Kansai with Hankyu ตะลุยเที่ยวคันไซกับฮังคิว ตอน 3 ชิงะ (Shiga)

การเดินทางในรีวิวสุดท้ายนี้จะพาไปตะลุยกันที่จังหวัดชิงะ (Shiga) สืบเนื่องต่อจากรีวิวครั้งที่แล้ว ที่พาไปบุกตะลุยจังหวัดเฮียวโงะ และเกียวโตทางตอนเหนือ เพื่อสัมผัสกับเส้นทางอันซีน

อ่านรีวิวได้ที่นี่ >> ตอน 1 เฮียวโงะ / ตอน 2 เกียวโตเหนือ

เส้นทางของสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รีวิวมาทั้ง 3 ตอนนี้ เหมาะกับคนที่ชอบขับรถเที่ยว ซึ่งจะสามารถเดินทางได้อิสระมากกว่า เพราะถ้าไปเองโดยรถขนส่งสาธารณะ จะทำให้เสียเวลาขึ้นรถไฟต่อรถบัสกันพอสมควร

แต่ถ้าไม่ถนัดขับรถ แนะนำให้เลือกซื้อ ทัวร์ไปเช้าเย็นกลับจากเกียวโตหรือโอซาก้า จะทำให้ชีวิตของเราสะดวกขึ้นอีกเยอะเลยครับด้วยบริการ Day Tour จาก Hankyu Travel ที่แสนจะง่ายและสะดวกสบาย ทัวร์ไปเช้าเย็นกลับ สำหรับท่องเที่ยวในคันไซ เดินทางจากโอซาก้า ราคาประหยัด เริ่มต้นเพียง 3,990 เยน 

สามารถเลือกดูทัวร์ที่ถูกใจได้ที่นี่ >> Hankyu Travel

หรือติดต่อทางเฟซบุคแฟนเพจ >> ฮังคิวทราเวลไทยเเลนด์


เริ่มต้นทริปของวันนี้ที่ เมืองโอะมิฮะจิมัง (Omihachiman) เมืองเล็กๆแต่ทว่ามีเสน่ห์อย่างมากมาย ตั้งอยู่ทางด้านทิศตะวันออกของทะเลสาบบิวะ ในจังหวัดชิงะ (Shiga) ไม่ไกลจากจังหวัดเกียวโตมากนัก

เมืองเก่าแห่งนี้ยังคงอนุรักษ์บ้านเรือนในสมัยอดีตไว้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังเป็นที่ตั้งของสถานที่ทางประวัติศาสตร์มากมาย ไม่ว่าจะเป็น วัดและศาลเจ้ามากมาย บริเวณถนนเส้นชินมะจิโดะริ (Shinmachi-dori) เป็นถนนเส้นหลักของเมืองเรียงรายไปด้วยบ้านไม้เก่าแก่ตั้งแต่ยุคสมัยเอะโดะ บางหลังเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ให้เข้าชม บางหลังดัดแปลงให้เป็นร้านค้า ด้วยเหตุนี้ทำให้เขตพื้นที่ริมแม่น้ำแห่งนี้ได้รับเกียรติเลือกให้เป็นพื้นที่ภูมิทัศน์ทางวัฒนธรรมที่มีความสำคัญในปีค.. 2006 และยังถูกใช้ให้เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์และละครอีกมากมายหลายเรื่อง

นักท่องเที่ยวสามารถใช้เวลาเดินเล่นหรือปั่นจักรยานชมเมือง เมื่อมาจนสุดถนนสามารถนั่งเรือนำเที่ยวที่พานักท่องเที่ยวชมความงามของบ้านเรือนสองฝั่งคลองฮะชิมานโบะริ (Hachimanbori) คลองที่ขุดขึ้นในสมัยโบราณเพื่อใช้เป็นการขนส่งระหว่างทะเลสาบบิวะกับย่านเมืองเก่า

