Shizuoka: ปักหมุด 28 จุดที่เที่ยวต้องไปในชิซุโอกะ

หากพูดถึงจุดท่องเที่ยวในชิซุโอกะ จริงๆ ก็มีจุดท่องเที่ยวหลายจุดมากมายให้เราได้ท่องเที่ยวกัน เดินทางสะดวกทั้งจากนาโกย่า และจากโตเกียว วันนี้เรารวมพิกัด และชื่อสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญๆ ไว้หมดแล้ว ถ้าเดินทางไปตามนี้ไม่มีผิดหวังแน่นอน ตามมาดูกันเลย

1. ไร่ชาโอบุจิซะซะบะ (Obuchi Sasaba) ที่นี่เหมาะสำหรับถ่ายรูปไร่ชาเขียวพร้อมกับวิวของฟุจิซัง แต่ต้องระวังไม่เดินเข้าไปในพื้นที่ไร่ชาตรงบริเวณที่ไม่ใช่ทางเดินหลัก จุดจอดรถก็ไม่ไกล สามารถเดินมาได้ เป็นจุดแนะนำว่าต้องมาให้ได้ สวยมาก และไม่เสียค่าเข้าแต่อย่างใด
พิกัด | เว็บไซต์

2. น้ำตกชิราอิโตะ (Shiraito no taki) ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม ต้นน้ำของน้ำตกแห่งนี้มีแหล่งมาจากภูเขาไฟฟูจิ ด้วยการไหลของสายน้ำ ที่แยกสายออกเป็นหลากร้อยเส้น ทำให้มองดูแล้วเหมือนกับเส้นด้ายสีขาว จึงเป็นที่มาของชื่อเรียกที่ว่า ชิราอิโตะ (Shiraito) ที่แปลตรงตัวว่า ด้ายสีขาวนั่นเอง อีกทั้งที่นี่ยังมีเรื่องราวของการปฏิบัติธรรมในถ้ำที่เคยเกิดภูเขาไฟปะทุขึ้นมาด้วย จึงทำให้ผู้คนให้ความศรัทธากันว่าเป็นที่ชำระล้างจิตใจ และเป็นพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์สำคัญของผู้แสวงบุญ จึงถือเป็นพาเวอร์สปอตอีกจุดหนึ่งในญี่ปุ่น ที่นี่สามารถชมฟูจิซังได้ในมุมที่ไม่เหมือนใคร เป็นน้ำตกและภูเขาไฟฟูจิตั้งอยู่ด้านหลัง
พิกัด | เว็บไซต์

3. สวนกุหลาบชิราอิโตะ (Shiraito Rose Garden)ตั้งอยู่ไม่ไกลจากน้ำตกชิราอิโตะ จะพบกับสวนดอกไม้ ที่มีดอกไม้ผลิบานตามฤดูกาลต่างๆ ที่แตกต่างกัน ถึงชื่อจะเป็นสวนกุหลาบแต่ก็มีดอกไม้หลากหลายชนิด (ไม่เสียค่าเข้าชม)
พิกัด | เว็บไซต์

4. Shizuoka Mt. Fuji World Heritage Centre โครงสร้างภายนอกของอาคารแห่งนี้มีลักษณะเป็นภูเขาไฟฟูจิกลับหัว เมื่อมองเงาที่กระทบกับน้ำก็จะเห็นเป็นภาพของภูเขาไฟฟูจิตั้งตระหง่าน ไม้ทั้งหมดที่นำมาสร้างอาคารหลังนี้ มีชื่อว่าไม้ฟูจิฮิโนกิ ภายในเป็นพิพิธภัณฑ์ที่บอกเล่าประวัติความเป็นมาของภูเขาไฟฟูจิ และสิ่งแวดล้อมรอบๆ ภูเขาไฟ ไม่ว่าจะเป็นพืช สัตว์ หินลาวาต่างๆ
พิกัด | เว็บไซต์

5.ศาลเจ้าฟูจิฮนงูเซ็นเง็นไทชะ (Fuji Hongu Sengen Taisha) ศาลเจ้าแห่งนี้ได้ถูกสร้างขึ้นเพื่อปกป้องการปะทุของภูเขาไฟฟูจิ มีอายุมากกว่า 1,200 ปี เป็นศาลเจ้าที่มีความสำคัญต่อผู้แสวงบุญ อาณาบริเวณของศาลเจ้ามีต้นซากุระรายล้อม สามารถชมวิวและถ่ายรูปภูเขาไฟฟูจิ ที่มีซากุระล้อมไว้เหมือนกรอบภาพวาด และมีบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่สามารถเก็บน้ำกลับไปทานได้
พิกัด | เว็บไซต์

