อง ประมาณ 6,000 บาท (ราคาเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาลและประเภทห้อง) สามารถตรวจสอบราคาห้องพัก เพื่อหาราคาพิเศษได้ และยิ่งถ้าจองล่วงหน้า (อย่างน้อย 90 วัน 2 คืนขึ้นไป) ก็จะมีส่วนลดพิเศษให้อีกด้วย >> เช็คห้องว่างและราคาได้ที่นี่
ที่บริเวณจุดรับรอง มีการแสดงดนตรีแบบเซ็น เพื่อให้จิตใจผ่อนคลาย
บริเวณห้องโถงหลัก ที่มีทั้ง จุดรับกุญแจ, ห้องอาหาร และ มุมอ่านหนังสือ ไว้ให้บริการ
รถรับส่ง เราระหว่าง จุดรับรอง กับ ห้องพัก
Mizunami ห้องพักวิวน้ำ ที่ถือว่าเป็นไฮไลท์ของรีสอร์ทแห่งนี้
การออกแบบจะรักษาสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติที่มีอยู่เดิมไว้ ควบคู่กับงานสถาปัตยกรรมแบบร่วมสมัยของญี่ปุ่น
ห้องอาหารหลัก Sonmin Shokudo ที่ออกแบบโดยใช้นาขั้นบันไดเป็นแรงบันดาลใจ
ความโดดเด่นคือหน้าต่างบานยักษ์ที่ทำให้ซึมซับธรรมชาติได้อย่างเต็มที่
ชุดอาหารเช้า
สามารถเลือกออกมาทานของหวานปิดท้ายที่บริเวณระเบียงด้านนอกได้
ชุดอาหารค่ำแบบไคเซกิ
คัดสรรวัตถุดิบท้องถิ่นประจำฤดูกาล ตกแต่งโดยใช้เเรงบันดาลใจจากสภาพแวดล้อมของรีสอร์ท
ในครั้งนี้เราได้พักห้องแบบ Mizunami
ภายในห้องพักชั้นล่าง ระเบียงติดกับบ่อน้ำ
ตกแต่งแบบเรียบง่าย โอ่โถง สบายตา
ห้องพักชั้นบน จะมีความเป็นส่วนตัวกว่า ได้ชมวิวจากมุมสูง
เราสามารถเลือกให้พนักงานนำอาหารเช้า มาเสิร์ฟถึงที่ห้องพักได้เลย
ห้องอาบนํ้าภายในห้องพักส่วนตัว
อาณาเขตของรีสอร์ทกว้างขวางมากๆ แนะนำว่าให้ออกมาเดินเล่นรับลมกัน
เดินออกจากห้องโถงหลักมาหน่อย ก็จะมีโซนให้นั่งเล่นสบาย ๆ ให้สัมผัสกับธรรมชาติแบบนี้
ช่วงบ่ายจะมีขนมหวานและชาเขียวให้บริการฟรี
“Tombo no yu” ออนเซ็นบรรยากาศดี วิวสวย ที่แขกผู้มาพักสามารถใช้บริการได้ฟรี
บ่ออาบน้ำหลักที่เปิดรับธรรมชาติ
“Meditation Bath” อีกหนึ่งบ่อออนเซ็นสุดพิเศษ ที่สามารถเข้าร่วมกิจกรรมได้
กิจกรรม Flying Squirrel Watching Tour สำหรับคนรักสัตว์
การเดินป่าเพื่อตามหา มุซะซาบิ (Musasabi) หรือ กระรอกบินยักษ์ญี่ปุ่น
ก่อนออกเดินทางกับคณะ ต้องทำการบรีฟโดยผู้เชี่ยวชาญกันซะก่อน
โฉมหน้าของมุซะซะบิผู้น่ารัก
กิจกรรม Breath In, Streatch out กายบริหารกึ่งทำสมาธิแบบดั้งเดิม สามารถเข้าร่วมได้ในช่วงเช้า
บรรยากาศที่ต่างกันสุดขั้ว ในฤดูร้อน และ ฤดูหนาว
ช่วงพลบค่ำ แนะนำให้เดินขึ้นมายังจุดชมวิว เพื่อถ่ายภาพในบรรยากาศแบบนี้
ช่วงใบไม้เปลี่ยนสี บรรยากาศจะสวยงามไม่แพ้ฤดูไหนๆ
ส่วนช่วงฤดูหนาว ก็จะได้สัมผัสความขาวโพลนของหิมะแบบนี้