Okayama: 10 สถานที่เที่ยวแนะนำ เมื่อมาเที่ยวที่โอคะยะมะ

โอคะยะมะ (Okayama) เป็นจังหวัดที่สามารถเดินทางไปได้สะดวกจากโอซาก้า เป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างเกาะฮอนชูกับเกาะชิโกกุ และ เป็นจุดกึ่งกลางระหว่าง ภูมิภาคคันไซ กับ ภูมิภาคจูโกขุ อีกด้วย ซึ่งหมายความว่า การเดินทางไปยัง ฮิโรชิมา และ ฟุกุโอกะ จะต้องวิ่งผ่านจังหวัดนี้

จากสถานี Shin-Osaka นั่งชินคันเซ็นใช้เวลาเพียง 45 นาทีเท่านั้น ก็จะถึง สถานี Okayama

เมืองโอคะยะมะ (Okayama) เป็นจุดศูนย์กลางทางตะวันตกของญี่ปุ่น มีชื่อเสียงสุดๆก็คงเป็นสวน Korakuen ที่ติดอันดับ 1 ใน 3 สวนสวยที่สุดในญี่ปุ่น แต่ที่โด่งดังไม่แพ้กัน ก็คือเรื่องราวของโมโมทาโร่ เด็กชายลูกท้อ ที่มีต้นกำเนิดมาจากเมืองนี้นั่นเอง

สำหรับการเดินทางภายในตัวเมือง เราสามารถเดินทางได้ด้วยรถรางโบราณ Okaden ที่มีอายุเก่าแก่กว่า 100 ปี  ปัจจุบันได้ปรับปรุงใหม่อยู่ในสภาพที่ดีและใช้การได้ด้วยระบบที่ทันสมัย  มีให้บริการด้วยกัน 2 สาย คือ สาย Higashiyama และสาย Sekibashi

ก่อนอื่นจะขอแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญในตัวเมืองโอคะยะมะก่อน และเราจะออกนอกตัวเมืองไปยังสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจของจังหวัดโอคะยะมะกัน ตามไปเที่ยวกันเลย~

1. ปราสาทโอคะยะมะ (Okayama Castle)

ปราสาทโอคะยะมะ (Okayama Castle) มีฉายาว่า ปราสาทอีกา เพราะตัวอาคารปราสาทนั้นเป็นสีดำ เรียกว่า U-jo สร้างขึ้นครั้งแรกในปีค.ศ. 1597 และถูกทำลายในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่ได้รับการบูรณะฟื้นฟูขึ้นมาใหม่ในปีค.ศ. 1966

อาคารหลักของปราสาทโอคะยะมะมีทั้งหมด 6 ชั้นภายในเป็นที่เก็บสมบัติอันเก่าแก่และจัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับ ประวัติความเป็นมาและการพัฒนาของปราสาท ภายในอาณาบริเวณของปราสาท มีเพียงหนึ่งจุดเท่านั้น ที่เป็นสิ่งก่อสร้างในยุคดั้งเดิมนั่นก็คือ ป้อมปืน Tsukimi Yagura ที่อยู่มาตั้งแต่ปีค.ศ. 1620 นอกจากนี้ ยังมีฐานรากของอาคารที่ช่วยแสดงให้เห็นถึงขอบเขตและความซับซ้อนเดิมของปราสาทในอดีตได้เป็นอย่างดี

เวลาทำการ : 9.00 – 17.30 น.
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 300 เยน (ช่วงเวลาปกติ) และ 800 เยน (ช่วงที่มีจัดงานเทศกาล)
การเดินทาง : จากสถานี Okayama โดยสารรถรางลงที่ป้าย Shiroshita แล้วเดินต่ออีกประมาณ 10 นาที
เว็บไซต์

ปราสาทโอคายามะ มีฉายาว่า ปราสาทอีกา เนื่องจากตัวอาคารปราสาทนั้นเป็นสีดำ มีอีกชื่อเรียกว่า U-jo
สามารถชมวิวเมืองจากชั้นบนของปราสาทได้
งานประดับไฟฤดูใบไม้ร่วงที่ปราสาทโอคะยะมะ Okayama castle Autumn Illumination

2. สวนโคราคุเอ็น (Korakuen)