6.จุดพักบนทางด่วนฟูจิคะวะระคุซะ (Michi no eki Fujikawarakuza) ระหว่างทางมุ่งหน้าเข้าโตเกียว มีจุดแวะพักให้ซื้อของฝาก พร้อมนั่งชมภูเขาไฟฟูจิ และมีชิงช้าสวรรค์ Fuji Sky View ที่สามารถขึ้นไปชมฟูจิซังจากมุมสูงได้ด้วย
พิกัด | เว็บไซต์

7.สวนอิวะโมโตะยะมะ (Iwamotoyama Park) สวนสาธารณะตามธรรมชาติที่ตั้งอยู่บนภูเขาอิวะโมโตะ บนความสูง 193 เมตร มีงานเทศกาลชมซากุระในฤดูใบไม้ผลิ จากด้านบนเราสามารถมองเห็นวิวของแม่น้ำฟูจิ คาบสมุทรอิซุ อ่าวซุรุกะ และภูเขาไฟฟูจิ
พิกัด | เว็บไซต์

8. แนวต้นซากุระริวกังบุจิ (龍厳淵の桜並木) ชมซากุระฟูลบลูมพร้อมฟุจิซัง ริมแม่น้ำอุรุอิ ที่แนวต้นซากุระทอดตัวยาวรับกับทุ่งดอกนาโนะฮานะ ใกล้กับสะพานริวกังบุจิ เป็นสถานที่ยอดนิยมของเหล่าบรรดาช่างภาพญี่ปุ่น ช่วงเวลาที่แนะนำคือปลายเดือนมีนาคมถึงต้นเดือนเมษายน สามารถเดินมาได้จากสถานีรถไฟ JR Iriyamase
พิกัดและเว็บไซต์

9. ไร่ชาโมริอุจิ (Moriuchi Tea Farm) ไร่ชาของที่นี่มีประวัติศาสตร์มาตั้งแต่ยุคเอโดะ บ้านที่ต้อนรับผู้มาเยี่ยมเยือนไร่แห่งนี้เป็นบ้านเก่าที่อายุกว่า 150 ปี ที่นี่มีชาหลากหลายชนิด แตกต่างด้วยวิธีการเก็บ เปลี่ยนกลิ่นด้วยสูตรเฉพาะของครอบครัวที่ทำกันมาหลายรุ่น เราสามารถทดลองประสบการณ์เก็บใบชา รวมถึงศึกษารสชาติของชาชนิดต่างๆ ได้อย่างเข้มข้นและสนุกสนาน ใช้เวลาประมาณ 60-90 นาที (ค่าใช้จ่ายคนละ 5,000 เยน)
พิกัด | เว็บไซต์

10. โนเอนคาเฟ่ (Noen Cafe) คาเฟ่ใน ไร่สตอเบอรี่ นาคะจิมะเอน (Nakajimaen) ที่สามารถมาทานเมนูของหวานจากสตรอเบอร์รี่ได้ตลอดทั้งปีไม่ว่าจะอยู่ในช่วงฤดูสตรอเบอร์รี่หรือไม่ก็ตาม แต่ถ้าได้มาตรงกับฤดูกาลของสตรอเบอร์รี่ ก็สามารถทำกิจกรรม Strawberry Picking ที่นี่ได้ด้วย
พิกัด | เว็บไซต์

11. คาเฟ่มิฟุคุซาโบ (Mifukusabou) คาเฟ่แห่งนี้นำบ้านโบราณมารีโนเวทใหม่ ตั้งอยู่ในเขตชิมิซุ ใกล้กับจุดชมวิวมรดกโลกมิโฮะโนมัตสุบาระ (Miho no Matsubara) ด้านในมีบรรยากาศอบอุ่น และเสิร์ฟอาหาร ขนมหวาน เครื่องดื่มสไตล์โฮมเมด ใช้ววัตถุดิบตามฤดูกาล แนะนำให้เดินทางมาด้วยรถยนต์
พิกัด | เว็บไซต์

