สำหรับคนที่หลงไหลในสีสันของความเป็นเมืองหลวง ผู้คน แฟชั่น และ เทคโนโลยี ที่ผสมกันอย่างลงตัว คงต้องยกให้ “โตเกียว” เป็นอันดับหนึ่งในใจของใครหลายคน ที่เวลานึกถึงอยากจะไปญี่ปุ่น เพราะโตเกียวมีครบทุกรสชาติ เป็นเมืองใหญ่สุดทันสมัย ที่มาบรรจบกับวัฒนธรรมดั้งเดิมอย่างลงตัว
แทบทุกสถานีใหญ่ มีความโดดเด่นในแบบของตัวเอง รวมถึงสถานที่เที่ยวในเช็กลิสต์ที่ต้องไปมากมาย ในบทความนี้ได้รวม ที่เที่ยว 16 แห่งในโตเกียว ตามสายเส้นทางรถไฟใต้ดิน ให้ตามไปเช็คอิน ด้วยตัวเอง ตามเก็บแบบครบ ๆ คุ้ม ๆ คว้าแผนที่รถไฟโตเกียวในมือ ก็ไปลุยกันได้เลย
สนับสนุนบทความโดย Shopee
1.ย่านชิบุยะ (Shibuya)
ทางม้าลายห้าแยกชิบุยะผ่านฝูงชนและคลื่นมนุษย์เป็นภาพสัญลักษณ์ที่ทุกคนจดจำได้เป็นอย่างดี และยังมีอนุสาวรีย์น้องหมาฮาจิโค สุนัขที่เป็นตัวแทนแห่งความซื่อสัตย์ ด้านหน้าสถานีชิบุยะ ที่เป็นจุดนับพบของใครหลายคน ช้อปปิ้งอัปเดตแฟชั่นที่ห้าง Shibuya 109 และ Shibuya Hikarie หรือถ้าใครชอบสินค้าแนว DIYก็แวะไปได้ที่ LOFT และ Tokyu Hands ที่มีให้เลือกสรรกันทั้งตึกเลย ล่าสุดมีจุดชมวิวแห่งใหม่ที่ชื่อว่า Shibuya Scramble Square ด้วย
การเดินทาง: Tokyo Metro สาย Hanzomon, Fukutoshin หรือสาย Ginza Line ลงสถานี Shibuya
2.ศาลเจ้าเมจิ (Meiji Shrine)
ศาลเจ้าเมจิ ศาลเจ้าหลวงที่มีความสำคัญของโตเกียว ตามประวัติศาลเจ้าเมจิ ถูกสร้างเพื่อถวายให้กับจักรพรรดิเมจิ และจักรพรรดินีโชเก็ง ปัจจุบันใช้ในพิธีสำคัญ ๆ เท่านั้น บริเวณทางเข้าจะมีเสาไม้โทริอิที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น บรรยากาศภายในร่มรื่น และเงียบสงบ ถือเป็นที่เที่ยวโตเกียวที่จะพาเราหลีกหนีความวุ่นวาย เพื่อไปซึมซับวัฒนธรรมญี่ปุ่นดั้งเดิม
การเดินทาง: Tokyo Metro สาย Chiyoda / Fukutoshin ลงสถานี Meiji Jingumae
3.ย่านฮาราจูกุ (Harajuku)
ถ้าถามถึงย่านแฟชั่นนำเทรนด์วัฒนธรรมการแต่งกายสุดคูลของวัยรุ่นญี่ปุ่น รวมไปถึงการแต่งกายคอสเพลย์ ต้องยกให้ ฮาราจูกุ เป็นศูนย์รวม ใครมาที่นี่ก็ต้องไปเดินที่ถนนทะเกะชิตะซึ่งทอดยาวกว่า 400 เมตร และเต็มไปด้วยร้านขายสินค้าแฟชั่น ใครที่อยากลิ้มรสเครปแบบต้นตำรับ ตลอดเส้นทางมีร้านขึ้นชื่ออย่างร้าน Sweet Box หรือ Angels Heart ไว้ให้คุณได้ลิ้มรสอยู่ด้วย
เมื่อเดินทะลุไปอีกด้านของถนนทะเคชิตะ เป็นที่ตั้งของร้าน Line Friends Flagship Store เดินต่อไปก็จะเจอกับถนนโอโมเตะซานโด ที่ได้ชื่อว่าเป็นถนนช็องเซลิเซแห่งญี่ปุ่น สองข้างทางรายล้อมไปด้วยร้านแบรนเนมสุดหรู ร้านคาเฟ่ และอาคารดีไซน์สวย
