#จุดหมายปลายทางไม่สำคัญเท่าเรื่องราวระหว่างทาง บางครั้งการเดินทางไปญี่ปุ่น เรามักโฟกัสไปที่เมืองใหญ่ปลายทาง จนอาจมองข้ามเมืองเล็ก ระหว่างทางที่เราเดินทางผ่าน แต่ถ้าเราลองได้หยุดพัก ก็จะพบกับเสน่ห์พื้นเมือง ที่หาได้ยากจากเมืองใหญ่ ครั้งนี้เราจึงขอแนะนำ 10 เมืองน่ารัก ที่สามารถไปเที่ยวได้จากเมืองใหญ่ที่เราคุ้นเคย ตามไปชมกันเลยครับ
JAPAN’S SMALL TOWNS | เที่ยวญี่ปุ่นเมืองเล็ก รอบเมืองใหญ่
1.เมืองวักกะไน (Wakkanai)
จังหวัดฮกไกโด (Hokkaido) ภูมิภาคฮกไกโด (Hokkaido)
จุดเหนือสุดของแผ่นดินญี่ปุ่น เมืองน้ียังไม่ค่อยเป็นที่รู้จัก มากนัก บวกกับการเดินทางที่ค่อนข้างไกลเมื่อเทียบกับสถานที่อื่นๆ ทําให้ถูกมองข้ามไป แต่ใครจะรู้ว่าท่ีนี่เต็มไปด้วยแหล่งท่องเท่ียวมากมายท่ียังคงความเป็นธรรมชาติแบบร้อยเปอร์เซนต์
การเดินทางมาเมืองวักกะไน : จากสถานี Sapporo โดยสารรถไฟ JR ขบวน Ltd.Exp.Soya มายังสถานี Wakkanai ใช้เวลาประมาณ 5 ชั่วโมง
The Tower of Prayer
ทุ่งหญ้าแห่งเนินโซยะ
โดมแนวกั้นคลื่นฝั่งเหนือ
2. จังหวัดฟุกุชิมะ (Fukushima) ภูมิภาคโทโฮะกุ (Tohoku)
ถึงแม้ว่าใครๆ จะบอกว่าฤดูร้อนของญี่ปุ่นนั้นไม่ธรรมดา แต่อีกหนึ่งข้อดีท่ีมาทดแทนกับอากาศร้อน ก็น่าจะเป็นความสวยงามของธรรมชาติสีเขียวสดใส ดอกไม้ และท่ีแน่นอนผลไม้อร่อยๆ พร้อมใจกันออกผลให้รับประทานอย่างมากมาย โดยเฉพาะที่จังหวัดฟุกุชิมะ
การเดินทางมาจังหวัดฟุคุชิมะ : จากสถานี Tokyo เพื่อโดยสารรถไฟชินคังเซ็นขบวน Yamabiko ลงที่สถานี Fukushima ใช้เวลาประมาน 1 ชั่วโมง 30 นาที
อิอิซะกะอนเซ็น (Iizaka Onsen)
หมู่บ้านโบราณโออุจิจูขุ (Ouchijuku)
ฮิกะชิยะมะอนเซ็น (Higashiyama Onsen)
3. เมืองโออาไร (Oarai)
จังหวัดอิบะระกิ (Ibaraki) ภูมิภาคคันโต (Kanto)
ต้ังอยู่ใกล้กับโตเกียว สามารถมาเที่ยวได้แบบไปเช้าเย็นกลับ ชมศูนย์แสดงพันธ์ุสัตว์น้ํา ลิ้มรสไข่ปลาเมนไทโกะสดๆ จากโรงงาน และสักการะศาลเจ้าที่เป็นขวัญใจของเหล่าโอตะ
การเดินทางมาที่เมืองโออาไร : ตั้งต้นที่สถานี Tokyo หรือ Ueno ก็ได้ โดยสารรถไฟ JR สาย Joban ขบวน Limited express มาลงที่สถานี Mito ใช้เวลา 70 นาที จากนั้นต่อรถไฟ Kashima Rinkai Railway ลงที่สถานี Oarai ใช้เวลา 20 นาที
พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ําอควาเวิลด์อิบะระกิโออาไร (Aqua World Ibaraki Oarai Aquarium)
เมนไทปาร์ค สาขาโออาไร (Mentai Park Oarai)
ศาลเจ้าโออาไร อิโซซากิ (Oarai Isosaki Jinja)
4. เมืองมินะคะมิ (Minakami)
จังหวัดกุนมะ (Gunma) ภูมิภาคคันโต (Kanto)
เป็นเมืองเล็กๆ ในจังหวัดกุนมะ ที่อัดแน่นไปด้วยสถานท่ีท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงาม แตกต่างกันออกไปในแต่ละฤดูกาล รวมถึงมีกิจกรรมอีก มากมายที่รอให้เราไปสัมผัส แบบครบทุกอรรถรส ทะคะระกะวะอนเซ็น (Takaragawa Onsen) สถานที่ที่กลายเป็นจุดหมายยอดนิยมที่ถูกพูกถึงอย่างต่อเนื่อง ถ้าจะกล่าวว่าที่นี่งดงามราวกับสวรรค์ในจินตนาการของใครหลายคน ก็คงไม่ผิดเพี้ยนนัก