12. จุดชมวิวนิฮงไดระยูเมะ (Nihondaira Yume Terrace)  อาคารไม้ที่ดีไซน์อย่างยิ่งใหญ่ ตั้งอยู่บนชั้นสูงสุดของนิฮงไดระ (Nihondaira) ซึ่งเป็นจุดชมวิวที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของชิซุโอกะ อาคารประกอบด้วย 3 ชั้น ชั้นแรกเป็นพื้นที่จัดนิทรรศการประวัติความเป็นมาของ นิฮงไดระ ชั้นสองเป็นคาเฟ่ และชั้นที่สามเป็นชั้นชมวิว ซึ่งสามารถชมภูเขาไฟฟูจิ ได้พร้อมกับวิวของมิโฮะโนะมัตสึบาระเหนืออ่าวซูรุกะ
พิกัด | เว็บไซต์

13. จิบิ มารุโกะจังแลนด์ (Chibimarukochan land) พิพิธภัณฑ์สำหรับคนรักมารุโกะจังโดยเฉพาะ ตั้งอยู่บนชั้น 3 ของห้าง S-PULSE Dream Plaza ชิซุโอกะเป็นจังหวัดบ้านเกิดของ อาจารย์โมโมโกะ ซากุระ ผู้วาดมารุโกะจังนั่นเอง และด้านในเราจะได้เสียงทายคำทำนาย ซึ่งใบทำนายโอมิกุจิทุกใบ ถูกเขียนด้วยลายมือของอาจารย์ก่อนที่จะจากโลกนี้ไปเมื่อปี 2018 และไฮไลท์ของที่นี่คือ เราจะได้พบกับมารุโกะจัง และถ่ายรูปคู่กันได้ด้วย ตามตารางเวลาที่ทางพิพิธภัณฑ์ได้กำหนดไว้
พิกัด | เว็บไซต์

14. ห้าง S-PULSE Dream Plaza ที่นี่เราสามารถหาซื้อของฝากของที่ระลึกประจำจังหวัดชิซุโอกะและจังหวัดข้างเคียง ไม่ว่าจะเป็น อาหารแห้ง อาหารทะเล ผลไม้ต่างๆเป็นที่ตั้งของจิบิมารุโกะจังแลนด์ และ มีโซนร้านซูชิ ที่รวบรวมร้านซูชิที่ดังๆ ในจังหวัดมาไว้ที่นี่ที่เดียว
พิกัด | เว็บไซต์

15. ฝาท่อมารุโกะ ด้านหน้าสถานี Shimizu ก่อนที่อาจารย์โมโมโกะ ซากุระจะจากไป ได้ฝากผลงานชิ้นสุดท้ายที่ทำร่วมกับจังหวัด โดยวาดภาพฝาท่อลายมารุโกะจัง ที่มีฉากหลังเป็นลวดลายสัญลักษณ์ของจังหวัดชิซุโอกะที่เป็นบ้านเกิดของอาจารย์ ซึ่งโปรเจคต์นี้เป็นไอเดียของอาจารย์เอง ที่ได้พูดเอาไว้ว่า “มันคงจะดีนะถ้าหากที่ชิซุโอกะมีฝาท่อลายมารุโกะ คงจะทำให้ชาวเมืองมีความสุขไม่น้อย” ซึ่งมีตั้งอยู่ 2 แห่ง 2 สถานี คือ สถานี Shizuoka และ สถานี Shimizu
พิกัด

16. มิโฮะโนะมัตซึบาระ (Miho no Matsubara) ได้รับการจดทะเบียนให้เป็นมรดกโลกส่วนหนึ่งของภูเขาไฟฟูจิ ตลอดระยะทาง 7 กิโลเมตร มีต้นสนอายุกว่า 200 ปี เรียงรายมากถึง 3 แสนต้น เป็นภาพที่ประทับใจจนได้ไปปรากฎตามภาพวาดประวัติศาสตร์มากมายอาทิ อุคิโยเอะ ของ Hiroshige Utagawa
พิกัด | เว็บไซต์

17. ศูนย์วัฒนธรรม ชิซุโอกะ มิโฮะโนะมัตซึบาระ (Miho no Matsubara Culture & Creativity Center) หรือเรียกว่า มิโฮะชิรุเบะ (Mihoshirube) รวบรวมข้อมูล ประวัติความเป็นมาและความสัมพันธ์ของ มิโฮะโนมัตสุบาระ ภูเขาไฟฟูจิ รวมถึงตำนานเทนโจ โนะ ฮาโงโรโมโนะ
พิกัด | เว็บไซต์