การเดินทาง: Tokyo Metro สาย Chiyoda / Fukutoshin ลงสถานี Meiji Jingumae
4.ย่านชินจูกุ (Shinjuku)
ย่านแสงสีที่รวมทุกอย่างของโตเกียว ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองที่ไม่เคยหลับไหล ที่จะพาไปสัมผัสความวุ่นวายของเมืองใหญ่ในทุกย่างก้าว เป็นย่านที่เต็มไปด้วย ร้านอาหาร อาคารสูงระฟ้า แหล่งบันเทิงยามค่ำคืน และห้างชื่อดังของญี่ปุ่น อย่าง อิเซตัน และ ทะคะชิมะยะ ให้ไปช้อปปิงกันอย่างจุใจทั้งสินค้าแฟชั่น ของใช้ หรือจะเป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
เป็นจุดศูนย์กลางของโตเกียวที่รวมสายรถไฟไว้ถึง 10 สายด้วยกัน นอกจากนี้เราสามารถขึ้นไปชมวิวมุมสูงได้ที่อาคารศาลาว่าการมหานครโตเกียว (Tokyo Metropolitan Government Building) บริเวณชั้น 45 ได้ฟรี ๆ อีกด้วย
การเดินทาง: Tokyo Metro สาย Marunouchi / Toei Subway สาย Oedo & Shinjuku ลงสถานี Shinjuku
5.ย่านคาบูกิโช (Kabukicho)
ย่านคาบูกิโชเป็นส่วนหนึ่งของเขตชินจูกุ สามารถเดินจากสถานีรถไฟ Shinjuku ได้ เรามักจะได้พบนักท่องราตรี ไปดื่มด่ำความบันเทิงตลอดทั้งคืน กันในย่านนี้ เพราะมีทั้งร้านอาหาร ร้านคาราโอเกะ ผับ บาร์ และยังขึ้นชื่อเรื่องบาร์โฮส ถ้านึกไม่ออกว่าไปทางไหน ให้มองหาเจ้าก็อดซิลลา ที่โผล่หน้าอยู่บนตึกโรงหนังโทโฮ อยู่ด้านในโรงแรม Hotel Gracery ที่เปิดให้นักท่องเที่ยวขึ้นไปถ่ายรูปได้ด้วย
การเดินทาง: จากสถานีรถไฟ Shinjuku ทางออก Kabukicho
6.โตเกียวทาวเวอร์ (Tokyo Tower)
โตเกียวทาวเวอร์ ถือเป็นหอคอยแห่งความของชาวญี่ปุ่น ถูกสร้างขึ้นหลังจากสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 เพียงไม่กี่ปี เพื่อใช้เป็นสถานีส่งสัญญาณโทรทัศน์และวิทยุ จึงเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์แทนความภูมิใจของชาวญี่ปุ่น เรามักจะได้เห็นภาพของหอคอยนี้ในหนังหรือการ์ตูนอยู่บ่อยครั้ง จนเป็นที่จดจำในฐานะสัญลักษณ์ของโตเกียว ไฮไลท์คือการขึ้นไปชมบรรยากาศของเมืองโตเกียวจากบนหอคอย ภายในโตเกียวทาวเวอร์ เคยเป็นที่ตั้งของธีมพาร์กวันพีชตั้ง แต่น่าเสียดายที่เพิ่งปิดตัวไปเมื่อก.ค.2020 ที่ผ่านมา
การเดินทาง: Toei Subway สาย Oedo Line ลงสถานี Akabanebashi / Tokyo Metro สาย Hibiya Line ลงสถานี Kamiyacho
7.โตเกียวสกายทรี (Tokyo Sky Tree)
