Keisei Skyliner เปิดตัวบริการใหม่ “Skyliner e-ticket Face Check in Go” ที่ช่วยให้การเดินทางระหว่าง สถานี Keisei-Ueno / Keisei-Nippori และสถานี Narita Airport เป็นเรื่องง่ายและสะดวกขึ้น! บริการนี้ช่วยให้ผู้โดยสารสามารถขึ้นรถไฟได้โดยไม่ต้องใช้ตั๋วกระดาษหรือ QR Code เพียงแค่ลงทะเบียนใบหน้าล่วงหน้า และสแกนใบหน้าก็สามารถโดยสารรถไฟ Skyliner ได้ทันที!
บริษัท Keisei Electric Railway เป็นบริษัทรถไฟแห่งแรกในญี่ปุ่นที่ใช้ระบบสแกนหน้าเพื่อโดยสารรถไฟแบบระบุที่นั่งเช่นนี้ บริการ “Skyliner e-ticket Face Check in Go” เพียงลงทะเบียนใบหน้าล่วงหน้าออนไลน์ในเว็บไซต์ “Skyliner e-ticket” เมื่อเดินทางถึงสถานี ก็สามารถสแกนใบหน้าในแท็บเล็ตที่ติดตั้งไว้ที่ด้านหน้าช่องตรวจตั๋วในสถานี ก็จะได้รับตั๋วโดยสารแบบระบุที่นั่งของขบวนที่ใกล้ออกเดินทางที่สุด และสามารถขึ้นรถไฟ Skyliner ได้ทันที โดยไม่ต้องต่อแถวที่เคาน์เตอรห์รือตู้จำหน่ายตั๋ว
สามารถใช้บริการนี้ได้ เฉพาะการซื้อตั๋วแบบเที่ยวเดียวเท่านั้น (ตั๋วไปกลับ และ ตั๋วคอมโบ ไม่สามารถใช้บริการนี้ได้) หลังจากยืนยันการชำระเงินเรียบร้อย ก็จะเข้ามาสู่หน้านี้ ให้กดที่ “Here” เพื่อเข้าสู่ขั้นตอนการลงทะเบียนใบหน้า (Face Recognition)
ข้อควรปฏิบัติในการลงทะเบียนใบหน้า
– ถ่ายรูปในพื้นที่ที่มีแสงสว่างเพียงพอ
– ไม่ใส่หน้ากาก, หมวก, แว่นกันแดด (กรณีแว่นสายตาสามารถใส่ถ่ายรูปได้)
– มองตรงไปที่กล้อง ห้ามหลับตา และ อยู่นิ่งๆ เพื่อไม่ให้ภาพเบลอ
ขั้นตอนการลงทะเบียนใบหน้า (Face Recognition) สามารถทำผ่านคอมพิวเตอร์หรือมือถือก็ได้
วิธีใช้งาน Skyliner e-ticket Face Check in Go
- หลังซื้อและชำระเงินในเว็บไซต์ e-ticket ลงทะเบียนข้อมูลใบหน้าโดยใช้กล้อง คอมพิวเตอร์หรือสมาร์ทโฟน
- เมื่อถึงสถานี ให้สแกนใบหน้าด้วยแท็บเล็ตที่ติดตั้งไว้ตรงช่องตรวจตั๋วที่รองรับ “Check in Go”
*สถานี Nippori ใช้ได้เฉพาะทางออก North (Exit A) - เมื่อสแกนเสร็จแล้วให้เดินไปด้านหน้า เครื่องออกตั๋วจะออกตั๋วให้ตามจำนวนคนที่ซื้อ
*เมื่อผู้โดยสารสแกนใบหน้าแล้ว ผู้ติดตามให้เดินผ่านช่องตรวจตั๋วไปพร้อมกัน - หลังตรวจสอบตั๋วแล้ว ให้ขึ้นรถไฟ Skyliner ขบวนที่ระบุ และนั่งที่นั่งที่ระบุไว้
- อย่าทำตั๋วหายจนกว่าจะถึงที่หมาย
- เมื่อถึงสถานีที่ต้องการลงแล้ว ให้ออกทางเคาน์เตอร์สถานีที่มีเจ้าหน้าที่ประจำการ