การเดินทางมาเมืองมินะคะมิ : ตั้งต้นที่สถานี Tokyo โดยสาร Joetsu Shinkansen ลงที่สถานี Jomo-Kogen ประมาณ 1 ชั่วโมง สามารถใช้ JR TOKYO Wide Pass ได้
ทะคะระกะวะอนเซ็น (Takaragawa Onsen)
สวนอิจิโงะโนะอิเอะ (Ichigo no ie, Strawberry House)
5. เมืองอิโต (Ito)
จังหวัดชิซุโอกะ (Shizuoka) ภูมิภาคคันโต (Kanto)
พื้นที่ส่วนใหญ่ของเมืองนี้เต็มไปด้วยภูเขาขนานไปกับริมฝั่งทะเล ทางรถไฟส่วนใหญ่จึงต้องวิ่งลัดเลาะเลียบไปตามชายฝั่งตลอดเส้นทาง สำหรับใครที่ชื่นชอบการนั่งรถไฟชมวิวระหว่างทาง แน่นอนจะต้องเพลิดเพลินกับทัศนียภาพสวยๆริมฝั่งทะเลอย่างแน่นอน
การเดินทางมาเมืองอิโต : จากสถานี Tokyo โดยสารรถไฟสาย JR Limited Express “Odoriko” ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 40 นาที หรือใครที่อยากจะสัมผัสกับวิวข้างทางสวยๆ ริมทะเล สามารถโดยสารรถไฟขบวน “Super View Odoriko” ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 45 นาที
โทไคคัง (Tokaikan)
อิโตะมารีนทาวน์ (Ito Marine Town)
อิซุ ชาโบเต็น พาร์ค (Izu Shaboten Park)
6. เมืองคะมิโคะจิ (Kamikochi)
จังหวัดนะงะโนะ (Nagano) ภูมิภาคจูบุ (Chubu)
ชื่อของคะมิโคะจิ (Kamikochi) ในภาษาญี่ปุ่นมีความหมายว่า “สถานท่ีอันศักดิ์สิทธ์ิซึ่งมีเทพเจ้าสถิตย์อยู่ มีที่มาจากตํานานในอดีต ที่กล่าวกันว่า ณ ศาลเจ้าโฮะทะกะ บนยอดเขาโฮะทะกะ เป็นที่สถิตย์ของเทพเจ้าแห่งท้องทะเล ที่ปกปักษ์คุ้มครองคะมิโคะจิอยู่นั่นเอง
การเดินทางมาเมืองคะมิโคะจิ : ตั้งต้นจากสถานี Matsumoto ใช้ Alps WIDE Free Passport ขึ้นรถไฟ Alpico train (สาย Kamikochi) มาลงที่สถานี Shin-Shimashima หลังจากนั้นขึ้นร ถบัสต่อมาลงที่คะมิโคะจิ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง
สะพานคัปปะบะชิ (Kappabashi)
ภูเขายาเคะดะเกะ (Mount Yakedake)
ศาลเจ้าโฮทะกะชั้นใน (Hotaka Okumiya)
7. เมืองโมะโตะสุ (Motosu) และเมืองกิฟุ (Gifu)
จังหวัดกิฟุ (Gifu) ภูมิภาคจูบุ (Chubu)
เมื่อการมาเยือนจังหวัดกิฟุ ในช่วงที่ซากุระสายพันธุ์หลัก บานไวกว่าปกติ ทําให้ไม่ทันชมซากุระในตัวเมือง เราจึงออกเดินทางตามล่าหาจุดชมซากุระที่อยู่ไกลออกไป จนได้ พบกับสถานที่ชมซากุระช่ือดังของคนญี่ปุ่น ท่ีนักท่องเท่ียวต่างชาติยังเข้าไม่ถึง
การเดินทางมายังเมืองกิฟุ : จากสถานี Nagoya โดยสารรถไฟ JR สาย Tokaido ลงสถานี Gifu ใช้เวลา 20 นาที
ต้นซากุระอุสุซุมิ (Usuzumi-zakura)
รถไฟทะรุมิ (Tarumi Railways)
ศาลเจ้าอินะบะ (Inaba Shrine)
8. เมืองอิซุโมะ (Izumo)
จังหวัดชิมะเนะ (Shimane) ภูมิภาคชูโงะกุ (Chugoku)