เสาส่งสัญญาณแห่งใหม่ของกรุงโตเกียว ที่สร้างมาแทนโตเกียวทาวเวอร์ที่ใช้งานมานานกว่า 50 ปี และเป็นจุดศูนย์กลางทางธุรกิจแห่งใหม่ที่กำลังขยายตัว โดยภายในตึกเปิดให้เข้าชมวิวมุมสูง 2 ชั้นด้วยกัน ความสูงที่ 350 เมตร และ 450 เมตร ภายในตึกยังเป็นที่ตั้งของห้าง Solamachi รวบรวมร้านอาหาร ร้านคาเฟ่น่ารัก ร้านขายของที่ระลึก และซุมิดะอควาเรียมที่ชั้น 5 – 6 ท้องฟ้าจำลองที่ชั้น 7 และพิพิธภัณฑ์ไปรษณีย์ที่ชั้น 9
การเดินทาง: Tokyo Metro สาย Hanzomon / Toei Subway สาย Asakusa ลงสถานี Oshiage
8.ย่านกินซ่า (Ginza)
ย่านช้อปปิ้งชั้นนำของโตเกียวที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน ห้างสรรพสินค้า Wako สร้างขึ้นเมื่อ 90 ปีก่อนบนถนนสายนี้ รวมไปถึงร้านค้า ร้านอาหารดั้งเดิมมากมาย ปัจจุบันได้กลายเป็นศูนย์รวมสินค้าระดับไฮเอนด์ ที่ขึ้นชื่อทั้งเรื่องคุณภาพและราคา อีกทั้งยังมีห้างสรรพสินค้าเปิดใหม่ อย่าง Ginza Six และ Tokyu Plaza Ginza แนะนำให้ไปวันสุดสัปดาห์ เพราะทั้งถนนจะถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นถนนคนเดิน
การเดินทาง: Tokyo Metro สาย Marunouchi, Ginza หรือ Hibiya ลงสถานี Ginza
9.ย่านอะกิฮะบะระ (Akihabara)
ย่านอะกิฮะบะระ หรือเรียกสั้น ๆ ว่าอะกิบะ เป็นที่รวมของร้านเกมเซ็นเตอร์ ของเล่น ฟิกเกอร์โมเดลการ์ตูน หนังสือมังงะ สินค้าอนิเมะ ของสะสมราคาย่อมเยาทั้งมือหนึ่งและมือสอง รวมไปถึงเมดคาเฟ่ และร้าน AKB48 ที่เหมาะสำหรับเหล่าเกมเมอร์ และเหล่าโอตาคุ ทั้งหลาย อีกทั้งยังเป็นที่ตั้งของห้างสรรพสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่าง Yodobashi Camera อีกด้วย
การเดินทาง: Tokyo Metro สาย Hibiya ลงสถานี Akihabara
10.วัดเซ็นโซจิ (Sensoji Temple)
วัดเซ็นโซจิ หรือที่เรียกกันติดปากว่า วัดอะซะคุสะ เป็นวัดพุทธที่เก่าแก่ที่สุดในโตเกียว มีประวัติศาสตรืนับตั้งแต่ปีค.ศ.628 เป็นศูนย์รวมของพุทธศาสนิกชนในญี่ปุ่น ใครไปที่นี่ก็สามารถเข้าไปสักการะบูชาเจ้าแม่กวนอิม และซื้อเครื่องรางนำโชคได้
บริเวณทางเข้ามีประตูสายฟ้า คะมินาระมง ซึ่งเป็นจุดถ่ายรูปยอดฮิตคู่กับโคมแดงยักษ์ แนะนำให้ไปช่วงเช้า เพราะคนยังไม่เยอะมาก เดินเล่นที่ถนนนะกะมิเซะ ที่ทอดยาวจากประตูสายฟ้าไปยังตัวอาคารวัด สองข้างทางเต็มไปด้วยของกิน ของฝากขึ้นชื่อ ก่อนกลับสามารถเก็บวิวมุมสูงของวัดและถนนนะกะมิเซะได้ฟรี ที่อาคารศูนย์บริการนักท่องเที่ยวชั้น 8 ตึกอยู่ฝั่งถนนเยื้องกับประตูสายฟ้า
การเดินทาง: Tokyo Metro สาย Ginza / Toei Subway สาย Asakusa ลงสถานี Asakusa
11.สวนอุเอโนะ (Ueno Park)