สวนโคราคุเอ็น (Korakuen) เป็นหนึ่งในสวนที่มีภูมิทัศน์ที่สวยงามและเป็นแหล่งท่องเที่ยวหลักของจังหวัดโอคายามะ โดยสวนแห่งนี้ได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 3 สวนที่สวยที่สุดของญี่ปุ่น สามารถมองเห็นปราสาทโอคายามะได้จากสวนแห่งนี้ และเป็นสถานที่ที่เหมาะแก่การชมใบไม้เปลี่ยนสี ใบไม้จะสลับกันผลัดเปลี่ยนสีสันสวยงาม เริ่มตั้งแต่ช่วงกลางเดือนตุลาคม จนถึง ต้นธันวาคม

เวลาทำการ : 7.30 – 18.00 น. (20 มี.ค. – 30 ก.ย.) และ 8.00 – 17.00 น. (1 ต.ค. – 19 มี.ค.)
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 400 เยน
การเดินทาง : จากสถานี Okayama โดยสารรถรางต่อไปลงที่ป้าย Shiroshita แล้วเดินต่อประมาณ 10 นาที
เว็บไซต์

ขอบคุณภาพจาก Okayama City

3. ศาลเจ้าคิบิทสึ (Kibitsu Shrine)

ศาลเจ้าคิบิทสึ (Kibitsu Shrine) ศาลเจ้าเก่าแก่ ที่เป็นศูนย์รวมจิตใจของคนโอคะยะมะ สร้างขึ้นเพื่อบูชา Kibitsuhiko-no-Mikoto เจ้าชายในตำนาน ที่เชื่อกันว่าเป็นต้นแบบของเทพนิยายเรื่องดังอย่าง “โมโมทาโร่” ซึ่งคนญี่ปุ่นนั้น เมื่อพูดถึงโมโมทาโร่ ก็ต้องนึกถึงจังหวัดโอคะยะมะ และศาลเจ้าแห่งนี้ ขึ้นมาพร้อมกันในทันที นอกจากนี้ ตัวศาลเจ้าหลัก และห้องโถงบูชา ยังทรงคุณค่าในทางวัฒนธรรม จนได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติประจำชาติของญี่ปุ่น (National Treasure) อีกด้วย

เวลาทำการ : 5.00 – 18.00 น.
ค่าเข้าชม : ไม่เสียค่าใช้จ่าย
การเดินทาง : จากสถานี Okayama ขึ้นรถไฟลงที่สถานี Kibitsu แล้วเดินต่อประมาณ 10 นาที
เว็บไซต์

ทางเดินไม้ทอดตัวยาวตามเนินเขาระยะทาง 360 เมตร มีทิวทัศน์ที่สวยงามให้ได้ชมระหว่างทาง
เครื่องรางรูปพีช Momomamori
ขอบคุณภาพจาก Okayama City
เดือนมิ.ย.จะได้ชมดอกไฮเดรนเยียกว่า 1,500 ต้นบานสะพรั่งที่ Ajisai-en Garden
ขอบคุณภาพจาก Okayama City

4. ถนนซากุระอาซาฮิคะวะ (Asahikawa Sakura Road)

ถนนซากุระอาซาฮิคะวะ (Asahikawa Sakura Road) ในช่วงต้นฤดูใบไม้ผลิ บนทางเดินเลียบแม่น้ำอาซาฮิ ทางฝั่งตะวันออกของสวนโคราคุเอ็น จะมีต้นซากุระกว่า 200 ต้น เรียงรายเป็นระยะทางยาว 1.3 กิโลเมตร นอกจากจะได้ชมความงามของซากุระแล้วยังมีร้านค้าที่มาตั้งขายอาหารเครื่องดื่มให้ได้เพลิดเพลินกับกิจกรรมฮานามิอีกด้วย ช่วงที่เหมาะจะเดินทางมาชมคือปลายเดือนมี.ค.-ต้นเดือนเม.ย.