มีช่ือเสียงด้านความศักดิ์สิทธิ์ ที่ชาวญี่ปุ่นน้ันให้ความเคารพ เเละนับถือกันมายาวนานว่า ถ้าหากได้มีโอกาสเดินทางมาที่ ศาลเจ้าอิซุโมะไทฉะ (Izumo Taisha) ศาลเจ้าชินโตที่มีความเก่าแก่ท่ีสุดในญี่ปุ่นแล้วนั้น ถือว่าเป็นมงคลอันสูงสุดของชีวิตเลยทีเดียว
การเดินทางมายังเมืองอิซุโมะ : จากสถานี Matsue โดยสารรถไฟ JR มายังสถานี Izumoshi ด้วยรถไฟด่วน ใช้เวลา 30 นาที (รถไฟธรรมดา ใช้เวลา 50 นาที)
ศาลเจ้าอิซุโมะไทฉะ (Izumo Taisha Shrine)
ศาลเจ้าฮิโนมิซะกิ (Hinomisaki Shrine)
ประภาคารอิซุโมะ ฮิโนะ มิซะกิ (Izumo Hino Misaki Lighthouse)
9. เมืองทะคะจิโฮะ (Takachiho) และเมืองนิจินัน (Nichinan)
จังหวัดมิยะซะกิ (Miyazaki) ภูมิภาคคิวชู (Kyushu)
ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของจังหวัดมิยะซะกิ เมืองทะคะจิโฮะมีสถานท่ีท่องเท่ียวเชิงธรรมชาติที่มีชื่อเสียงอย่าง หุบเขาทะคะจิโฮะ (Takachiho Gorge) ที่เรียกได้ว่าเป็นสัญลักษณ์ของจังหวัดน้ีเลยก็ว่าได้ แล้วมาเที่ยวเมืองนิจินันสัมผัสกับความย่ิงใหญ่ของหุ่นจําลองรูปสลักหินโมอายท้ังเจ็ด
หุบเขาทะคะจิโฮะ (Takachiho Gorge)
ซันเมสเสนิจินัน (Sun Messe Nichinan)
ศาลเจ้าอุโดะ (Udo shrine)
การเดินทางมายังเมืองทะคะจิโฮะ : จากสถานี Nobeoka โดยสารรถประจําทาง Miyazaki Kotsu Bus ลงป้าย Takachiho Bus Center ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง
10. เมืองคะระสึ (Karatsu)
จังหวัดซะกะ (Saga) ภูมิภาคคิวชู (Kyushu)
เมื่อได้ยินช่ือ “ซะกะ” หลายคนคงนึกถึง ภาพสวยๆ เน้ือเรื่องสุดซึ้งในภาพยนตร์และซีรีส์ดังมากมาย เช่น STAY ซากะ.. ฉันจะคิดถึงเธอ เมื่อปีค.ศ. 2016 ท่ีใช้สถานที่ในเมืองคะระสึ (Karatsu) เป็นฉากหลังของเรื่อง และกลายเป็นจุดเริ่มต้นท่ีทําให้เมืองซะกะเป็นที่รู้จักมากข้ึน
การเดินทางมายังเมืองคะระสึ : จากสถานี Hakata ในจังหวัดฟุกุโอกะ โดยสารรถไฟสาย Fukuoka City Subway Airport มาลงที่สถานี Meinohana จากนั้นเปลี่ยนเป็นสาย JR Chikuhi ลงที่สถานี Karatsu ใช้เวลา 1 ชั่วโมงครึ่ง
จุดชมวิวยอดเขาคางามิ (Kagamiyama Observation)
ปราสาทคะระสึ (Karatsu Castle)
น้ําตกมิคะเอริ (Mikaeri no Taki Falls)
และสำหรับเพื่อนๆที่ชอบแนวนี้ สามารถไปหาซื้อหนังสือ “Japan’s Small Towns – เที่ยวญี่ปุ่นเมืองเล็ก รอบเมืองใหญ่” พ็อกเก็ตบุ๊คเล่มใหม่ของพวกเรา เที่ยวญี่ปุ่นดอทคอม ได้แล้ววันนี้ โดยเนื้อหาภายในเล่มได้รวบรวมการเดินทางออกไปยังเมืองรอง หรือเรียกได้ว่าเป็นการออกไปหาพื้นที่ใหม่ๆ โดยมีเจ้าหน้าที่จากการท่องเที่ยวในระดับจังหวัดและภูมิภาค รวมถึงชาวบ้านผู้ที่เกิด และเติบโตในแต่ละพื้นที่ที่เราไป เป็นคนแนะนําพร้อมพาไปสัมผัสความเป็นเมืองรองที่ไม่ได้มีเสน่ห์แพ้เมืองใหญ่ๆเมืองไหนเลย