สวนอูเอโนะเป็นสวนสาธารณะสไตล์ตะวันตกแห่งแรกๆของญี่ปุ่น ตั้งอยู่ใจกลางกรุงโตเกียว ไม่ไกลจากอะสะคุสะมากนัก ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ที่นี่เป็นจุดชมซากุระติดอันดับของโตเกียว เพราะมีต้นซากุระปลูกเรียงรายนับพันต้น โดยรอบก็จะมีศาลเจ้าให้ได้แวะไปสักการะขอพร เช่น ศาสเจ้าเบ็นเต็งโด ศาลเจ้าโกะโจเต็ง เป็นต้น รวมถึงอนุสาวรีย์ของท่านไซโก ทากาโมริ ซามูไรในตำนานผู้เคยเป็นหนึ่งในนักรบที่ทรงอิทธิพลที่สุดของญี่ปุ่น และยังได้รับการขนานนามว่าเป็น “ซามูไรที่แท้จริงคนสุดท้าย”
การเดินทาง: Tokyo Metro สาย Ginza หรือสาย Hibiya ลงที่สถานี Ueno
12.ตลาดอะเมโยโกะ (Ameyoko Market)
ตลาดอะเมโยโกะ ที่มีชื่อเต็มว่า Ameya Yokocho แปลว่า ตรอกร้านขายลูกอม ปัจจุบันตลาด เต็มไปด้วยร้านค้ามากมายตามตรอกซอกซอย ทั้งรองเท้าผ้าใบที่คนไทยนิยมไปซื้อ เสื้อผ้า ขนมญี่ปุ่น ของฝาก ของใช้ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ร้านผลไม้ อาหารทะเล และร้านอาหารญี่ปุ่น เรียกได้ว่าครบทุกอย่าง แถมสินค้าหลายอย่างราคาถูกกว่าที่อื่นอีกด้วย
การเดินทาง: Tokyo Metro สาย Ginza หรือสาย Hibiya ลงที่สถานี Ueno
13.ตลาดปลาซึกิจิ (Tsukiji Fish Market)
ถ้าอยากสัมผัสอาหารของชาวญี่ปุ่น โดยเฉพาะอาหารสด อย่าง ซูชิและซาชิมิ ต้องไปที่ตลาดปลาซึกิจิ แต่เดิมมีสองส่วนคือ ตลาดสดขายส่ง ที่ทำการประมูลปลา และส่วนที่เป็นร้านขายอาหาร แต่ปัจจุบันตัวตลาดสดได้ย้ายไปอยู่ที่ Toyosu เหลือไว้เฉพาะส่วนที่เป็นร้านขายอาหาร แต่ถ้าจุดประสงค์คือการไปกิน รับรองไม่ผิดหวังแน่นอน ทั้งซูชิ ซาชิมิ ปลาไหล หอย ปลาแซลมอน ปลาทูน่า รสชาติดี อาหารสดอร่อย ในราคาสบายกระเป๋า
การเดินทาง: Tokyo Metro สาย Hibiya ลงสถานี Tsukiji
14.พระราชวังอิมพีเรียล (Imperial Palace)
พระราชวังอิมพีเรียล สร้างขึ้นบนที่ตั้งเดิมของปราสาทเอโดะในอดีต ปัจจุบันยังคงใช้เป็นที่ประทับของพระจักรพรรดิญี่ปุ่น ซึ่งประชาชนทั่วไปสามารถเข้าไปชมได้ ตามรอบลงทะเบียนเพื่อรับบัตรที่หน้าประตู ไม่ว่าจะมาเองหรือมาเป็นทัวร์ก็ตาม มี 2 รอบต่อวัน รอบเช้า 8.30 น. และรอบบ่าย 12.00 น. หยุดให้บริการทุกวันอาทิตย์ ภายในกว้างใหญ่และสวยงามมาก โดยเฉพาะบริเวณสวนญี่ปุ่น ใครไปก็อย่าลืมแวะไปถ่ายรูปสะพานนิจูบะชิ หรือที่คนไทยเรียกว่า สะพานแว่นตา
การเดินทาง: Tokyo Metro สาย Tozai, Chiyoda, Marunouchi หรือ Hanzomon / Toei Subway สาย Mita ลงสถานี Otemachi
15.รปปงงิฮิลส์ (Roppongi Hills)
โครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในคอนเซ็ปต์ City with City เปิดครั้งแรกเมื่อปีค.ศ.2003 ตั้งอยู่ในย่านรปปงงิ เป็นศูนย์รวมทั้งร้านค้า โรงภาพยนต์ ที่พักอาศัย โรงเรียน พิพิธภัณฑ์ และเป็นสำนักงานใหญ่ของ TV Asahi อีกด้วย ในบริเวณรปปงงิฮิลล์มีอาคาร Mori Tower มีความสูง 238 เมตร เป็นตึกสูงอันดับต้นๆ ของโตเกียว ภายในมีร้านค้า รวมไปถึง Mori Art Museum ที่จัดแสดงงานศิลปะตลอดปีที่ชั้น 53 และสามารถขึ้นไปชมวิวมุมสูงของเมืองได้บน Tokyo City View ที่ชั้น 52
การเดินทาง: Tokyo Metro สาย Hibiya/ Toei Subway สาย Oedo ลงสถานี Roppongi
16.โตเกียวมิดทาวน์ (Tokyo Midtown)
ตึกสูงระฟ้าที่ตั้งตะหง่านในย่านรปปงงิ เป็นตึกที่สูงที่สุดในโตเกียว ด้วยความสูง 248 เมตร มีดีไซน์ล้ำสมัย เปิดครั้งแรกเมื่อปีค.ศ.2007 ภายในมีทั้งร้านอาหาร ร้านค้า พิพิธภัณฑ์ อย่าง Suntory Museum of Art ใครอยากเดินชมธรรมชาติสวย ๆ บริเวณด้านหลังมีสวนสไตล์ญี่ปุ่น ฮินะกิโช ส่วนคนที่ชอบการถ่ายภาพอย่าลืมแวะไปที่ Fujifilm Square บริเวณชั้น 1 Midtown West ที่รวบรวมภาพถ่ายของช่างภาพระดับโลกไว้มากมาย และในช่วงคริสต์มาสของทุกปี ที่นี่มีจัดงานประดับไฟ Midtown Christmas
การเดินทาง: Tokyo Metro สาย Hibiya/ Toei Subway สาย Oedo ลงสถานี Roppongi
สำหรับเพื่อนๆที่กำลังวางแผนจะไปเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง และอยากเก็บที่เที่ยวในโตเกียว แบบคุ้มค่าและประหยัด แนะนำให้ซื้อตั๋วรถไฟ Tokyo Subway Pass มีทั้งแบบ 24 ชั่วโมง, 48 ชั่วโมง และ 72 ชั่วโมง ให้ได้เดินทางกันไม่จำกัดเที่ยว แค่มีแผนที่รถไฟโตเกียวในมือก็ไปได้ครบ แล้วอย่าลืมโหลดแอพไว้เช็คเส้นทางรถไฟ สำหรับการเดินทางไว้ด้วยนะ
Shopee 11.11 Big Sale กลับมาอีกครั้งปังกว่าเดิม! จัดโปรปังแน่นตารางตลอดแคมเปญ มาพร้อม ส่วนลดมากกว่า 50% ทุกวัน และ Flash Sale รวมไอเท็มฮอตราคาเริ่มต้นเพียง 9 บาท! พร้อมโค้ดส่งฟรีจุกๆ ขั้นต่ำ 0 บาท! เริ่มตั้งแต่วันที่ 20 ตุลาคม – 11 พฤศจิกายน 2020 นี้เท่านั้น!
เพลิดเพลินไปกับดีลเด็ดจากหลากหลายหมวดหมู่สินค้า ไม่ว่าจะเป็น เครื่องสำอางและความงาม ของแต่งบ้าน เกม กล้อง คอมพิวเตอร์ กีฬา ฯลฯ และอย่าลืมเก็บ โค้ดส่วนลด 50% ทุกเที่ยงคืนมาช้อปไอเท็มเด็ดจากร้านดังได้ทุกวัน!
สำหรับคนที่ชอบซื้อของใช้ในราคาสุดคุ้ม รอช้อปที่ Shopee Mart Big Sale ได้เลย! ดีล Grocery อาหาร ขนม และของใช้ในบ้านสุดปังรวมอยู่ที่นี่แล้ว!