การเดินทาง : จากสถานี Okayama โดยสารรถบัสลงที่ป้าย Korakuenmae แล้วเดินต่อเล็กน้อย
เว็บไซต์

ขอบคุณภาพจาก Okayama City
ขอบคุณภาพจาก Okayama City

5. เมืองคุระชิกิ (Kurashiki)

ย่านเมืองเก่าคุระชิกิ (Kurashiki) ศูนย์กลางทางการค้า และการคมนาคมในอดีตที่สำคัญมากแห่งหนึ่งในยุคเอโดะ มี Bikan Historical Quarter ที่เป็นจัตุรัสเมืองเก่า อนุรักษ์มายาวนานกว่า 300 ปี จุดเด่นอยู่ที่อาคารบ้านเรือนดั้งเดิม ที่สร้างขึ้นจากดินเหนียว และปูกระเบื้องหลังคาสีดำ ตลอดสองข้างทาง

เวลาทำการ : ร้านค้าส่วนใหญ่เปิด 8.00 น.
การเดินทาง : จากสถานี Okayama ขึ้นรถไฟลงที่สถานี Kurashiki แล้วเดินต่อประมาณ 15 นาที
เว็บไซต์

มีบริการล่องเรือพายชมวิวจากคลองคุระชิกิ ค่าโดยสารเพียงคนละ 500 เยน ได้ชมเมืองคุระชิกิในมุมมองที่แตกต่าง

6. เมืองคัทสึยะมะ (Katsuyama)

ย่านเมืองเก่าคัทสึยะมะ (Katsuyama) ที่ได้รับการอนุรักษ์ทางด้านโครงสร้างอาคาร และการประดับตกแต่ง ให้คงสภาพเดิมไว้อย่างดีที่สุด โดยไฮไลท์สำคัญ นอกจากสถาปัตยกรรมแบบย้อนยุคแล้ว ก็คือ การแขวนผ้าม่านแบบญี่ปุ่นดั้งเดิม หรือ โนเร็น (Noren) ที่หน้าอาคารทุกหลังตลอดเส้นทางกว่า 1 กิโลเมตร ที่ช่วยเติมเต็มสีสันให้กับย่านเมืองเก่าแห่งนี้ ได้อย่างลงตัว

เวลาทำการ : ร้านค้าส่วนใหญ่เปิด 9.00 น.
การเดินทาง : จากสถานี Okayama ขึ้นรถไฟลงที่สถานี Chugoku-Katsuyama แล้วเดินต่อประมาณ 5 นาที
เว็บไซต์

กิจกรรมทำกระเป๋าสตางค์แฮนด์เมดแบบญี่ปุ่น กะมะกุจิ (Gamaguchi) เมื่อทำเสร็จแล้ว สามารถนำกลับบ้านเป็นของที่ระลึกได้

7. ถนนยีนส์โคจิมะ (Kojima Jeans Street)

ถนนยีนส์โคจิมะ (Kojima Jeans Street) ใครที่เป็นแฟนสายยีนส์เดนิม ไม่ควรพลาด เพราะที่นี่มีร้านยีนส์รวมแบรนด์ดัง โดยเฉพาะจากดีไซเนอร์ของญี่ปุ่น กว่า 30 ร้าน ที่ขึ้นชื่อเรื่องคุณภาพ ในวงการแฟชั่นยีนส์ระดับโลก ถึงแม้ว่าโคจิมะจะเป็นเพียงเมืองขนาดเล็กในจังหวัดโอคะยะมะ แต่ก็มีบทบาทสำคัญในอุตสาหรรมสิ่งทอและเสื้อผ้ามาตั้งแต่อดีตกาล หลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 ประเทศญี่ปุ่นได้กลายเป็นผู้ผลิตเครื่องแบบทำงาน รวมไปถึงชุดนักเรียน และกางเกงยีนส์ตัวแรกของญี่ปุ่น ก็ถูกผลิตขึ้นที่เมืองโคจิมะในช่วงปลายทศวรรศ 1960

เทคนิคพิเศษที่เป็นเอกลักษณ์ของกางเกงยีนส์ที่โคจิมะคือการใช้ ผ้าฝ้ายย้อมคราม (indigo dye cotton) ในยีนส์เกรดพรีเมียม โดยผสมผสานกรรมวิธีที่มีรากฐานมาจากผลิตกิโมโน ที่ถูกสืบทอดต่อกันมาจากรุ่นสู่รุ่น หลายร้อยปี

การเดินทาง : จากสถานี Okayama ขึ้นรถไฟลงที่สถานี Kojima แล้วเดินต่อประมาณ 10 นาที
เว็บไซต์


8. หมู่บ้านฟุคิยะ (Fukiya Furusato)

