เมื่อช่วงเดือนก่อน ทางเที่ยวญี่ปุ่นดอทคอมได้รับเชิญ จากทางการท่องเที่ยวจังหวัดโอซาก้า ให้เดินทางไปร่วมเปิดประสบการณ์ใหม่กับการท่องเที่ยวเมืองโอซาก้าและบริเวณรอบๆ ซึ่งในรีวิวตอนแรกนี้ จะขอนำเสนอเกี่ยวกับการใช้บัตร “Osaka Amazing Pass” ซึ่งถือว่าเป็นอีกหนึ่งพาสที่น่าสนใจในแง่ของความคุ้มค่า เหมาะสำหรับผู้ที่มีเวลาน้อยแต่ต้องการเที่ยวไปในหลายๆสถานที่ที่น่าสนใจของเมืองโอซาก้าแห่งนี้
สำหรับบัตร Osaka Amazing Pass นี้มีทั้งแบบ 1 วัน ราคา 2,500 เยน และ 2 วัน ราคาเพียง 3,300 เยน ซึ่งสามารถใช้เป็นบัตรโดยสารถไฟ รถไฟใต้ดิน รถบัส รถราง และรถไฟสายเฉพาะที่อยู่ภายในตัวเมืองโอซาก้าแบบไม่จำกัดจำนวนเที่ยวใน 1 หรือ 2 วัน
รวมทั้งเรายังสามารถใช้เจ้าบัตรนี้ เป็นบัตรผ่านเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ พิพิธภัณฑ์ และสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆอีกมากมาย ถึง 28 แห่งด้วยกัน ถือว่าคุ้มค่าอย่างมากเพราะซื้อแค่บัตรเดียวแต่สามารถเที่ยวได้ทั่วเมืองจริงๆ
รายละเอียดเพิ่มเติม >> Osaka Amazing Pass ตั๋วสุดคุ้มพาเที่ยวทั่วเมืองโอซาก้า
เราเริ่มต้นวันตั้งแต่เช้าเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลากันที่ Umeda Sky Building Floating Observatory ตั้งอยู่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟ Umeda ตึกแห่งนี้ที่ความสูงที่ 173 เมตรเป็นที่ตั้งของสวนลอยฟ้าที่เราสามารถจะขึ้นไปชมวิวพาโนรามา 360 องศาของเมืองโอซาก้าทั้งหมด โดยที่นี่ได้รับการจัดอันดับให้เป็นสวนที่ชมพระอาทิตย์ตกที่สวยที่สุด แน่นอนว่าที่โรแมนติกแบบนี้ไม่พ้นที่จะมีคู่รักพากันมาออกเดท ทางสวนแห่งนี้ได้จัดให้มี Lumi Deck เก้าอี้ม้านั่งสำหรับคู่รัก และมีที่สำหรับให้คล้องกุญแจที่สลักชื่อคู่รักไว้อีกด้วย
อ่านรีวิว >> Osaka: ชมวิวเมืองที่ตึกลอยฟ้า Umeda Sky Building
ลำดับต่อมา เราเดินทางไปล่องเรือ Santa Maria Cruise ซึ่งตั้งอยู่ในส่วนของ Bay Area เพื่อชมทัศนียภาพความสวยงามในแถบริมอ่าวโอซาก้า ลอดผ่านสะพาน Minato-Ohashi ที่ Tempozan Harbor Village ล่องไปตามอ่าวจะพบกับพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำไคยูคัง ใช้เวลาในการล่องเรือประมาณ 45 นาที
อ่านรีวิว >> Osaka: ชมชีวิตสัตว์โลกใต้น้ำที่ KAIYUKAN Aquarium
หลังจากล่องเรือชมวิวอ่าวโอซาก้าเรียบร้อยแล้ว เพื่อความจุใจเราพากันไปเก็บภาพมุมสูงของอ่าวโอซาก้าด้วยการขึ้น Tempozan Giant Ferris Wheel หนึ่งในชิงช้าสวรรค์ที่มีความสูงที่สุดในโลก ด้วยความสูงกว่า 112.5 เมตรเล่นเอาขาเย็นไม่มีแรงกันเลยทีเดียว แต่ก็ถือว่าคุ้มค่ากับวิวสวยๆข้างบนนั้น
จากนั้นไปกันต่อที่ Tenjinbashisuji Shotengai ย่านอาเขตการค้าที่ยาวที่สุดในประเทศญี่ปุ่น เริ่มต้นตั้งแต่สะพาน Tenjin-bashi ไปจนถึง Tenjinbashisuji Nana Chome รวมระยะทางกว่า 2.6 กิโลเมตร รายล้อมไปด้วยร้านค้า ร้านอาหารต่างๆมากมาย มาถึงที่นี่เป็นเวลาเที่ยงวันพอดีจึงรับประทานอาหารกลางวันกันก่อนเพื่อเพิ่มพลังก่อนเตรียมตัวออกช้อปปิ้ง
