Saga: ขับรถเที่ยวซากะ 4 วัน 3 คืน ตอน 2 : Yobuko – Arita – Takeo

Story & Photo by Flying Whale l วาฬมีปีก

ซากะ 4 วัน 3 คืน (ตอนที่ 2: เมืองโยบุโกะ เมืองอะริตะ เมืองทะเคะโอะ)

ติดตามอ่านตอนที่ 1 ได้ที่นี่ >> วาฬมีปีกพาขับรถเที่ยว Saga 4 วัน 3 คืน ตอน 1 : Karatsu

กลับมาแล้วกับ ตอนที่ 2 ของการขับรถเที่ยวซากะ วันนี้ วาฬขอเริ่มต้นกันด้วย แถบชานเมืองทางตอนเหนือสุดของเมืองคาราสึ ที่เรียกว่า เขตโยบุโกะ (Yobuko) จุดนี้ถือเป็นไฮไลท์ของวันเลยนะครับ เพราะนอกจากจะได้ดื่มด่ำกับ บรรยากาศของวิถีชีวิตความเป็นชนบท และธรรมชาติที่สวยงามแล้ว เรายังจะได้ชิม “ซาชิมิหมึกอิคิซุคุริ” หรือ เจ้าหมึกตัวใส ที่หนวดยังขยับได้ ของดีแห่งซากะ ซึ่งเราติดค้างกันไว้ตั้งแต่ตอนที่ 1 กันสักที รับรองว่าอร่อยเด็ดอย่างแน่นอนฮะ

อิ่มท้องแล้ว ก็ได้เวลาเดินทางต่อ คราวนี้เราจะเริ่มย้ายเมืองนะครับ โดยขับรถมุ่งหน้าลงใต้เพื่อไปเที่ยวที่ เมืองอะริตะ (Arita) ซึ่งอยู่ค่อนไปทางทิศตะวันตกของจังหวัดซากะ ใช้เวลาเดินทางจาก โยบุโกะ (ประมาณ) 1 ชั่วโมงครับ เมืองเล็กๆ แห่งนี้ ได้รับการขนานนามว่า “เมืองแห่งเครื่องปั้นดินเผา” เพราะมีชื่อเสียงจากการเป็นแหล่งผลิตเครื่องเซรามิกคุณภาพดี มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง และฝีมือของช่างนั้น ก็ได้รับการยอมรับอย่างสูงในญี่ปุ่น เพราะเทคนิคต่าง ๆ ได้สืบทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่นเป็นร้อยปีแล้วครับ ใครที่ชื่นชอบเครื่องเซรามิกสไตล์ญี่ปุ่น ก็สามารถหาซื้อ ติดไม่ติดมือกลับไปเป็นของที่ระลึกได้ด้วยครับ

จากนั้น เราจะเปลี่ยนเมืองอีกครั้ง โดยวาฬจะพาไปที่ เมืองทะเคะโอะ (Takeo) ซึ่งอยู่ใกล้ๆ กัน ใช้เวลาเดินทางไม่เกิน (ประมาณ) 20 นาที เท่านั้นเอง ที่นี่เราจะกลับมาทำตัวสโลว์ไลฟ์กันอีกครั้ง เป็นการปิดท้ายวันกันแบบสบายตัว เพราะเมืองทะเคะโอะนั้น เต็มไปด้วย ที่เที่ยวสายชิลล์ ไม่ว่าจะเป็น หอสมุดประจำเมืองที่ออกแบบได้สวยงามไม่เหมือนใคร, ศาลเจ้าศักดิ์สิทธิ์ที่คนท้องถิ่นนิยมมาขอพรเรื่องความรัก หรือ บ่อแช่ออนเซ็นชื่อดัง ที่เก่าแก่ติดอันดับของญี่ปุ่นเลยทีเดียว