หมู่บ้านฟุคิยะ (Fukiya Furusato) ที่เมืองทะคะฮะชิ (Takahashi) ทางตอนเหนือของจังหวัดโอคะยะมะ (Okayama) เป็นหมู่บ้านโบราณที่ถูกอนุรักษ์มาตั้งแต่ยุคเอโดะ โดดเด่นด้วยอาคารบ้านเรือนที่สร้างด้วยไม้และมีหลังคาเป็นสีน้ำตาลแดง เกิดขึ้นจากการใช้วัตถุที่เรียกว่า เบ็งกะระ (Bengara) ซึ่งนิยมใช้เป็นสีทาบ้านในสมัยก่อน โดยทำมาจากจากสนิมเหล็ก

ภายในหมู่บ้านมีถนนแห่งประวัติศาสตร์ที่มีสถานที่ท่องเที่ยวให้ชมมากมาย เช่น บ้านของตระกูล Katayama ที่ทำการผลิตเบ็งกะระ มากว่า 200 ปี และพิพิธภัณฑ์ที่น่าสนใจอย่าง Fukiya Folk Museum และ Bengara Museum เป็นต้น ถ้าหากเดินทางมาช่วงสุดสัปดาห์ ก็จะมีโอกาสได้ขึ้นรถบัสโบราณ Bonnet Bus ด้วย

การเดินทาง: จากสถานี Okayama ขึ้นรถไฟลงที่สถานี Bitchu Takahashi และต่อรถบัสไปลงที่ป้าย Fukiya
เว็บไซต์


9.โรงเรียนชิซุทะนิ (Former Shizutani School)

โรงเรียนชิซุทะนิ (Former Shizutani School) ตั้งอยู่ที่เมืองบิเซ็น (Bizen) สร้างขึ้นเมื่อปีค.ศ.1670 เป็นโรงเรียนแห่งแรกของสามัญชน และเป็นเขตมรดกทางวัฒนธรรมของญี่ปุ่นเมื่อปีค.ศ.2015 ถูกล้อมด้วยกำแพงหิน และวัสดุที่นำมาใช้ทำหลังคาอาคารเรียนโบราณเป็นเครื่องดินเผาของเมืองบิเซ็น ในช่วงฤดูใบไม้ร่วง ต้นพิซทาชิโอสัญชาติจีน ทั้ง 2 ต้นจะเปลี่ยนสีเป็นสีเหลืองและส้ม เป็นจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่มีชื่อเสียงของเมือง และจะมีการประดับไฟในยามค่ำคืนด้วย

เวลาทำการ : 9.00 – 17.00 น.
ค่าเข้าชม : 400 เยน
การเดินทาง : จากสถานี Yoshinaga โดยสารรถบัสท้องถิ่น ด้านหน้าสถานี ใช้เวลา 10 นาที
เว็บไซต์


10. หมู่บ้านน้ำพุร้อนยุบะระ (Yubara Onsen)

หมู่บ้านน้ำพุร้อนยุบะระ (Yubara Onsen) หมู่บ้านน้ำพุร้อนอันเก่าแก่ ที่ได้รับการยอมรับในหมู่คนญี่ปุ่นว่า เป็นแหล่งออนเซ็นที่ดีที่สุดในแถบตะวันตก แม้จะต้องเดินทางไกลจากตัวเมืองพอสมควร แต่ถือว่าคุ้มค่ามากๆ เพราะเราจะได้เจอกับบรรยากาศที่แสนสงบ และสวยงามแบบไม่เหมือนใคร จุดเด่นของที่นี่คือบ่อน้ำพุร้อนกลางแจ้ง “Sunayu” ที่เปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง โดยไม่มีค่าใช้จ่าย

การเดินทาง : จากสถานี Okayama นั่งรถประจำทางลงที่ Katsuyama Bus Center และเปลี่ยนรถเพื่อมาลงป้าย Yubara Onsen ใช้เวลา 2 ชั่วโมง 30 นาที
เว็บไซต์

Yubara Kokusai Kanko Hotel

เมนูห้ามพลาดของโอคะยะมะ

ปิดท้ายบทความด้วยเมนูห้ามพลาดของโอคะยะมะ ไม่ว่าจะเป็น “Bara sushi” ข้าวหน้าปลาดิบสไตล์โอคะยะมะ, “Kakioko” โอโคโนมิยากิหอยนางรม, “Chiya-gyu” เนื้อวัวคุณภาพเยี่ยม นอกจากนี้ที่โอคะยะมะยังเป็นสวรรค์แห่งผลไม้ที่มีกิจกรรมเก็บผลไม้ทานสดๆกันไม่อั้นอย่าง โมโมะ, ไวท์พีช, องุ่นหลายสายพันธุ์ อาทิ ไชน์มัสคัต, พีโอเน่ และยังมีเมนูพาร์เฟ่ต์ผลไม้ที่ถือว่าเป็นไฮไลท์เช่นกัน รับรองว่าสายกินจะต้องฟินกันอย่างแน่นอน