18. Ushinshiro Nomizumesakura ต้นซากุระเก่าแก่อายุ 300 ปี ตั้งอยู่ที่เมืองชิมาดะ เป็นจุดถ่ายรูปที่ได้รับความนิยมในช่วงซากุระผลิบาน
พิกัด

19. สวนดอกไม้ฮามามัตสึ (Hamamatsu Flower Park) สวนดอกไม้ขนาดใหญ่ที่มีดอกไม้บานตลอดทั้งสี่ฤดูกาล มีการจัดแสดงดอกไม้ตลอดทั้งปี โดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้ผลิปลายมีนาคมไปจนถึงต้นเดือนเมษายน จะมีช่วงที่ดอกทิวลิปและดอกซากุระบานสะพรั่งพร้อมกันทั้งสวน ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็สดใส โลกเป็นสีชมพูไปหมด
พิกัด | เว็บไซต์

20. วัดเรียวทันจิ (Ryotanji) วัดโบราณที่มีประวัติาสตร์นับพันปี สร้างขึ้นตั้งแต่ยุคสมัยนาระ ในปีค.ศ.733 วิหารหลักปัจจุบันได้ถูกสร้างขึ้นมาใหม่ราว 350 ปีก่อนหลังจากที่ถูกไฟไหม้ไป และสวนญี่ปุ่นของที่นี่มีความงดงามได้รับการออกแบบโดย Kobori Enshu แนะนำให้เดินทางมาช่วงฤดูใบไม้ร่วงเพื่อชมความงามของใบไม้เปลี่ยนสีที่สวนแห่งนี้
พิกัด | เว็บไซต์

21. Airpark JASDF Hamamatsu Air Base Museum พิพิธภัณฑ์เครื่องบิน (คำว่า JASDF นั้นย่อมาจาก Japan Air Self Defense Force) แหล่งรวมเครื่องบินทางการทหารที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น ภายในเต็มไปด้วยเครื่องบินรบของกองทัพญี่ปุ่นที่จัดแสดงให้ชมตัวเครื่องรุ่นต่างๆมากมาย สามารถทดลองขับเครื่องบินรบ ชมเครื่องบินที่กองกำลังป้องกันตัวเองใช้งานจริงได้ที่กองกำลังป้องกันตัวเอง และที่นี่เป็นบ้านที่เก็บเครื่องบินที่แสดง BLUEIMPULSE ในวันที่ 29 พค. ที่ผ่านมาเพื่อให้เป็นกำลังใจกับทีมงานแพทย์ที่เหน็ดเหนื่อยกับโควิด 19 ด้วย
พิกัด | เว็บไซต์

22. เสาโทริอิกลางน้ำ (Bentencho Torii) ถ้าเอ่ยถึง Benten-Jima ก็ต้องนึกถึงเสาโทริอิที่ตั้งอยู่กลางน้ำในทะเลสาบฮามานาโกะ ทะเลสาบแห่งนี้เกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงอันเป็นผลกระทบจากแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในอดีต แผ่นดินไหวครั้งนี้ทำให้ฮามานาโกะที่เคยเป็นทะเลสาบน้ำจืดมาก่อนกลายมาเป็นทะเลสาบน้ำกร่อยนั่นเอง
พิกัด

23. หมู่บ้านนุคุโมริ โนะ โมริ (Nukumori no mori) หมู่บ้านในดินแดนมหัศจรรย์ราวกับหลุดเข้าไปในเทพนิยาย ดีไซน์โดยสถาปนิกชาวญี่ปุ่น Sasagi Shigeyoshi ความหมายของชื่อสถานที่แห่งนี้ก็คือ ‘ป่าแห่งความอบอุ่น’  ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 1983 โดยในบ้านแต่ละหลังจะเป็นร้านค้าน่ารักๆ ขายของแฮนด์เมด คาเฟ่ และ แกลเลอรี่ ให้เพลิดเพลินกัน
พิกัด | เว็บไซต์