แวะนั่งร้านขนมญี่ปุ่นเก่าแก่ ชิมขนมโบราณ คู่กับถั่วแดงร้อนแก้หนาว


แวะเดินชมพิพิธภัณฑ์กระเบื้องเคลือบโบราณคะวะระ (Kawara Hachiman Tiles Museum) พิพิธภัณฑ์แห่งนี้จัดแสดงประวัติและชิ้นส่วนของกระเบื้องโบราณ

พิพิธภัณฑ์กระเบื้องเคลือบโบราณคะวะระ (Kawara Hachiman Tiles Museum)
ค่าเข้าชม: ผู้ใหญ่ 300 เยน เด็ก 200 เยน
เวลาเปิดปิด: 9.00 – 16.00 .
วันปิดทำการ: วันจันทร์ และในช่วงเทศกาลปีใหม่ (เปิดทุกวันในช่วงเดือนพฤษภาคม, มิถุนายน, ตุลาคมและพฤศจิกายน)
เว็บไซต์ : Kawara Museum


บริเวณเชิงเขาฮะชิมันจะมีสถานีกระเช้าไฟฟ้าให้บริการแก่นักท่องเที่ยว เพื่อขึ้นไปยังยอดเขาเพื่อชมทัศนียภาพที่สวยงามของทะเลสาบบิวะ ก่อนที่จะถึงสถานีกระเช้าไฟฟ้า เป็นที่ตั้งของศาลเจ้าเก่าแก่อย่างศาลเจ้าฮิมุเระ ฮะชิมันกุ (Himure Hachiman-gu Shrine)

ศาลเจ้าแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นในปีค.. 131 มีประวัติศาสตร์มายาวนาน แต่เดิมตั้งอยู่บนภูเขาฮะชิมัน จากนั้นได้ทำการย้ายมาตั้งอยู่ในสถานที่ปัจจุบัน บริเวณศาลเจ้ามีอาคารเก่าแก่อยู่หลายหลัง เช่นอาคาร kagura-den ใช้สำหรับพิธีฟ้อนรำและแสดงดนตรีของลัทธิชินโต เดินขึ้นบันไดหินไปทางด้านหลังจะพบกับอาคาร Honden ซึ่งเป็นอาคารหลักของศาลเจ้าฮิมุเระ ฮะชิมันกุ ใช้เป็นที่ประดิษฐานของเทพเจ้าแห่งสงคราม

หน้าอาคารฮอนเด็นจะมีกระดิ่งอันใหญ่แขวนอยู่หลายอัน เพื่อให้ผู้มาเยือนใช้สักการะเทพเจ้า ระหว่างปียังมีการจัดงานเทศกาลยิ่งใหญ่อย่าง Sagicho Matsuri bonfire และ Hachiman Matsuri อีกด้วย

ศาลเจ้าฮิมุเระ ฮะชิมันกุ (Himure Hachiman-gu Shrine)
ค่าเข้าชม: ไม่เสียค่าใช้จ่าย
เวลาเปิดปิด: 9.00 – 17.00 .
วันปิดทำการ: เปิดทำการทุกวัน
เว็บไซต์: Himure Hachimangu

การเดินทาง: จากสถานีเกียวโต โดยสารรถไฟสาย JR Tokaido หรือ Sanyo Main Line ไปลงที่สถานี Omihachiman ใช้เวลาประมาณ 40-50 นาที


สำหรับนักเดินทางอย่างเราที่ต้องการการอัพเดทข้อมูลตลอดเวลา ทริปนี้ได้ตัวช่วยในการอัพเดทตลอดทั้งทริปอย่างไม่มีสะดุดด้วยพ็อกเก็ตไวไฟจาก Wi-Ho ที่ไม่ว่าจะเดินทางไกลแค่ไหน สัญญาณก็แรงดีไม่มีตก รับประกันคุณภาพครับ จองได้ที่นี่ >>Wi-Ho Thailand หรือติดต่อแฟนเพจ WiHo ประเทศไทย