สำหรับที่เที่ยวในวันที่ 2 มี 8 ที่หลัก ตามนี้เลยครับ
1. แหลมฮาโดะ (Hado Miyasaki) – เมืองโยบุโกะ
2. ตลาดเช้าโยบุโกะ (Yobuko Morning Market) – เมืองโยบุโกะ
3. “ซาชิมิหมึกอิคิซุคุริ” ที่ ร้านคะวะทะโระ (Ika Ikizukuri @ Kawataro) – เมืองโยบุโกะ
4. ศาลเจ้าโทซัง (Tozan Jinja) – เมืองอะริตะ
5. แกลอรี่ อะริตะ (Gallery Arita) – เมืองอะริตะ
6. ศาลเจ้าทะเคะโอะ (Takeo Jinja) – เมืองทะเคะโอะ
7. หอสมุดเมืองทะเคะโอะ (Takeo City Library) – เมืองทะเคะโอะ
8. บ่อน้ำพุร้อนทะเคะโอะ (Takeo Onsen) – เมืองทะเคะโอะ

1. แหลมฮาโดะ (Hado Miyasaki) พิกัด

แหลมขนาดเล็กที่ยื่นออกไปในทะเลเง็นไค (Genkai-nada) เป็นหนึ่งในฉากสวยๆ จากภาพยนตร์เรื่อง “STAY ซากะ..ฉันจะคิดถึงเธอ” ที่ควรค่าแก่การตามรอยมากๆครับ โดยไฮไลท์ของแหลมฮาโดะนั้น จะมีอยู่ 2 จุดที่สำคัญ ได้แก่ จุดแรก อนุสรณ์ปูนปั้นรูปหัวใจสีขาวสุดโรแมนติก ที่คู่รักมักนิยมมาถ่ายรูปด้วยกัน โดยเชื่อว่าจะช่วยปกปักษ์รักษาความรักให้มั่นคงและยืนยาว และ จุดที่ 2 หอสังเกตการณ์สัตว์น้ำ (Underwater Observation Tower) ที่ลึกลงไปจากระดับน้ำทะเลถึง 7 เมตร เมื่อลงไปด้านล่าง เราจะได้เห็นบรรยากาศใต้ทะเลของจริง ที่เต็มไปด้วยฝูงปลาตามธรรมชาติ ซึ่ง วาฬรับรองว่า ให้ความรู้สึกตื่นตาตื่นใจแตกต่างจากการดูปลาในตู้กระจกอย่างแน่นอนครับผม

อนุสรณ์ปูนปั้นรูปหัวใจสีขาวสุดโรแมนติก

Underwater Observation Tower

ตรงลานจอดรถมีร้านอาหารทะเลสดๆแบบโลคอลให้เราได้อิ่มท้องก่อนไปถ่ายรูปด้วย

ทีมนักแสดง “STAY ซากะ..ฉันจะคิดถึงเธอ” ก็เคยมาที่นี่นะ

หอยซาซาเอะ ย่างสดๆ อร่อยมากๆ ทุกคนอย่าลืมสั่งกันนะ

2. ตลาดโยะบุโกะ (Yobuko Morning Market) พิกัด

ตลาดเช้าที่ใหญ่ติดอันดับ 1 ใน 3 ของญี่ปุ่นที่เป็นแหล่งจับจ่ายในตอนเช้าของย่านนี้ ร้านค้าต่างๆในตลาดจะมีแต่ของสดๆที่เพิ่งขนจากเรือมาวางขายกันเเลย แถมเราสามารถที่จะซื้อและนำมากินที่ร้านให้เค้าย่างได้เลย พิเศษไปกว่านั้นคือมีร้านข้าวเกรียบปลาหมึกยักษ์ร้านดังที่ไม่ว่าใครมาที่ตลาดนี้จะต้องซื้อกินกันทุกคน แถมยังมีภาษาไทยกำกับไว้ให้สำหรับคนไทยโดยเฉพาะเลย