24. ขบวนรถไฟโทมัส สายโออิกะวะ (Oigawa Railway) ที่สถานี Kanaya มีอาคารสถานีที่เป็นมรดกทางวัฒนธรรม และจะพบกับขบวนรถไฟโทมัสและเพื่อนๆ ได้ที่นี่ แนะนำว่าให้มาช่วงสุดสัปดาห์ จะเข้าไปถ่ายรูปกับเหล่าบรรดารถไฟไอน้ำ SL และรถไฟโทมัสกับเพื่อนๆได้
พิกัด | เว็บไซต์

25. ชิมาดะจูคุ (Shimadajuku) จุดพักระหวางเส้นทางโทไคโด บรรยากาศเป็นเมืองเก่าที่มีภาพวาดจำลองเมืองในอดีต เป็นเส้นทางที่เป็นจุดพักของการเดินทางทางจากโตเกียวไปยังเกียวโต ในยุคเอโดะ
พิกัด

26. สะพานไม้โฮไรบะชิ (Horaibashi) ทอดตัวข้ามแม่น้ำโออิ ในเมืองชิมะดะ เป็นสะพานไม้ที่ยาวที่สุดในโลก ด้วยความยาว 897.4 เมตร แต่บ่อยครั้งถูกทำลายเสียหายจากน้ำท่วม จึงได้มีการเสริมความทนทานด้วยคอนกรีตในภายหลัง
พิกัด | เว็บไซต์

27. สะพานสายรุ้งโอคุโออิ (Okuohi Rainbow Bridge) สะพานแดงตัดข้ามผ่านทะเลสีฟ้า มีจุดถ่ายรูปมุมสูงจากคาเฟ่ด้านบนเกาะ และสามารถเดินลงไปที่สะพานได้
พิกัด | เว็บไซต์

28. สะพานแขวนแห่งความฝัน (Yume no Tsuri Bashi) สะพานช่วยเรื่องความสมหวังในความรัก  มีวิธิอธิษฐานโดยการเดินข้ามสะพานและหยุดยืนตรงกลางสะพานเพื่อขอพร เชื่อว่าจะทำให้ความฝันเป็นจริง
พิกัด

สำหรับทุกจุดการเดินทางเพื่อนๆ แนะนำให้เช่ารถขับ เพื่อความสะดวกในการเดินทาง สามารถตั้งต้นจากสนามบิน Chubu Centrair

วิธีการเช่ารถที่ญี่ปุ่น
1. ต้องมีใบขับขี่สากล และพาสปอร์ต
2. ขณะที่ทำการจองต้องเลือกวันเช่า สถานที่รับและวันคืน สถานที่คืนรถ
3. เลือกประเภทรถยนต์ ขนาด (รถยนต์บางขนาดอาจจะต้องใช้ใบขับขี่ที่พิเศษกว่าใบขับขี่สากลธรรมดา กรุณาเช็คข้อมูลโดยสามารถสอบถามไปยังบริษัทรถเช่าได้)
4. หากต้องการอุปกรณ์เสริม เช่น ETC, คาร์ซีทเพื่อเด็กหรืออื่นๆ กรุณาสอบถามข้อมูลล่วงหน้า
5. สถานที่เช่า และสถานที่คืนรถต่างพื้นที่ควรเช็คจุดคืนล่วงหน้า

ครั้งนี้เราเลือกใช้บริการของ NIPPON Rent-A-Car รับประกันเรื่องการบริการค่ะ ก่อนจะมีการส่งมอบรถ เจ้าหน้าที่จะอธิบาย ขั้นตอนต่างๆ รวมถึงวิธีติดต่อเจ้าหน้าที่ วิธีการคืนรถ วิธีการใช้บัตรอีทีซี การเติมน้ำมัน อย่างละเอียด

สำหรับใครที่ต้องการไอเดียสำหรับวางแผนไปเที่ยวญี่ปุ่นครั้งต่อไป โดยเฉพาะที่จังหวัดชิซุโอกะ ตามไปอ่านกันได้ที่นี่เลย

>> ขับรถเที่ยวชิซุโอกะ 4 วัน 3 คืน <<

>> Hamamatsu Self-Drive ขับรถเที่ยวฮามามัตสุ 4 วัน <<

>> Shizuoka Model Course แนะนำเส้นทางท่องเที่ยวในชิซุโอกะ <<

FeaturedFujisanJapanMount FujiShizuokatiewyeepoonภูเขาไฟฟูจิเที่ยวญี่ปุ่นเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเองเที่ยวญี่ปุ่นดอทคอม