“บะระซูชิ” (Bara Sushi) ข้าวหน้าปลาดิบสไตล์โอคะยะมะ ถึงจะเรียกว่าซูชิ แต่ไม่เหมือนแบบที่เราคุ้นเคยกัน เพราะ “บะระซูชิ” จะเสิร์ฟวัตถุดิบท้องถิ่น ปลาดิบ กุ้ง หอย ผักดอง และเห็ดชิตาเกะ โปะลงบนข้าวเป็นจาน ทำให้มีความแตกต่างไปจากซูชิหน้าปลาดิบทั่วไป รสชาติก็จะมีทั้งเปรี้ยวและหวาน เป็นอะไรที่แปลกใหม่ดี  แนะนำร้าน Kidoairaku เดินจากสถานี Okayama ได้

“คะคิโอโคะ” (Kakioko) โอโคโนมิยากิที่ใช้วัตถุดิบท้องถิ่นคุณภาพเยี่ยมอย่าง หอยนางรมโอคะยะมะ ขนาดใหญ่ทานคู่กับมีซอสหวาน อร่อยลงตัวและมีคุณค่าโภชนาการสูง ร้านแนะนำคือ Okonomiyaki Mori เดินจากสถานี Okayama ได้

ขอบคุณภาพจาก Okayama City

“คะเอชิซูชิ” (Kaeshi Sushi) ข้าวหน้าปลาดิบที่มีกิมมิคในการเสิร์ฟไม่เหมือนใคร โดยพนักงานจะคว่ำจานอาหารมาก่อน ให้เราเห็นแค่ไข่หวานที่ปูลองพื้นของภาชนะไว้ (ก้นของจานเป็นพลาสติกใส) เมื่อจะรับประทานจึงค่อยพลิกกลับมาอีกด้านหนึ่ง แล้วเปิดฝาออก ก็จะเห็นเป็นหน้าปลาดิบต่างๆสุดอลังการ โปะลงบนข้าวสวย น่ากินสุดๆ

โดยเหตุผลที่ต้องทำแบบนี้ เล่ากันว่า ในสมัยก่อนนั้น ผู้ปกครองเมือง มีนโยบายไม่ต้องการให้ชาวบ้านใช้จ่ายฟุ่มเฟือย โดยเฉพาะเรื่องอาหารการกิน ชาวบ้านจึงทำ คะเอชิซูชิ หรือ ข้าวหน้าปลาดิบแบบกลับด้านไว้ เพื่อเป็นการตบตา เวลามีเจ้าหน้าที่มาตรวจ แล้วค่อยพลิกกลับเป็นด้านของดีๆ หลังจากกลับไปแล้วนั่นเอง 

“ชิยะกิว” (Chiya-gyu) วัวสายพันธุ์เก่าแก่ที่สุดและดีที่สุดของญี่ปุ่น มีรสสัมผัสที่เป็นธรรมชาติ สามรถทานแบบย่างเสียบไม้ราดด้วยน้ำเกรวี่ชุ่มฉ่ำ หรือจะทานแบบชาบูชาบูก็ได้เช่นกัน

ขอบคุณภาพจาก Okayama City

โอคะยะมะยังเป็นสวรรค์แห่งผลไม้ที่มีกิจกรรมเก็บผลไม้ทานสดๆกันไม่อั้นอย่าง โมโมะ, ไวท์พีช, องุ่นหลายสายพันธุ์ อาทิ ไชน์มัสคัต, พีโอเน่ และยังมีเมนูพาร์เฟ่ต์ผลไม้ที่ถือว่าเป็นไฮไลท์ด้วย

ขอบคุณภาพจาก Okayama City
ขอบคุณภาพจาก Okayama City

ติดตามข้อมูลท่องเที่ยวในโอคะยะมะได้ทางเว็บไซต์ >> OKAYAMA

ChugokuFeaturedJapanKansaiMomotaroOkayamaShinkansenคันไซเที่ยวญี่ปุ่นเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเองเที่ยวญี่ปุ่นดอทคอมโมโมทาโร่โอคะยะมะ