*ไม่สามารถใช้ช่องตรวจตั๋วอัตโนมัติได้
สามารถใช้ขึ้นรถไฟ Skyliner เท่านั้น ขบวนอื่นๆ เช่น Cityliner, Morningliner, Eveningliner ไม่สามารถขึ้นได้
เมื่อเดินทางถึงสนามบินนาริตะ เดินตามป้ายที่ระบุ Train ลงไปชั้นล่างเพื่อขึ้นรถไฟเข้าเมือง
กรณีที่ไม่ได้ทำ Skyliner e-ticket Face Check in Go มาล่วงหน้า สามารถทำก่อนใช้บริการได้เลย ใช้เวลาไม่ถึง 5 นาที หรือถ้าคิวไม่ยาว จะเข้าไปซื้อที่ Skyliner & Keisei Information Center หรือ ที่เคาน์เตอร์ออกตั๋ว ก็ได้เช่นกัน
ส่วนคนที่ทำ Skyliner e-ticket Face Check in Go มาล่วงหน้า ให้เดินตามป้ายไปได้เลย ไม่ต้องเข้าคิวเพื่อออกตั๋วอะไรแล้ว
เดินไปทางช่องตรวจตั๋วที่รองรับ “Check in Go” จะมีแท็บเล็ตติดตั้งไว้อยู่ ซึ่งที่สถานี Narita Airport จะอยู่ช่องซ้ายสุด
จอแท็บเล็ตตอบสนองไวมาก ถ้ายังไม่พร้อมต้องระวังไม่เข้าใกล้ หรือให้หน้าถูกเซ็นเซอร์ตรวจจับได้ (โดยเฉพาะเวลาเดินทางพร้อมกันหลายคน)
จอด้านบนจะแสดงรอบรถไฟรอบถัดไปที่ออกเร็วที่สุด ถ้ายังไม่ต้องการขึ้นขบวนนี้ ให้รอจนถึงใกล้รอบที่ต้องการขึ้น และเดินกลับมาใหม่ได้ (กรณีมีสัมภาระเยอะ เผื่อเวลาอย่างน้อย 15-20 นาทีล่วงหน้า)
เมื่อสแกนใบหน้าผ่าน จอจะเปลี่ยนเป็นสีเขียว ให้เดินไปด้านหน้า เครื่องออกตั๋วจะออกตั๋วให้ตามจำนวนคนที่ซื้อ พร้อมระบุที่นั่งแบบสุ่ม (เมื่อผู้โดยสารสแกนใบหน้าแล้ว ผู้ติดตามให้เดินผ่านช่องตรวจตั๋วไปพร้อมกัน) กรณีเดินทางหลายคน ถ้าต้องการนั่งด้วยกัน ให้จองในบุคกิ้งเดียวกัน เพราะถ้าจองแยก จะไม่สามารถนั่งด้วยกันได้
เมื่อถึงสถานีที่ต้องการลงแล้ว ให้ออกทางเคาน์เตอร์สถานีที่มีเจ้าหน้าที่ประจำการ เพราะไม่สามารถใช้ช่องตรวจตั๋วอัตโนมัติได้ และต้องยื่นตั๋วให้เจ้าหน้าที่
ขากลับที่สถานี Keisei Ueno
ที่สถานีนี้คิวค่อนข้างยาว ถ้าไม่ได้ซื้อตั๋วมาล่วงหน้าต้องเผื่อเวลามาต่อคิวกันด้วยนะ
ส่วนใครที่ซื้อตั๋วออนไลน์และทำ Skyliner e-ticket Face Check in Go มาแล้ว สามารถเดินเข้าได้เลย โดยที่สถานี Keisei Ueno ช่องที่มีแท็บเลตสำหรับทำการแสกนใบหน้า จะอยู่ช่องขวาสุด
บริการ Skyliner e-ticket Face Check in Go ถือว่าตอบโจทย์นักท่องเที่ยวอย่างเรา สามารถประหยัดเวลาได้มาก ขั้นตอนง่าย ไม่ยุ่งยากเลย ถ้ามีโอกาสไปเที่ยวโตเกียวและต้องเดินทางไปกลับระหว่างสนามบินนาริตะ ลองใช้กันดูนะ