เมื่ออิ่มอร่อยกับมื้อเที่ยงเป็นที่เรียบร้อย ก็ได้เวลาย้อนกลับสู่อดีตกับ ปราสาทโอซาก้า อันโด่งดัง สัญลักษณ์ของเมืองโอซาก้าแห่งนี้ สร้างขึ้นเมื่อปีค.ศ. 1583 โดย Toyotomi Hideyoshi หลังจากนั้นมีการถูกบูรณะอีกหลายครั้งจนเกิดเป็นปราสาทที่สวยงามอยู่เคียงข้างชาวเมืองโอซาก้ามาจนถึงทุกวันนี้ ผู้เข้าชมสามารถเดินชมพิพิธภัณฑ์ ประวัติความเป็นมาของการสร้างปราสาท รวมถึงข้าวของเครื่องใช้ของนักรบในสมัยโบราณ รวมถึงชมวิวสวนสวยด้านบนของตัวปราสาทอีกด้วย
อ่านรีวิว >> Osaka: พาชมปราสาทโอซาก้า
จากนั้นนั่งรถไฟใต้ดินไปกันต่อที่ย่านเก่าแก่อย่าง Tennoji เพื่อขึ้นหอคอย Tsutenkaku Tower สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1912 เพื่อเป็นเครื่องหมายสัญลักษณ์ของการสร้างเมืองใหม่ โดยหอคอยแห่งนี้มีต้นแบบมาจากหอไอเฟลที่ประเทศฝรั่งเศสนั่นเอง ชาวเมืองโอซาก้าจึงเรียกหอคอยนี้ว่า “หอไอเฟลแห่งนะนิวะ”
จากนั้นนั่งรถไฟไปกันต่อที่ย่าน Minami Area ลงที่สถานี Namba แน่นอนว่ามาถึงย่านนี้แล้วคงไม่พลาดที่จะมาถ่ายรูปกับอีกหนึ่งสัญลักษณ์ของเมืองโอซาก้านั่นก็คือ ชายหนุ่มนักวิ่งกูลิโกะที่กำลังชูมือวิ่งเข้าเส้นชัย บนหน้าจอดิจิทัลขนาดยักษ์ข้างสะพาน Ebisubashi พร้อมกับเดินชิมทาโกะยากิชื่อดังของเมืองโอซาก้าที่ร้าน Wanaka ตั้งอยู่ใกล้ๆสถานี Namba
หลังจากเดินเล่นหาซื้อของฝากกันเรียบร้อยก็ได้เวลาอาหารเย็น แน่นอนว่ามาถึงที่โอซาก้า เมืองที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นครัวของประเทศ ระหว่างรอคิวร้านไฮไลท์เด็ดในคำ่คืนนี้ พวกเราพากันไปลิ้มรส Kushikatsu ของทอดเสียบไม้ชื่อดังของย่าน Minami Area ที่ร้าน “Nihonichi no Kushikatsu Yokozuna Hozenji Store” ราคาเริ่มต้นเพียงไม้ละ 64 เยน สามารถเลือกนั่งในห้องส่วนตัวได้ในกรณีที่มากันเกิน 4 คน แต่แอดมินขอแนะนำให้นั่งทานที่เค้าท์เตอร์บาร์จะดีที่สุด
และแล้วเราก็ได้คิว เข้าไปชิม โอโคโนมิยากิ เมนูอาหารขึ้นชื่อของโอซาก้า ที่สืบทอดกันมายาวนานตั้งแต่สมัยยังเรียกโอซาก้าว่า ‘นะนิวะ’ ในย่านถนนคนเดิน ที่รวมสุดยอดอาหารเอาไว้มากมายอย่าง ถนนโดทงโบริ ที่ทุกวันนี้ไม่มีใครไม่รู้จัก มีร้านโอโคโนมิยากิมากมาย แต่ร้านหนึ่งที่เป็นร้านยอดนิยม มีคนมาเข้าคิวกันยาวออกมานอกร้าน ก็คือ ร้าน CHIBO (千房) Okonomiyaki แห่งนี้ ที่เปิดให้บริการมานานกว่า 30 ปีแล้ว
อ่านรีวิว >> Osaka: พาชิมพิซซ่าญี่ปุ่นต้นตำรับ ร้าน Chibo Okonomiyaki
ใครที่ยังไม่อิ่มแนะนำให้ลองชีสเค้กอบร้อนๆชื่อดังของที่นี่ Pablo cheesecake ลูกค้าสามารถเลือกได้ว่าต้องการแบบ Rare หรือว่าแบบ Medium รับรองได้ว่าเพื่อนๆจะลืมชีสเค้กทั้งหมดที่เคยทานมากันเลยทีเดียว
อ่านรีวิว >> Osaka: พาชิม Cheese tart แบบละลายในปากที่ร้าน PABLO
ปิดท้ายความสนุกของทริปนี้ด้วยการล่องเรือ Tombori River Cruise ชมบรรยากาศสุดแสนจะมีชีวิตชีวาของย่าน Minami พร้อมไกด์คอยบรรยายเพิ่มเติม ถ่ายรูปสวยๆกับบรรยากาศดีๆเป็นอันจบทริปฟินๆ ด้วย “Osaka Amazing Pass”
อ่านรีวิว >> Tombori River Cruise ล่องเรือจากโดทงโบริ ชมวิวเมืองโอซาก้า
ถือได้ว่าพาสนี้ทำให้หนึ่งวันของแอดมินเป็นวันที่คุ้มค่ามาก เพราะไม่ว่าจะเป็นการเดินทางฟรีพร้อมฟรีค่าเข้าสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ รวมถึงส่วนลดสำหรับร้านค้าต่างๆอีกด้วย เรียกว่าบัตรใบเดียวสามารถเที่ยวได้สุดคุ้มรอบโอซาก้า สำหรับรีวิวในครั้งหน้าแอดมินจะพาเพื่อนๆไปเที่ยวที่ไหนกันอีก คอยติดตามกันด้วยนะครับ