องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งประเทศญี่ปุ่น (JNTO) ร่วมกับ Japan Tourism Agency (JTA) และ Japan Association of Travel Agents (JATA) จัดงาน “Japan-Thailand Tourism seminar: Embark upon a new adventure, Discover new treasures” ขึ้นในวันเสาร์ที่ 19 พฤศจิกายน 2565 ที่โรงแรมดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเฉลิมฉลองการท่องเที่ยวแบบสองทางระหว่างประเทศญี่ปุ่นและประเทศไทยที่กลับมาเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง
งานสัมมนาในครั้งนี้จัดขึ้นระหว่างการประชุมสุดยอดผู้นำ APEC ที่ ฯพณฯ นายฟูมิโอะ คิชิดะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นให้เกียรติเข้าร่วมงาน เพื่อบอกเล่าถึงแนวทางการฟื้นฟูการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน รวมทั้งเชิญชวนให้นักท่องเที่ยวชาวไทยเดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่น
นายฟูมิโอะ คิชิดะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ย้ำถึงความพร้อมในการต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มเติมว่า “กระผมรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่มีโอกาสมาพบกับทุกท่านหลังจากช่วงเวลาอันยากลำบากที่เราไม่สามารถเดินทางไปมาหาสู่กันได้ ในที่สุด ขณะนี้โลกได้ก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ที่ต้องใช้ชีวิตร่วมกับโควิด-19 ประเทศญี่ปุ่นจึงได้ริเริ่มโครงการฟื้นฟูการท่องเที่ยวที่เรียกว่า “Open the Treasure of Japan!”
เรานำเสนอประสบการณ์สุดพิเศษต่างๆ อาทิเช่น การเปิดพื้นที่ส่วนพิเศษภายในปราสาทฮิเมจิ แหล่งมรดกโลกทางวัฒนธรรมที่ตามปกติไม่ได้เปิดให้เข้าเยี่ยมชม เทศกาลหิมะซัปโปโรที่จะกลับมาจัดอย่างยิ่งใหญ่ในรอบ 3 ปี ระหว่างวันที่ 4-11 กุมภาพันธ์ 2566 รวมถึงกำแพงหิมะทาเตยามะที่สูงถึง 15 เมตรที่รอทุกท่านมาสัมผัสประสบการณ์และเสน่ห์แห่งฤดูหนาวของญี่ปุ่น กระผมคาดหวังให้การท่องเที่ยวของทั้งไทยและญี่ปุ่นฟื้นฟูกลับสู่ปกติโดยเร็วและผมรอคอยที่จะได้พบกับทุกท่านที่ญี่ปุ่นครับ”
ประธานผู้จัดงานนายซาโตชิเซโนะประธานองค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งประเทศญี่ปุ่น (JNTO) กล่าวในช่วงเปิดงานว่า “ตามหัวข้อย่อยของงานสัมมนา ‘Embark upon a new adventure, Discover new treasures’ (เริ่มต้นการผจญภัยครั้งใหม่ ค้นพบสิ่งล้ำค่าใหม่ๆ) หลังจากที่ญี่ปุ่นและไทยทั้งสองประเทศได้ก้าวข้ามผ่านสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ได้แล้ว ผมอยากให้คนญี่ปุ่นที่มาเที่ยวประเทศไทย รวมทั้งคนไทยที่ไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่น ต่างได้ออกไปผจญภัยใหม่ๆ และค้นหา ‘ประสบการณ์อันล้ำค่า’ ที่ไม่อาจหาอะไรมาทดแทนได้จากการเดินทางท่องเที่ยว”
นายพิพัฒน์รัชกิจประการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาผู้แทนแขกผู้มีเกียรติฝ่ายไทยกล่าวว่า “ประเทศญี่ปุ่นและประเทศไทยถือเป็นมิตรแท้ที่ดีต่อกันมาเป็นเวลาช้านาน ความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยและญี่ปุ่นได้เริ่มต้นและดำเนินมาอย่างราบรื่นจนครบ 135 ปีในปีนี้ ดังนั้น ปี พ.ศ. 2565 จึงถือเป็นปีที่มีความสำคัญยิ่งสำหรับมิตรประเทศทั้งสอง ความสัมพันธ์นี้ได้กระชับแน่นแฟ้น สืบเนื่องมายาวนานในทุกมิติ รวมถึงการเดินทางไปมาหาสู่และท่องเที่ยวระหว่างกันในหมู่ประชาชนของทั้งสองประเทศ
ประเทศไทยยังประสงค์ที่จะมุ่งส่งเสริมการท่องเที่ยวแบบ Two – way Tourism เพื่อกระชับความสัมพันธ์ญี่ปุ่น – ไทยให้ใกล้ชิดกันมากยิ่งขึ้น ซึ่งถือเป็นการขยายโอกาสการสร้างพันธมิตรในการทำงานร่วมกันระหว่างหน่วยงานต่างๆ ของทั้ง 2 ประเทศได้เป็นอย่างดีอีกด้วย ผมเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่า การท่องเที่ยวเป็นเสมือนสะพานเชื่อมโยงคนไทยและญี่ปุ่นเข้าหากัน รวมทั้งเป็นกลไกสำคัญในการส่งเสริมความสัมพันธ์ของทั้ง 2 ประเทศให้ทวีความแน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น”
เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของการเฉลิมฉลอง แขกผู้มีเกียรติฝ่ายไทยและญี่ปุ่นได้ร่วมกันทำพิธีทุบถังสาเก ตามธรรมเนียมที่สืบทอดมาอย่างยาวนานของประเทศญี่ปุ่น และได้เยี่ยมชมภาพนิทรรศการแหล่งท่องเที่ยวญี่ปุ่นที่พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวไทย
ภายในงานสัมมนามีการบรรยายและทอล์กโชว์ บอกเล่าถึงแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจและเสน่ห์ของอาหารญี่ปุ่น ได้แก่
- นายฮิเดยาสุ คิโยโมโตะ Mayor of Himeji City ที่มาเล่าถึงกิจกรรมสุดพิเศษเนื่องในโอกาสฉลองครบรอบ 30 ปีของการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมของปราสาทฮิเมจิ
- นายทาคาชิ โอคุอิ President of Okui Kaiseido Co.,Ltd. ที่มาแนะนำเสน่ห์ของวัตถุดิบอาหารญี่ปุ่น สาหร่ายคอมบุที่เป็นเคล็ดลับ “อุมามิ” ของอาหารญี่ปุ่น
- นายซาโตรุ นากามูระ Executive Director of Hokkaido Tourism Organization ที่มาเชิญนำเสนอเสน่ห์ของฮอกไกโดตลอดทั้ง 4 ฤดูกาล
- ทอล์กโชว์พิเศษโดย นายฮิโระ ซาโนะ พิธีกรและนักแสดงที่มีชื่อเสียงหรือที่รู้จักกันว่า “ฮิโระซัง” จากรายการสุโก้ยเจแปน ได้มาทำหน้าที่พิธีกรแนะนำความน่าสนใจของสถานที่ท่องเที่ยวในภูมิภาคโทโฮคุและคิวชูร่วมกับผู้แทนของหน่วยงานส่งเสริมการท่องเที่ยวจาก 2 ภูมิภาค
งานยิ่งใหญ่ระดับนี้ แค่ได้รับเชิญไปร่วมงานก็รู้สึกเป็นเกียรติมากแล้วครับ ต้องขอขอบพระคุณ JNTO มา ณ ที่นี้ด้วย ป.ล. แอดมินเบิร์ดขอมีส่วนร่วมเล็กๆนะครับ