ในปี 2014 เทศกาล Fuji Shibazakura 富士芝桜祭りเริ่มขึ้นตั้งแต่วันที่ 19 เมษายน แล้วก็จริงแต่ปีนี้เนื่องจากสภาพอากาศทำให้ดอกพิงค์มอสยังไม่บานในช่วงต้น กว่าจะเริ่มบานก็ดีเลย์ไปถึงช่วงต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ทำให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวต่างชาติและชาวญี่ปุ่นเองต่างพากันมาชมกันอย่างคับคั่ง ทั้งๆที่พ้นช่วงวันหยุดยาวของคนญี่ปุ่นอย่าง Golden Week ไปแล้ว และยังสามารถไปชมได้อย่างต่อเนื่องจนถึง 1 มิถุนายน
ทำความรู้จักกับ Pink Moss ได้ที่นี่ >>> Fuji Shibazakura
การเดินทางไปชมทุ่งพิงค์มอส Shibazakura เหมือนกับการเดินทางไปชมภูเขาฟูจิและทะเลสาบทั้งห้า ตั้งต้นจากสถานีชินจูกุ และเลือกวิธีการเดินทางวิธีไหนก็ได้ให้ไปถึงสถานี Kawaguchiko หลังจากนั้นทุกคนจะมารวมตัวกันที่ป้ายรถบัสด้านหน้าสถานี เพื่อนั่งรถบัสที่ทางสวนจัดไว้สำหรับเดินทางไปชมทุ่งพิงค์มอสโดยเฉพาะ
สำหรับช่วงเทศกาลนั้นจะพิเศษกว่าช่วงอื่น เพราะจะมีทางเลือกมากขึ้น สำหรับการเดินทางด้วยรถไฟจากสถานี Shinjuku ไปสถานี Kawaguchiko เพื่ือนๆคนไหนที่ถือ JR Pass หรือ JR Kanto Pass ก็สามารถเลือกขึ้นได้ตามสะดวก ขึ้นอยู่กับตารางเวลารถออกที่นั่งว่างด้วย
- วิธีที่ 1 ขบวน Limited Express Kaiji หรือ Asuza ลงที่สถานี Otsuki (2,770 เยน) และเปลี่ยนขบวน ต่อรถไฟ Fujikyuko (1,140 เยน สำหรับขบวนธรรมดา) JR Pass ครอบคลุมถึงแค่สถานี Otsuki
- วิธีที่ 2 ถ้าไปตรงกับวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ แนะนำให้ขึ้นขบวน Holiday Rapid วิ่งตรงยาวถึง Kawaguchiko โดยไม่ต้องเปลี่ยนขบวน สำหรับคนที่ใช้ JR Pass จะต้องชำระเพิ่มส่วนต่างระหว่างจากสถานี Otsuki ถึง Kawaguchiko ปีนี้วิ่งเฉพาะวันที่ 11,12 และ 18,19 พ.ค. แต่จะเต็มไวมาก เพราะจะมีวันละ 1 รอบ (ขาไปออก 8.14 ถึง 10.36 ส่วนขากลับออก 16.00 ถึง 17.59)
- วิธีที่ 3 ส่วนถ้าอยากวิ่งตรง ไม่ต้องเปลี่ยนขบวน สามารถขึ้น Ozashiki Shibazakura Festival ได้ด้วยเช่นกัน ต้องสำรองที่นั่งล่วงหน้า ตรวจสอบตารางเวลาได้จากเจ้าหน้าที่ และจะต้องจ่ายค่าที่นั่งเพิ่มอีกคนละ 1500 เยนต่อเที่ยว
หลังจากนั่งรถไฟแล้ว สิ่งที่จะต้องซื้อเพิ่มคือตั๋วรถบัส Shibazakura Liner ให้บริการจากสถานี Kawaguchiko ใช้เวลาประมาณ 30 นาที มีตั๋วคอมโบจำหน่ายราคา 1,900 เยน โดยรวมค่ารถไป-กลับ และค่าเข้าชมไว้เรียบร้อยแล้ว
สำหรับการเดินทางในวันนี้ ตอนแรกตั้งใจว่าจะขึ้นขบวน Holiday Rapid แต่เนื่องจากที่นั่งเต็มเลยต้องใช้วิธีที่ 1 โดยนั่งรถไฟมาเปลี่ยนขบวนที่สถานี Otsuki แทน ดังนั้นเพื่อไม่ต้องเสียค่ารถไฟและรถบัสแยกหลายต่อ แนะนำให้ซื้อตั๋ว Shibazakura Festival Round trip ticket โดยจะรวมค่ารถไฟไปกลับ Otsuki<=>Kawaguchiko ค่ารถบัส Shibazakura Line จาก Kawaguchiko ไปทุ่งพิงค์มอส และค่าเข้าชมไว้หมดแล้ว ราคา 3,150 เยน
ตารางเวลารถไฟ Fujikyuko ออกจากสถานี Otsuki ไป Kawaguchiko
(ตารางสีฟ้าคือวันธรรมดา ตารางสีชมพูคือวันหยุด)
เดินทางถึงสถานี Kawaguchiko แล้ว ไปตรงกับวันหยุดพอดี คนเยอะมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ด้านหน้าสถานี Kawaguchiko แถวยาวเหยียดที่เห็นนั้นคือ ทุกคนจะไปชมทุ่งพิงค์มอสกันทั้งหมดเลยครับ >_<
ระหว่างยืนรอก็หันไปทักทายฟูจิซังได้ วันนี้ฟ้าเปิด เห็นฟูจิซังชัดมาก
Shibazakura Festival Round trip ticket จะมีตั๋วมา3ใบ (สีชมพู) แยกใช้ตามนี้ ใบแรก ขาไปจาก Otsuki ใบที่สอง ให้นำไปแลกที่จุดขายตั๋วตรงป้ายรถบัสเบอร์ 7 ที่สถานีคาวากุจิโกะ จะได้เป็นบัตรสีฟ้ามา มี 3 ส่วนอีกเหมือนกัน เอาไว้ใช้ เดินทางไปกลับและเข้าสถานที่จัดงาน ส่วนใบสุดท้าย เก็บไว้ใช้ตอนขากลับไปที่สถานี Otsuki ครับ
ตารางเวลารถบัส Shibazakura Liner รอบออกปกติ
ขาไปรถติดมาก ใช้เวลาจากปกติ 30 นาทีกลายเป็น 2 ชั่วโมง แต่พอไปถึงปุ้บก็หายเหนื่อยเลยครับ ชิบะซากุระบานสวยทั่วทั้งทุ่ง อากาศเย็นสบาย ฟ้าสวย แถมฟูจิซังก็ไม่ขี้อาย อวดโฉมเต็มที่ เลยถ่ายรูปสวยๆมาฝากกันครับ
เดินเข้ามาในทุ่งสักพัก พอหันหลังกลับไป โอ้ว ฟูจิซังเต็มๆตา
ฟูจิซังทั้งสองลูก มุมนี้ป๊อปที่สุดแล้วละครับ
จุดถ่ายรูปทุ่งพิงค์มอสกับฟูจิซัง ต้องขึ้นมาด้านบนนี้
ก็จะได้ภาพออกมาในมุมแบบนี้
ซูมๆชัดๆ
คนด้านบนจะเยอะมาก ขึ้นได้ไม่เกินครั้งละ 60 คน จะมีเจ้าหน้าที่คอยกั้นคนอยู่ด้านล่าง ถึงแม้จะใช้เวลาอยู่ด้านบนได้ไม่นานมาก แต่ก็เป็นมุมที่เห็นแล้วชื่นใจเกินบรรยายจริงๆครับ
Diamond Fuji
เอาไว้มีโอกาสคราวหน้า จะลองมาวันธรรมดาดูบ้าง คนจะได้บางตากว่านี้
มุมน้ำพุร้อนสำหรับแช่เท้า ผ่อนคลายไปกับวิวสวยๆ
ตรงทางออกมีโปสการ์ดของงาน Fujishibazakura จำหน่ายเป็นที่ระลึกด้วย
ซื้อแล้วก็เขียนส่งตรงนั้นได้เลย มีตู้ไปรษณีย์ให้พร้อม ^^
จบแล้วครับ หวังว่าข้อมูลที่นำมาแชร์ในวันนี้ จะช่วยให้เพื่อนๆได้วางแผนไปชมทุ่งพิงค์มอสที่ภูเขาฟุจิได้ง่ายขึ้นนะครับ 🙂