ร้านขายข้าวเกรียบปลากหมึกยักษ์

ใกล้ๆกับตลาดจะมีบริการนั่งเรือท้องกระจกออกไปเพื่อชมวิวๆ และชมปลาในบริเวณรอบๆอ่าว

เรือก็ทั้งรูปปลาหมึกและปลาวาฬ

3. ร้านคะวะทะโระ (Kawataro) พิกัด

และอย่างที่บอกไปตอนที่แล้วว่าของดีเมืองคาราสึก็คือซาชิมิปลาหมึกกล้วยที่จะแร่ให้เราสดๆก่อนเสริฟกันเลย โดยร้านที่ขึ้นชื่อนั้นก็ไม่ไกลจากตลาดโยะบุโกะ สามารถที่จะเดินมาได้เลย โดยเซ็ตซาชิมินั้นพอเราทานส่วนที่เป็นเนื้อครบ พนักงานจะมานำส่วนที่เหลือไปทำเป็นเทมปุระให้เราต่อ โดยราคาต่อเซ็ตจะอยู่ที่ประมาณ 2,700 เยน รับรอบว่าอิ่มแน่นอน

https://www.facebook.com/tiewyeepoon/videos/1949189278487379/

4. ศาลเจ้าโทซัง (Tozan jinja) พิกัด

สำหรับความสำคัญของเมืองอะริตะนั้น เมืองเล็กๆแห่งนี้ มีชื่อเสียงจากการเป็นแหล่งผลิตเครื่องเซรามิกคุณภาพดี ด้วยงานศิลปะที่มีเอกลักษณ์ และฝีมือของช่างที่ได้รับการขัดเกลาจากรุ่นสู่รุ่นมานับร้อยปี ทำให้ศาลเจ้าของที่นี่นั้นก็มีจุดเด่นตรงเสาโทริอิที่ทำมาจากเซรามิกเช่นกัน และชาวเมืองก็มักจะขอพรที่นี่ก่อนจะปั้นอะไรซักอย่างกันอยู่เป็นประจำ

5. แกลอรี่ อะริตะ (Gallery Arita) พิกัด

แกลอรี่ อะริตะ ตั้งอยู่ที่ เมืองอะริตะ จังหวัดซะงะ ภูมิภาคคิวชู ประเทศญี่ปุ่น ตัวร้านได้รับการออกแบบให้เป็นทั้งสตูดิโอจัดแสดงเครื่องใช้เซรามิก และคาเฟ่บรรยากาศดี ที่มีจุดเด่นเฉพาะตัวอย่างมาก ตรงที่ นอกจากการสั่งกาแฟหรือชาร้อนตามปกติแล้ว เรายังสามารถเลือกถ้วยเซรามิกจากบริเวณส่วนจัดแสดง ที่มีอยู่อย่างละลานตากว่า 2,000 ลวดลาย ให้กลายมาเป็นภาชนะใส่เครื่องดื่มแก้วพิเศษเพียงหนึ่งเดียวของเราได้ตามใจชอบอีกด้วยครับ (เฉพาะรับประทานที่ร้านเท่านั้นนะครับ) สำหรับวิธีการนั้นง่ายมากเลย โดยเมื่อ สั่งเครื่องดื่ม รวมถึง เซ็ตอาหารที่มีชา, กาแฟเสริฟเคียงด้วย เรียบร้อยแล้ว ให้นำแท็ก (Tag) หมายเลขโต๊ะของเราไปใส่ในถ้วยที่ชอบ แล้วนำไปให้พนักงาน ก็เป็นอันเสร็จกระบวนการครับผม

นอกจากกิมมิค เรื่องถ้วยกาแฟแล้ว ความดีงามของ แกลอรี่ อะริตะ ยังอยู่ที่คอนเซ็ปต์การสนับสนุนภูมิปัญญาท้องถิ่นอย่างแท้จริง เพราะไม่ว่าจะเป็น วัตถุดิบอาหาร เครื่องมือ อุปกรณ์ ของใช้ ไปจนถึง แนวคิดการตกแต่งร้านทั้งหมด ล้วนเป็นส่วนผสมอันลงตัวของวิถีชาวบ้านแห่งเมืองอาริตะแบบเพียวๆ ซึ่งได้รับการสืบทอดต่อกันมาอย่างยาวนาน เรียกได้ว่า มาร้านนี้ร้านเดียวเราจะได้สัมผัสกับกลิ่นอายของเมืองอะริตะแบบเต็มๆอย่างแน่นอนครับ (รสชาติอาหารก็อร่อยมากๆด้วยนะครับ วาฬสั่งข้าวแกงกะหรี่เนื้อท็อปด้วยชีสอบ ดีงามสุดๆฮะ)