จากนั้นเดินทางไปชมความงามของปราสาทฮิโกเนะ (Hikone Castle) ตั้งอยู่ไม่ไกลจากทะเลสาบบิวะ ปราสาทแห่งนี้เป็น 1 ใน 12 ปราสาทแท้ดั้งเดิมที่รอดพ้นจากการถูกทำลายในช่วงยุคสงครามศักดินา นอกเหนือจากตัวปราสาทแล้ว คูเมือง กำแพง ป้อมรักษาความปลอดภัย และประตูทางเข้าก็ยังคงอยู่ในสภาพเดิมไม่เปลี่ยนแปลง ชั้นบนสุดของปราสาทสามารถเพลิดเพลินไปกับทัศนียภาพเหนือบริเวณปราสาทและเมืองฮิโกเนะ หรือสามารถขึ้นไปบนยอดของปราสาทได้โดยผ่านทางลาดเกลียวของสะพานไม้ นอกจากนี้ยังมีป้อมปราการ ระฆังขนาดใหญ่ที่ใช้ตีบอกเวลาในสมัยก่อน ร้านค้าขนาดใหญ่ตั้งอยู่ในบริเวณใกล้ประตูใหญ่ของปราสาท

ฐานเนินปราสาทเป็นที่ตั้งของ พิพิธภัณฑ์ปราสาทฮิโกเนะ (Hikone Castle Museum) ซึ่งเป็นอาคารที่น่าสนใจเนื่องจากบางส่วนมีรูปแบบการสร้างเหมือนปราสาทหลัก สมัยก่อนเคยเป็นหน่วยงานราชการของขุนนาง และได้รับการบูรณะใหม่ในช่วงปี 1980 ภายในมีห้องนิทรรศการแสดงสมบัติของครอบครัวตระกูลต่างๆ อาวุธ เกราะ ชุดกิโมโน เครื่องดนตรี และเอกสารอื่นๆ บริเวณรอบๆปราสาทก็คล้ายกับปราสาทแห่งอื่นๆ คือมีต้นซากุระประดับประดาเป็นที่นิยมในการชมดอกซากุระในฤดูใบไม้ผลิ ประมาณต้นเดือนถึงกลางเดือนเมษายน นอกคูเมืองด้านในเป็นที่ตั้งของ สวนเก็นคิวเอน (Genkyuen Garden)

ปราสาทฮิโกเนะ (Hikone Castle)
ค่าเข้าชม: ค่าเข้าชมตัวปราสาทฮิโกเนะ + สวน Genkyuen : ผู้ใหญ่ 600 เยน เด็ก 200 เยน
ค่าเข้าชมเฉพาะสวน Genkyuen : ผู้ใหญ่ 200 เยน เด็ก 100 เยน
ค่าเข้าชมตัวปราสาทฮิโกเนะ + สวน Genkyuen + พิพิธภัณฑ์ปราสาทฮิโกเนะ : ผู้ใหญ่ 1000 เยน เด็ก 350 เยน
เวลาเปิดปิด: 8.30 – 17.30 . (เข้าชมรอบสุดท้ายก่อน 17.00 .)
วันปิดทำการ: เปิดทำการทุกวัน
เว็บไซต์Hikone Castle

หลังจากเดินชมความสวยงามของปราสาทฮิโกเนะเรียบร้อยแล้ว เดินต่อไปทางประตูปราสาททางด้านทิศตะวันตกเฉียงใต้อีกไม่ไกลจะพบกับบริเวณย่านกำแพงเมืองเก่า ซึ่งเป็นที่ตั้งของย่าน Yume Kyobashi Castle Road ถนนย่านช้อปปิ้งที่ผสมผสานกับความเป็นเมืองปราสาทเก่าในยุคสมัยเอโดะได้อย่างกลมกลืนและลงตัว นอกจากร้านรวงต่างๆมากมายนักท่องเที่ยวยังสามารถมานั่งพักขาที่คาเฟ่ ร้านอาหารแล้วช้อปปิ้งสินค้าที่ระลึกได้อีกด้วย

ย่านเมืองปราสาทเก่า Yume Kyobashi Castle Road
เวลาเปิดปิด: 10.00 – 17.30 .
วันปิดทำการ: ร้านค้าส่วนใหญ่ปิดวันอังคาร
การเดินทาง: จากปราสาทฮิโกเนะ เดินไปทางประตูปราสาททางด้านฝั่งทิศตะวันตกเฉียงใต้


อีกหนึ่งสถานที่ไฮไลท์ที่อยากจะแนะนำให้เพื่อนๆได้ไปชมเมื่อมีโอกาสเดินทางมายังจังหวัดชิงะ เราจะพาเดินทางไปชมวิวทะเลสาบบิวะ จากด้านบนจุดชมวิวที่ The Biwako Terrace

ทะเลสาบบิวะ (Lake Biwa) เป็นทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของเกียวโตประมาณ 10 กิโลเมตร มีพื้นที่รวมประมาณ 670 ตารางกิโลเมตรเส้นรอบวงประมาณ 235 กิโลเมตร มีความลึกโดยเฉลี่ยประมาณ 41เมตร ทะเลสาบแห่งนี้ยังเป็นแหล่งทรัพยากรที่อุดมสมบูรณ์และมีความสำคัญในแวดวงอุตสาหกรรม ด้วยสภาพแวดล้อมอันอุดมสมบูรณ์ เป็นแหล่งรวมสัตว์และพืชน้ำมากกว่า 50 สายพันธุ์ นอกจากนี้ทะเลสาบบิวะแห่งนี้ยังเป็นหนึ่งในทะเลสาบที่เก่าแก่ที่สุดในโลก โดยมีอายุมากกว่าสี่ล้านปี จนได้รับการขนานนามว่าเป็น “Mother Lake Biwa Of Japan”

จุดชมวิว The Biwako Terrace ตั้งอยู่ใน Biwako Valley สถานที่ชมวิวแบบพาโนรามิค ร้านอาหารและคาเฟ่ ชื่นชมวิวสวยแทบหยุดหายใจพร้อมบรรยากาศเกินคำบรรยาย สำหรับใครที่ชื่นชอบสถานที่อันซีน แนะนำว่าไม่ควรพลาดสถานที่แห่งนี้เลยครับ รับรองว่าจะไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน เพียงโดยสารกระเช้าโรปเวย์เพียงแค่ 5 นาที

The Biwako Terrace
ค่าเข้าชม: รวมค่าขึ้นกระเช้า ผู้ใหญ่อายุ 13 ปีขึ้นไป 2200 เยน, เด็กอายุ 7-12 ปี 900 เยน และเด็กอายุ 3-6 ปี 500 เยน
เวลาเปิดปิด: วันจันทร์ ศุกร์ 09.30 – 17.00 .
วันเสาร์ อาทิตย์และช่วงวันหยุดฤดูร้อน 09.00 – 17.00 .
วันปิดทำการ: เปิดทำการทุกวัน โดยส่วนของด้านในให้บริการตลอดทั้งปีและส่วนของระเบียงด้านนอกจะปิดให้บริการในช่วงฤดูหนาวที่หิมะตกจนถึงช่วงต้นเดือนมีนาคม
เว็บไซต์: Biwako Terrace

การเดินทาง โดยสารรถไฟสาย JR Kosai จากสถานีเกียวโต ใช้เวลา 50 นาที และจากสถานีโอซาก้า ใช้เวลา 80 นาที ลงที่สถานี Biwako Valley จากนั้นโดยการกระเช้าขึ้นไปยังจุดชมวิว

Biwa LakeHankyu TravelHikone CastleJapanKansaiOmihachimanShigaThe Biwako Terraceคันไซชิงะปราสาทฮิโกเนะ