https://www.facebook.com/flyingwhalemag/videos/1883407061670336/

6. ศาลเจ้าทะเคะโอะ (Takeo Jinja) พิกัด

ศาลเจ้าที่เมืองนี้มีจุดเด่นคือศาลเจ้าเป็นสีขาว แทนที่จะเป็นสีแดงเหมือนกับศาลเจ้าทั่วไปที่เราพบได้ทั่วญี่ปุ่น โดยสาเหตุที่เป็นสีขาวเพราะตัวแทนส่งสาสน์ของศาลเจ้าแห่งนี้คือนกสีขาว (นกกระยาง) และในบริเวณศาลเจ้านั้นยังมีต้นไม้ใหญ่สองต้นซึ่งมีลำต้นที่ต้นกันและภายในก็จะมีศาลเจ้าอยู่ด้านในอีกที่ โดยที่ 1 ปีจะเปิดให้คนเข้าไปขอพรได้แค่ปีละครั้ง และถ้าเราสังเกตดีๆ รูปลักษณ์ของต้นไม้ใหญ่สองต้นนี้คือต้นแบบของต้นไม้ในการ์ตูนเรื่องโทโทโร่เพื่อนรักนั้นเอง

ทางเข้าวัดจะมีต้นไม้คู่รัก ถ้าใครอยากจะขอพรสามารถไปซื้อกระดิ่งเพื่อมาผูกตอนขอพร (กระดิ่งสามารถซื้อได้ภายในศาลเจ้า)

7. หอสมุดทะเคะโอะ (Takeo City Library) พิกัด

หอสมุดแห่งนี้ถูกปรับปรุงจากหอสมุดเดิมที่มีคนเข้ามาใช้บริการน้อยมากๆ จนกลายเป็นหอสมุดที่มีรูปแบบสถาปัตยกรรมที่สวยงาม และทันสมัยมากๆ รวมไปถึงมีทั้งร้านกาแฟ ร้านหนังสือ รวมไว้จนกลายเป็นหนึ่งในสถานที่พักผ่อนของชาวเมืองเลยก็ว่าได้

ไม่ไกลจากห้องสมุด มีสวนดอกบ๊วยขนาดใหญ่ที่จะบานสวยในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์-ต้นมีนาคม

สำหรับคืนนี้วาฬมาพักที่โรงแรม Kyotoya จุดเด่นของโรงแรมนี้คือการตกแต่งที่เน้นบรรยากาศแบบวิทเทจ และภายในโรงแรมยังมีทั้งบริการบ่อออนเซ็นส่วนตัวอีกด้วย พิกัด

8. ทะเคะโอะออนเซ็น (Takeo Onsen) พิกัด

แหล่งออนเซ็นที่ถือว่าเป็น 1 ในแหล่งบ่อน้ำพุร้อนที่เก่าแก่มากๆของญี่ปุ่น และเป็น 1 ในฉากจากภาพยนตร์เรื่อง “STAY ซากะ..ฉันจะคิดถึงเธอ” ที่เข้ามานั่งแช่ออนเซ็นกันที่นี่ โดยจุดเด่นที่ทำให้ที่เป็นที่พูดถึงมาแต่โบราณคือซุ้มประตูสีแดงที่ตั้งสง่าอยู่ทางเข้า และถ้าเราขึ้นไปชั้นบนและมองไปที่บนลายของเพดานจะมีรูปของ 4 นักกษัตร ซึ่งเป็น 4 นักกษัตรที่ไม่มีอยู่บนเพดานของที่สถานีรถไฟโตเกียวนั้นเอง โดยคนที่ออกแบบนั้นเป็นคนเดียวกันและเค้ามีจุดประสงค์ที่อยากจะให้คนสังเกตและหาคำตอบว่า 4 นักษัตรที่เหลือนั้นอยู่ที่ไหนและตามมาที่นี่นั้นเอง

AritaFlying WhaleKyushuSagaTakeo OnsenYobukoคิวชูซะงะซากะวาฬมีปีกเที่ยวคิวชูเที่ยวญี่ปุ่นเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง